ไฟลุกกลางงาน เขมรจัดเคาท์ดาวน์ใหญ่ หวังเทียบไทย แต่ดันเผาพังยับทั้งเวที
ไฟลุกท่วมกลางงานปีใหม่ในกัมพูชา
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกลางงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ของชาวกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ พวกเขาตั้งใจจะจัดงานใหญ่ให้ยิ่งใหญ่อลังการ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้หันมาสนใจมากขึ้น ตั้งเป้าจะสู้เคาท์ดาวน์ไทยแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเลยทีเดียว
งานนี้จัดกันใกล้พระราชวังอย่างเต็มที่ ทั้งแสง สี เสียง พุไฟ ดนตรีสด จัดมาเต็มเหมือนจะพยายามเอาชนะงานใหญ่ในกรุงเทพฯ ของไทยที่ CNN ยกให้เป็นหนึ่งในที่สุดของโลก แต่แทนที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน งานนี้กลับพังไม่เป็นท่า เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำเอาชาวโซเชียลทั้งอาเซียนอ้าปากค้าง
ไฟไหม้กลางงานใหญ่
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนพลุไฟถูกจุดขึ้นฟ้า ทุกอย่างตอนแรกดูดี น่าตื่นตาตื่นใจ แต่แล้วสะเก็ดไฟจากพลุเจ้ากรรมดันตกลงมาที่ภาพของกษัตริย์กัมพูชา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการตกแต่งเวที
จากสะเก็ดเล็กๆ กลายเป็นไฟลุกลาม ไหม้ภาพนั้นจนเกือบหมด จากนั้นไฟก็ลามไปเวทีหลักของงานอย่างรวดเร็ว ทำเอาทีมงานที่จัดเตรียมงานแทบไม่ทันตั้งตัว งานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ควรเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการเฉลิมฉลอง กลายเป็นภาพที่เต็มไปด้วยควันไฟและความวุ่นวาย
ชาวอาเซียนมีความเห็นอย่างไร?
แน่นอนว่าข่าวนี้กลายเป็นไวรัลในทันที โดยชาวโซเชียลจากหลายประเทศในอาเซียนต่างพากันมาแสดงความคิดเห็นในหลากหลายแนวทาง มีทั้งอำขำๆ ประชดประชัน บางคนก็แอบแซะเบาๆ แต่ก็มีหลายคนที่ให้กำลังใจ
- ชาวเวียดนามคนหนึ่ง พูดถึงเหตุการณ์นี้แบบเป็นงานศิลปะว่า “งานปีใหม่เริ่มต้นด้วยแสงสีตระการตา และจบลงด้วยควันดำที่เหมือนบอกลาความรุ่งเรืองในอดีตของอาณาจักรโบราณ” พร้อมทิ้งท้ายประชดว่า สักวันหนึ่งชาวเขมรจะกลับมายิ่งใหญ่…ในอีก 1,000 ปี
- อีกความเห็นจากชาวไทย แซวว่า “ไฟไหม้แบบนี้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของโชว์หรือเปล่า? ดีใจที่ไม่เกิดเหตุร้ายแรง แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นการแสดงที่ไม่มีใครเลียนแบบได้!”
- ส่วนคอมเมนต์ของชาวเขมรบางคน ออกมาแก้ตัวว่า “นี่เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อย่าเอาไปล้อกันเลย!” แต่กลับเจอชาวไทยตอกกลับว่า “ตอนพวกคุณล้อเราเรื่องไฟไหม้รถบัส ทีนี้คงเข้าใจแล้วใช่ไหม?”
งานนี้สะท้อนอะไร?
สิ่งหนึ่งที่หลายคนพูดถึงคือความพร้อมของงาน แม้จะพยายามเทียบเคียงความอลังการของไทย แต่ดูเหมือนทีมงานในกัมพูชาจะยังขาดประสบการณ์และการเตรียมพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
- ไม่มีรถดับเพลิงมาเตรียมพร้อมใกล้สถานที่จัดงาน
- ทีมงานดูไม่เป็นระบบ และปล่อยให้ไฟไหม้ลุกลามโดยไม่มีใครช่วยกันควบคุม
- จัดงานใกล้พระราชวังและสถานที่สำคัญ โดยไม่มีมาตรการป้องกันความเสี่ยง
เรื่องนี้ทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเป็น "ลางบอกเหตุ" เพราะไฟไหม้เกิดขึ้นใกล้พระราชวังและภาพของกษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศนี้
เปรียบเทียบกับไทย
ในขณะเดียวกัน เมื่อมองมาที่งานเคาท์ดาวน์ของไทย ปีนี้ต้องบอกว่าปังสุดๆ ด้วยการแสดงของ ลิซ่า BLACKPINK ที่ทำให้ The ICONSIAM แน่นไปด้วยแฟนคลับและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สื่อดังหลายเจ้าก็ลงข่าวยกย่องประเทศไทยว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับการฉลองปีใหม่
สิ่งที่ไทยทำได้ดีและทำให้งานสำเร็จทุกปีคือการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัย การจัดการแสงสีเสียง รวมถึงการมีทีมงานมืออาชีพคอยควบคุมสถานการณ์
บทเรียนจากกัมพูชา
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความผิดพลาด แต่มันสะท้อนถึงความพร้อมและการจัดการที่แตกต่างกันของสองประเทศ แม้กัมพูชาจะพยายามสร้างความยิ่งใหญ่ให้เทียบเคียงไทย แต่หากขาดการวางแผนและการจัดการที่ดี ผลลัพธ์ก็อาจออกมาในทิศทางตรงกันข้าม
ทิ้งท้าย
ถึงแม้งานปีใหม่ของกัมพูชาจะจบลงแบบ “เผาจริงเผาโชว์” แต่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่พวกเขาคงนำไปปรับปรุงในปีหน้า ชาวอาเซียนเองก็หวังว่ากัมพูชาจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในอนาคต
สำหรับใครที่ชอบงานเคาท์ดาวน์สนุกๆ ปีหน้าไทยเราก็ยังพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเหมือนเดิม เพราะความอลังการแบบไทยๆ และความพร้อมในทุกด้านนี่แหละ ที่ทำให้ไทยยังครองใจนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าสวัสดีครับ