เวียดนามเปิดตัวรถไฟฟ้า ชาวโฮจิมินห์คึกคัก คนทั่วโลกจับตามอง
รถไฟฟ้าใหม่ โฮจิมินห์เล่นใหญ่ เบียดเสียดเหมือนงานวัด
ใครยังไม่ลองขึ้นรถไฟฟ้าสายใหม่ในเวียดนามบ้าง? คําถามยอดฮิตช่วงนี้ หลังจากที่ รถไฟฟ้าสายแรกในโฮจิมินห์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นกระแสใหญ่ทันที! ทั้งแออัด ทั้งเฮฮาเหมือนไปงานเทศกาลฟรีๆ แบบไม่ต้องซื้อตั๋ว คนแห่กันแน่นจนสถานีแทบล้นทะลัก
รถไฟฟ้าสายนี้คือความหวังที่รอคอยมานานหลายปี หลังจากเลื่อนเปิดตัวมาหลายครั้ง ในที่สุดก็ถึงวันสำคัญ และวันแรกที่เปิดใช้บริการ ผู้คนก็พากันแห่มาทดลองนั่งแน่นชานชาลา บ้างตื่นเต้นจนต้องโพสต์ภาพแชร์โซเชียลทันที ส่วนบางคนก็ขอหลบอยู่บ้าน ดูคลิปพอแล้ว!
“เหมือนไปงานวัด” ความเห็นชาวโซเชียล
ในวันแรกของการเปิดตัว ความเห็นในโลกออนไลน์หลั่งไหลเข้ามาแบบถล่มทลาย หลายคนบอกว่า "นี่มันงานเทศกาลชัดๆ" หรือ "เหมือนคอนเสิร์ตเลย เบียดเสียดสุดๆ" อีกคนแซวว่า "ถ้าจะเบียดกันขนาดนี้ ขอนอนรออีกเดือนดีกว่า" อารมณ์ขันแบบนี้สะท้อนความอดทนและวิถีชีวิตของคนเวียดนามได้เป็นอย่างดี
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมองในแง่ดี หลายคอมเมนต์พูดถึงปัญหา เช่น การใช้เวลาสร้างนานถึง 20 ปี งบประมาณบานปลาย หรือความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสในที่คนแน่นๆ มีคนเตือนว่า "ระวังทรัพย์สินของตัวเองด้วยนะ" หรือ "ควรเพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชั่วโมงเร่งด่วน"
จุดเปลี่ยนชีวิตคนโฮจิมินห์
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือความหวังใหม่ในชีวิตของคนเมือง รถไฟฟ้าสายนี้ไม่ได้เป็นแค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่คือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต หลายคนเชื่อว่ารถไฟฟ้าจะช่วยลดความแออัดบนท้องถนน และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง มีคนแสดงความเห็นว่า "หากโครงการนี้สำเร็จ เราอาจได้เห็นระบบแบบนี้ในเมืองอื่นๆ ของเวียดนาม"
ไม่เพียงแค่นั้น การเปิดตัวรถไฟฟ้ายังสร้างบทสนทนาใหม่เกี่ยวกับ วัฒนธรรมการเดินทางในเมืองใหญ่ เช่น การยืนเข้าแถว การใช้บริการอย่างมีระเบียบ "อยากให้ทุกคนยืนเข้าแถวเหมือนญี่ปุ่น จะได้ไม่แออัด" คำพูดเหล่านี้แสดงถึงความต้องการปรับตัวให้ทันกับยุคใหม่
ชาวต่างชาติยังจับตามอง
รถไฟฟ้าสายใหม่ของโฮจิมินห์ไม่ได้เป็นที่สนใจเฉพาะในเวียดนาม ชาวต่างชาติก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน! ชาวฟิลิปปินส์แซวว่า "นี่มันสั้นกว่า MRT ในมะนิลาอีก นึกว่าจะสร้างยาวๆ แบบ LRT-2 ของเรา" ส่วนชาวญี่ปุ่นชมว่า "เหมือนย้อนวันวานที่ญี่ปุ่นเมื่อ 50 ปีก่อน สะอาดและดูใหม่ดีมาก"
ฝั่งชาวไทยไม่น้อยหน้า มีคนพูดว่า "เห็นภาพแล้วคิดถึงตอน BTS เปิดใหม่ๆ คนแห่ไปลองจนแน่นเหมือนงานวัด" ด้านคนฝรั่งเศสให้มุมมองเชิงลึกว่า "ความสำเร็จอยู่ที่การบำรุงรักษาและการจัดการระยะยาว ไม่ใช่แค่เปิดตัววันแรก"
ความหวังที่ต้องจับตา
ในภาพรวม เสียงสะท้อนจากทั้งชาวเวียดนามและต่างชาติแสดงให้เห็นว่ารถไฟฟ้าสายใหม่นี้ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่มันคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโฮจิมินห์ หลายคนหวังว่าจะได้เห็นเส้นทางเพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น คอมเมนต์หนึ่งสรุปได้ดีว่า "นี่คือจุดเริ่มต้น เวียดนามจะต้องก้าวต่อไป และเราหวังว่าจะได้เห็นระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยกว่าเดิม"
แม้จะมีทั้งคำชื่นชมและเสียงวิจารณ์ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ คนเวียดนามเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ และพร้อมจะก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่า