หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความทรงจำที่หายไป

เนื้อหาโดย tophunter

 

ความทรงจำที่หายไป

เสียงกรีดร้องดังสนั่นทั่วชั้น 15 ของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดห้องพักเห็นร่างของชายวัยกลางคนนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เธอรีบวิ่งออกมาแจ้งรปภ. ก่อนที่ทุกอย่างจะวุ่นวายไปหมด

ผมยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง ร่างของผู้ตายถูกแทงหลายครั้งจนเลือดกระเซ็นเปื้อนผนังและพรม ทั่วทั้งห้องมีร่องรอยการต่อสู้ชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้ผมปวดหัวที่สุดคือ กล้องวงจรปิดทั้งหมดในโรงแรมถูกลบข้อมูลไปอย่างสะอาดเกลี้ยง

"สารวัตรครับ เราพบพยานคนหนึ่งครับ" เสียงของลูกน้องดึงความสนใจผมไป

ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีน้ำเงินนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ชั้น 1 สีหน้าเขาดูสับสนและหวาดกลัว "ผม...ผมจำอะไรไม่ได้เลยครับ" เขาพูดเสียงสั่น "ผมตื่นมาก็เจอเรื่องนี้แล้ว"

"คุณชื่ออะไรครับ?" ผมถามพลางหยิบสมุดบันทึกออกมา

"ธีร์ครับ ธีรวัฒน์ วงศ์ประดิษฐ์"

"คุณธีร์จำได้ไหมว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?"

เขาส่ายหน้า "ผมพยายามนึกแล้วครับ แต่ความทรงจำ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามันเหมือนถูกลบออกไปหมด สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือผมกำลังทำงานที่ออฟฟิศ แล้วหลังจากนั้น...มันว่างเปล่าไปหมด"

ผมมองดูบัตรประจำตัวของเขา ธีรวัฒน์ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่มีประวัติอาชญากรรม ดูเป็นคนธรรมดาทั่วไป

"แล้วคุณมาเจออยู่ที่ไหนในโรงแรม?"

"ผมตื่นมาในห้องพักชั้น 14 ครับ ห้อง 1408 พอได้ยินเสียงวุ่นวาย ผมก็เลยลงมาดู..."

ผมจดบันทึกไว้ ห้องที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 15 ห้อง 1508 อยู่ตรงด้านบนห้องของธีรวัฒน์พอดี

"คุณหมอครับ ช่วยตรวจร่างกายคุณธีร์หน่อย" ผมหันไปพูดกับแพทย์นิติเวชที่มาด้วย

หลังจากตรวจอย่างละเอียด หมอบอกว่าไม่พบบาดแผลภายนอก แต่มีรอยฟกช้ำเล็กน้อยที่ท้ายทอย "น่าจะถูกกระแทกหรือถูกตีครับ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วคราว"

ผมกลับขึ้นไปที่ห้องเกิดเหตุอีกครั้ง มองสำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียด ผู้ตายชื่อนายวิชิต อายุ 45 ปี เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ทรัพย์สินในห้องไม่ได้หายไป แสดงว่าไม่ใช่การชิงทรัพย์

บนโต๊ะมีแก้วไวน์สองใบ หนึ่งในนั้นมีรอยลิปสติกสีแดงเข้ม ผมส่งไปตรวจลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ในถังขยะมีเศษกระดาษที่ฉีกทิ้งไว้ ผมพยายามต่อมันกลับ เป็นใบแจ้งหนี้จากร้านอัญมณีชื่อดัง มียอดเงินหลายล้านบาท

"สารวัตรครับ" ลูกน้องวิ่งเข้ามารายงาน "ทางโรงแรมบอกว่านายวิชิตเช็คอินเมื่อคืนตอนสี่ทุ่มครับ มีผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง แต่กล้องวงจรปิดถูกลบไปหมด เราเลยไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร"

ผมพยักหน้ารับทราบ กลับลงไปที่ล็อบบี้อีกครั้ง ธีรวัฒน์ยังนั่งอยู่ที่เดิม สีหน้าเขาดูสับสนน้อยลง

"คุณเริ่มจำอะไรได้บ้างไหม?"

"มันแปลกนะครับ" เขาพูดช้าๆ "ผมเริ่มเห็นภาพบางอย่าง...เหมือนความฝัน ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอใส่ชุดสีแดง..."

ผมนั่งลงข้างๆ เขา "คุณจำได้ว่าเธอหน้าตาเป็นยังไงไหม?"

