คดีสยองอินโดนีเซียที่วิญญาณคนตายกลับมาไขคดี! (คนขวัญอ่อนห้ามอ่าน)
หากพูดถึงเรื่องราวของคดีฆาตกรรมปริศนาที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ คดีของ “วีนา จีเรอบน” จากอินโดนีเซียในปี 2016 คือหนึ่งในเรื่องที่ถูกเล่าขานไปทั่วจนกลายเป็นทั้งภาพยนตร์และข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนทั้งประเทศ หลายคนเชื่อว่านี่คือคดีที่วิญญาณของผู้ตายกลับมา “ไขปริศนา” ด้วยตัวเอง เพราะการเสียชีวิตของเธอไม่ได้จบลงง่าย ๆ แบบที่ใครเข้าใจกัน
แต่เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่แสนปกติในนครจีเรอบน ซึ่งในคืนหนึ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับหญิงสาววัย 21 ปีชื่อ “วีนา” และแฟนหนุ่มของเธอ
คืนโศกนาฏกรรม
ย้อนกลับไปในค่ำคืนเดือนกันยายน ปี 2016 วีนาและแฟนหนุ่มกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากไปฉลองวันครบรอบการคบหากัน ในช่วงที่ถนนเงียบสงัดกลางดึก ทั้งคู่ถูกแก๊งมอเตอร์ไซค์กลุ่มหนึ่งขี่ไล่ตามอย่างไม่ลดละ ตอนแรกพวกเขาคิดว่าอาจเป็นเพียงการก่อกวนธรรมดา แต่ในไม่ช้าความกลัวก็เปลี่ยนเป็นความจริง เมื่อแก๊งนั้นเริ่มเข้าประกบรถจักรยานยนต์ของพวกเขา
ตามคำบอกเล่าของพยานในพื้นที่ วีนาและแฟนหนุ่มถูกข่มขู่ก่อนที่จะถูกรุมทำร้ายและผลักตกลงไปในคูน้ำข้างทาง ทว่าพวกเขาไม่ได้เสียชีวิตทันที สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือเรื่องเลวร้ายเกินจะจินตนาการได้ เมื่อแก๊งมอเตอร์ไซค์ลากตัววีนาไปในที่เปลี่ยว และเธอถูกกระทำชำเราอย่างโหดเหี้ยม
แฟนหนุ่มของวีนาพยายามขัดขืน แต่เขาถูกทุบตีจนแน่นิ่ง ก่อนที่ทั้งสองจะถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุราวกับเป็นแค่ “ขยะ” ชิ้นหนึ่ง ท้ายที่สุด ตำรวจกลับระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งสองคือ “อุบัติเหตุจราจร” โดยไม่ได้สอบสวนอะไรเพิ่มเติม
ภาพยนตร์ที่ปลุกคดีให้ฟื้นคืน
คดีนี้อาจถูกลืมไปตลอดกาล หากไม่มีภาพยนตร์เรื่อง “Vina: Sebelum 7 Hari” ออกฉายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 เนื้อหาในหนังเล่าถึงวีนาในฐานะวิญญาณที่กลับมาพยายามสื่อสารกับโลกมนุษย์เพื่อเปิดเผยความจริงว่าเธอไม่ได้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แต่เป็นการฆาตกรรมอันโหดเหี้ยม
สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้ยิ่งดังไปทั่วอินโดนีเซีย ไม่ใช่เพียงเพราะการเล่าเรื่องที่ลุ้นระทึก แต่เพราะมันอิงจากเหตุการณ์จริงอย่างละเอียด จนชาวเน็ตหลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดตำรวจถึงสรุปคดีได้ง่ายดายขนาดนั้น
หลักฐานสำคัญจากโลกวิญญาณ..
สิ่งที่ชวนขนลุกที่สุดในคดีนี้คือ “คลิปเสียง” ที่ถูกบันทึกไว้ในปี 2016 เพียงไม่กี่วันหลังจากวีนาเสียชีวิต คลิปนี้มาจากเพื่อนสาวคนสนิทของวีนา ซึ่งในคืนนั้นเธออ้างว่า “ถูกวิญญาณของวีนาเข้าสิง” และได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดในคืนเกิดเหตุอย่างละเอียด
ในคลิปเสียง เพื่อนของวีนาเล่าว่า
“มันไม่ใช่อุบัติเหตุ! พวกเขาลากฉันไป ฉันร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยิน พวกเขาทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า…”
เธอยังเอ่ยถึงรายละเอียดของแก๊งมอเตอร์ไซค์ เช่น สีรถ หมายเลขทะเบียน และตำหนิบนร่างกายของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ซึ่งตรงกับคำให้การของพยานที่พบเห็นแก๊งนั้นในคืนเดียวกัน
แม้ตำรวจจะรับคลิปนี้ไว้ แต่ในเวลานั้นกลับไม่มีการดำเนินการต่อ และคดีก็ถูกปิดไปในที่สุด
หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย และคลิปเสียงถูกแชร์กันอย่างแพร่หลาย ตำรวจอินโดนีเซียจึงตัดสินใจรื้อคดีขึ้นมาอีกครั้ง โดยใช้หลักฐานเก่า รวมถึงคำให้การใหม่จากประชาชนที่กล้าออกมาพูด
ในที่สุด คนร้ายหนึ่งในแก๊งถูกจับกุม และเขายอมรับว่าแก๊งของเขาเป็นผู้ลงมือฆ่าวีนาและแฟนหนุ่มจริง ๆ แม้จะยังมีบางคนที่ยังลอยนวล แต่คำสารภาพนี้ก็ยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ในปี 2016 คือการฆาตกรรม
แม้คดีจะเริ่มคลี่คลาย แต่คำถามที่ยังคงค้างคาในใจของใครหลายคนก็คือ หากไม่มีภาพยนตร์เรื่องนี้ และหากวิญญาณของวีนาไม่ “ออกมา” เพื่อเปิดเผยความจริง คดีนี้จะถูกลืมไปตลอดกาลหรือไม่?
หรือวีนาเองต้องการความยุติธรรมจากโลกมนุษย์ จนเธอเลือกจะไม่ไปไหนจนกว่าคดีจะคลี่คลาย?
เรื่องราวของ “วีนา จีเรอบน” ไม่เพียงแค่ทำให้เราเห็นถึงความโหดร้ายของมนุษย์ แต่ยังทำให้เราเชื่อว่าความยุติธรรมอาจไม่มีวันจางหายไป แม้ผู้ที่เรียกร้องมันจะอยู่ในโลกที่มองไม่เห็นก็ตาม
แล้วคุณล่ะ เชื่อหรือไม่ว่า วิญญาณของวีนาได้กลับมาไขคดีด้วยตัวเอง?