เทศกาลวันหยุดยาว กับ ปาร์ตี้ที่มีแอลกอออล์ มักจะมาคู่กันเสมอ เราควรจะดื่มแค่ไหนดีที่ไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ(มากเกินไป)
เมื่อถึงช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวๆนั้น พวกเรามักจะไปเฮฮาปาร์ตี้ตามที่ต่างๆกันอย่างสุดเหวี่ยง ทั้งเที่ยว ทั้งกิน ทั้งดื่ม ไม่ได้หยุดหย่อนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะการดื่ม ซึ่งแน่นอนผมหมายถึงแอลกอฮอล์แน่นอน ว่าแต่เราจะดื่มกันเท่าใด ขนาดไหนถึงจะพอเหมาะโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย สุขภาพการเงินและสุขภาพการงาน งั้นมาดูการทำงานของแอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อร่างกายของเรากันครับ
โดย แอลกอฮอล์ นั้นมีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจผิดถูก ส่วนที่คอยยับยั้งการกระทำที่เจ้าตัวคิดว่าไม่ถูกไม่ควรทั้งหลายไว้ เมื่อส่วนนี้โดนกดไว้ อาจเห็นหลายคนมีพฤติกรรมที่คึกคะนอง กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หรือสิ่งที่อาจเก็บกดไว้ออกมา ดังนั้นจึงควรดื่มพอประมาณ ในด้านสุขภาพ อวัยวะที่รับบทหนักในการกำจัดแอลกอฮอล์ในร่างกายคือตับ เซลล์ตับจะผลิตเอนไซม์เพื่อเปลี่ยนแอลกอฮอล์ไปเป็นอะเซทัลดีไฮด์ และเปลี่ยนเป็นกรดอะซิติก และอะเซทิลโคเอ ตามลำดับ
ซึ่งสามารถเข้าสู่เมทาบอลิซึมต่อให้ได้พลังงานและน้ำ ตราบใดที่เรายังดื่มไม่หยุด ตับจะยังคงทำงานย่อยสลายแอลกอฮอล์ไม่หยุดเช่นกัน จนตับละเลยหน้าที่สลายกรดไขมัน การกำจัดสารพิษอื่นๆ ผลคือ เกิดการคั่งไขมันที่ตับ (fatty liver) รวมทั้งสารพิษต่างที่ร่างกายได้รับมา จนอาจนำไปสู่ตับอักเสบ พังผืดที่ตับ ในที่สุด ก็จะกลายเป็นตับแข็ง
อีกทั้ง แอลกอฮอล์ทำให้กรดไพรูวิกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติกมากขึ้น เกิดกรดแลคติกคั่งในเลือด เลือดมีความเป็นกรดสูง ร่างกายพยายามขับกรดแลคติกออก จึงมีการแข่งขันกับการขับกรดยูริก ทำให้กรดยูริกขับออกได้น้อยลง ซึ่งมีผลตามมาให้กรดยูริกคั่งและเสี่ยงโรคเกาต์ตามมาได้นั่นเอง