"ยัง...ยังไม่ชัดเจนครับ แต่ผมจำกลิ่นน้ำหอมของเธอได้ กลิ่นดอกกุหลาบ..." เขาหลับตาพยายามนึก "แล้วก็...แหวนเพชร มันส่องประกายมาก"

ผมจดทุกอย่างลงในสมุด ดูเหมือนความทรงจำของธีรวัฒน์จะค่อยๆ กลับมา แต่มันยังไม่ชัดเจนพอ

"ถ้าคุณจำอะไรได้เพิ่ม รีบแจ้งผมนะครับ" ผมยื่นนามบัตรให้เขา "แต่ตอนนี้ขอให้คุณอยู่ในเมืองก่อน เราอาจต้องสอบปากคำคุณเพิ่มเติม"

ธีรวัฒน์พยักหน้า สายตาเขาเหม่อลอยเหมือนกำลังพยายามนึกอะไรบางอย่าง

ผมกลับไปนั่งที่รถ เปิดสมุดบันทึกขึ้นมาทบทวน มีหลายอย่างที่ไม่ลงรอยกัน ทำไมกล้องวงจรปิดถึงถูกลบ? ผู้หญิงในชุดสีแดงคนนั้นเป็นใคร? และที่สำคัญที่สุด ทำไมธีรวัฒน์ถึงมาอยู่ที่นี่และสูญเสียความทรงจำ?

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นผลการตรวจลายนิ้วมือจากแก้วไวน์ "สารวัตรครับ เราพบลายนิ้วมือที่น่าสนใจ" เจ้าหน้าที่พูดมา "มันตรงกับคดีปล้นร้านเพชรเมื่อสองเดือนก่อนครับ"

ผมนิ่งไป นี่มันเริ่มน่าสนใจแล้ว…





"คดีปล้นร้านเพชรเมื่อสองเดือนก่อน..." ผมนั่งอ่านแฟ้มคดีในห้องทำงาน "มูลค่าความเสียหายกว่าสิบล้านบาท คนร้ายหลบหนีไปได้ ไม่มีการจับกุม"

ลายนิ้วมือบนแก้วไวน์เป็นของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่มีประวัติในฐานข้อมูล เราพบเพียงลายนิ้วมือเดียวกันนี้ในที่เกิดเหตุคดีปล้นร้านเพชร

"สารวัตรครับ" ลูกน้องเคาะประตูเข้ามา "คุณธีรวัฒน์โทรมาครับ เขาบอกว่าจำอะไรได้เพิ่ม"

ผมรีบขับรถไปพบธีรวัฒน์ที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง เขาดูกระวนกระวายกว่าเมื่อวาน

"ผมฝันถึงคืนนั้นครับ" เขาเริ่มเล่าทันทีที่ผมนั่งลง "ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นชัดขึ้น เธอสวยมาก ผมชื่อของเธอด้วย... มินตรา"

"คุณจำได้ว่าเจอเธอยังไง?"

"เธอเข้ามาคุยกับผมที่บาร์ในโรงแรมครับ..." ธีรวัฒน์หลับตาพยายามนึก "เธอบอกว่าเธอเป็นนักข่าว กำลังทำสกู๊ปเกี่ยวกับวงการอัญมณี เธอนัดสัมภาษณ์นายวิชิต แต่เขาไม่ยอมให้สัมภาษณ์..."

"แล้วคุณเข้าไปเกี่ยวข้องยังไง?"

"ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินให้บริษัทของนายวิชิตด้วยครับ มินตราขอให้ผมแนะนำเธอ..." เขาส่ายหน้า "หลังจากนั้นมันเริ่มเบลอ... ผมจำได้แค่ว่าเราขึ้นไปที่ห้องของนายวิชิต แล้วก็..."

ธีรวัฒน์กุมขมับ สีหน้าเจ็บปวด "ผมเห็นภาพวูบหนึ่ง... มีเลือด... แล้วก็เสียงกรีดร้อง..."

"คุณลองนึกให้ดีๆ นะครับ รายละเอียดทุกอย่างสำคัญหมด"

"มีอีกอย่างครับ" ธีรวัฒน์พูดเสียงสั่น "ตอนที่ผมตื่นมาในห้องพัก ผมเห็นกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง แต่มันไม่ใช่ของผม"

"แล้วตอนนี้กระเป๋าอยู่ไหน?"

