จากการศึกษา สมาร์ทวอช หลายแบรนด์ พบ PFAS สารเคมีอันตรายบนสายรัดข้อมือ ซึ่งสารนี้สามารถตกค้างอยู่ได้หลายพันปี
วารสาร Environmental Science & Technology Letters ได้ตีพิมพ์ข้อมูลว่า สายรัด Smart Watch มีส่วนผสมของ PFAS สารเคมีอันตราย สามารถตกค้างอยู่ในดิน น้ำ และบรรยากาศได้นานกว่าหลายพันปี และในการศึกษานี้ ทีมนักวิจัยได้ทดสอบสายรัดข้อมือสมาร์ทวอช 22 เส้นจากแบรนด์ต่างๆ โดยบางเส้นเป็นสินค้าใหม่ และบางเส้นผ่านการใช้งานมาแล้ว สิ่งที่พบคือ สายรัดข้อมือทั้ง 13 เส้นที่โฆษณาว่าทำจากยาง ฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ ล้วนมีฟลูออรีน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีสาร PFAS ผสมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามีสายรัดข้อมือ 2 เส้นจากทั้งหมด 9 เส้น ที่แม้ไม่ได้โฆษณาว่าทำจากยางฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ แต่ก็ยังมีสารฟลูออรีนผสมเจือปนอยู่ด้วย จากการศึกษาเจาะลึกละเอียดไปถึงเรื่องราคา ซึ่งจุดนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่ทีมนักวิจัยบอกว่า สายรัดข้อมือที่มีราคาสูงกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1,038 บาท มักจะมีฟลูออรีนมากกว่าสายรัดข้อมือที่มีราคาต่ำกว่า 15 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 518 บาท
ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยเปิดเผยว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสาร PFAS ที่สะสมอยู่ในอุปกรณ์ส่งผลอะไรกับร่างกาย หรือร่างกายอาจจะไม่ดูดซับสาร PFAS ไปเลยก็ได้ ดร. ไอฟ์ ร็อดนีย์ แพทย์ผิวหนังและผู้อำนวยการก่อตั้งอีเทอร์นัล เดอร์มาโทโลจี + เอสเททิคส์ สันนิษฐานว่า แม้ว่าสารเหล่านี้จะแนบอยู่กับผิวหนังของคุณโดยตรง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ามันจะถูกดูดซึมผ่านผิวหนังได้ แต่กระนี้ มีหลาย ๆ ประเทศได้เตรียมตัวประกาศห้ามใช้สาร PFAS อย่างถาวร ยกตัวอย่างเช่น สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาการห้ามใช้ PFAS ทั่วยุโรปตั้งแต่ต้นปี 2569 ในขณะที่นิวซีแลนด์จะห้ามการใช้ PFAS ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายในปี 2570