"หายไปแล้วครับ ตอนที่ผมกลับไปดูอีกที มันไม่อยู่แล้ว"

ผมรีบกลับไปที่โรงแรม ขอดูบันทึกการใช้คีย์การ์ดเข้าออกห้องพัก แม้กล้องวงจรปิดจะถูกลบ แต่ระบบคีย์การ์ดยังทำงานปกติ

ห้องของนายวิชิตมีการเปิดเข้าออกหลายครั้งในคืนเกิดเหตุ ครั้งแรกตอนสี่ทุ่มที่เขาเช็คอิน ต่อมาตอนเที่ยงคืน และครั้งสุดท้ายตอนตีสอง ส่วนห้องของธีรวัฒน์มีการเปิดครั้งเดียวตอนตีหนึ่ง

"ช่วยเช็คประวัติของนายวิชิตให้ละเอียดหน่อย" ผมสั่งลูกน้อง "โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับอัญมณี"

ผลการสืบค้นทำให้ผมประหลาดใจ นายวิชิตไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา เขาเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าอัญมณีรายใหญ่ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของร้านเพชรที่ถูกปล้นเมื่อสองเดือนก่อน

"สารวัตรครับ" เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น "เราพบอะไรบางอย่างในถังขยะที่ลานจอดรถ"

ผมรีบลงไปดู ในถังขยะมีชุดสูทสีน้ำเงินเปื้อนเลือด ผ้าเช็ดหน้าลายดอกกุหลาบ และกล่องเครื่องประดับเปล่าๆ

"ส่งไปตรวจดีเอ็นเอด่วน" ผมสั่งการ "และหาประวัติผู้หญิงชื่อมินตราที่อ้างว่าเป็นนักข่าว"

ผมกลับไปหาธีรวัฒน์อีกครั้ง เขากำลังนั่งดื่มกาแฟที่ร้านเดิม

"คุณเคยได้ยินข่าวการปล้นร้านเพชรเมื่อสองเดือนก่อนไหม?"

ธีรวัฒน์นิ่งไปครู่หนึ่ง "เคยครับ มันเป็นร้านในเครือบริษัทของนายวิชิต ผมจำได้ว่าตอนนั้นวุ่นวายมาก เพราะประกันไม่ยอมจ่าย มีข้อสงสัยเรื่องการสมรู้ร่วมคิด"

"แล้วคุณคิดว่ามินตรามีส่วนเกี่ยวข้องไหม?"

"ผมไม่แน่ใจครับ แต่..." เขาชะงักไป ใบหน้าซีดลง "ผมนึกออกแล้ว... แหวนเพชรที่เธอใส่... มันเหมือนกับแหวนที่หายไปในคดีปล้น"

ผมกำลังจะถามต่อ แต่โทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน เป็นผลตรวจดีเอ็นเอจากชุดสูทที่พบในถังขยะ

"สารวัตรครับ เลือดบนชุดสูทเป็นของนายวิชิต... แต่ชุดสูทเป็นของคุณธีรวัฒน์ครับ"

ผมหันไปมองธีรวัฒน์ช้าๆ เขานั่งนิ่ง สีหน้าตกใจ "ผม... ผมจำได้แล้ว..." เสียงเขาสั่น "คืนนั้น..."



"คืนนั้น..." ธีรวัฒน์พูดเสียงสั่น "ผมไม่ได้ตั้งใจ..."

ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ ในที่สุดความจริงก็กำลังจะปรากฏ

"หลังจากที่มินตราขอให้ผมพาเธอไปพบนายวิชิต เราขึ้นไปที่ห้องด้วยกัน" ธีรวัฒน์เล่าต่อ "ตอนแรกนายวิชิตไม่พอใจที่ผมพาเธอมา แต่พอเห็นแหวนที่เธอใส่ เขาก็เปลี่ยนไป..."

"เขาจำแหวนวงนั้นได้?"

"ใช่ครับ มันเป็นแหวนเพชรที่หายไปตอนปล้นร้าน นายวิชิตโมโหมาก เขาตะคอกใส่มินตรา บอกว่าจะแจ้งตำรวจ..." ธีรวัฒน์หยุดพูดครู่หนึ่ง "แต่มินตราหัวเราะ เธอบอกว่าเธอมีหลักฐานว่านายวิชิตวางแผนปล้นร้านของตัวเองเพื่อเคลมประกัน"

"แล้วคุณทำอะไรต่อ?"

"ผมยืนงงอยู่ตรงนั้น นายวิชิตพยายามแย่งกระเป๋าของมินตรา คงคิดว่าหลักฐานอยู่ในนั้น พวกเขาต่อสู้กัน..." เขากุมขมับแน่น "ผมเห็นมินตราล้มลง นายวิชิตคว้ามีดจากรถเข็นอาหารที่วางอยู่..."

"ผมทนดูไม่ได้ ผมพุ่งเข้าไปขวาง เราต่อสู้กัน..." น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของธีรวัฒน์ "ผมผลักเขา แต่เขาเสียหลักล้มไปกระแทกโต๊ะ มีดในมือแทงเข้าที่อกของเขาเอง..."

ผมนั่งฟังเงียบๆ รอให้เขาเล่าต่อ

"มินตราตกใจมาก เธอบอกให้ผมหนีไปกับเธอ แต่ผมปฏิเสธ ผมบอกว่าเราต้องแจ้งตำรวจ..." ธีรวัฒน์สูดหายใจลึก "เธอทำหน้าแปลกๆ แล้วก็... ผมจำได้ว่ารู้สึกเจ็บที่ท้ายทอย หลังจากนั้นก็มืดไปหมด"

"เธอทำให้คุณสลบ แล้วพาคุณไปไว้ที่ห้องชั้นล่าง" ผมพูดต่อให้ "จากนั้นก็ลบข้อมูลกล้องวงจรปิด เก็บกวาดหลักฐาน แต่เธอทิ้งชุดสูทของคุณไว้..."

"เธอคงวางแผนให้ผมเป็นแพะ" ธีรวัฒน์พูดเสียงเครือ "ถ้าผมจำเรื่องราวไม่ได้ ทุกอย่างก็จะชี้มาที่ผม"

"แต่เธอคำนวณพลาด" ผมพูด "เธอไม่คิดว่าความทรงจำของคุณจะค่อยๆ กลับมา"

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น เป็นข่าวจากลูกน้อง

"สารวัตรครับ เราพบร่างของผู้หญิงคนหนึ่งในโรงแรมร้างย่านชานเมืองครับ เธอถูกยิง... เราพบแหวนเพชรและเอกสารจำนวนมากในห้อง รวมถึงหลักฐานการวางแผนปล้นร้านเพชรด้วยครับ"

ผมถอนหายใจ "เธอโดนปิดปาก..."

"แล้วผมจะทำยังไงครับ?" ธีรวัฒน์ถามเสียงสั่น

"คุณต้องไปให้ปากคำที่โรงพัก" ผมตอบ "แต่ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างเป็นการป้องกันตัว และเรามีหลักฐานว่าคุณถูกทำให้สลบ"

สองวันต่อมา ผมนั่งอ่านรายงานสรุปคดีในห้องทำงาน เรื่องราวทั้งหมดเริ่มชัดเจน นายวิชิตวางแผนปล้นร้านเพชรของตัวเองเพื่อเคลมประกัน มินตรารู้ความจริงและพยายามแบล็คเมล์เขา เมื่อไม่สำเร็จ เธอใช้ธีรวัฒน์เป็นเครื่องมือเข้าหานายวิชิต แต่เหตุการณ์เลยเถิดจนมีคนตาย

"คนที่สั่งฆ่ามินตราคงเป็นคนในเครือข่ายของนายวิชิต" ผมพึมพำกับตัวเอง "พวกเขาคงไม่อยากให้ความจริงเรื่องการฉ้อโกงประกันถูกเปิดเผย"

ผมปิดแฟ้ม มองออกไปนอกหน้าต่าง บางครั้งความจริงก็โหดร้ายกว่าความทรงจำที่ถูกลบ...

เนื้อหาโดย: tophunter
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tophunter's profile


โพสท์โดย: tophunter
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: tophunter
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชายหนุ่มดื่มฉลองปีใหม่ของบริษัทจนดับ ญาติถามหาความรับผิดชอบจากเพื่อนร่วมงานโดนอีกแล้วดราม่าน้องเต้าหู้(คลิปในคอมเม้น)กลยุทธ์พิชิตความเหงา 5 วิธีจัดการกับความเหงา10 เลขขายดีแม่จำเนียรงวด 2 มกราคม 2568 แม่จำเนียร 2/1/68"อ๊อฟ บางนา" โทรขอโทษ "กัน จอมพลัง" ปมคลิปดราม่า "แบงค์ เลสเตอร์"นักท่องเที่ยวต่างชาติแอบกระโดดร่ม จากตึกสูงย่านสุขุมวิท ไม่เกี่ยวสายไฟก็บุญแล้วรีไซเคิลสะเทือนลิ้น! ร้านหม้อไฟดังโดนจับใช้น้ำมันหมาล่าเหลือทิ้งอาลัย 'อาทิตย์' ผู้สมัคร ส.อบจ. พรรคประชาชน โพสต์สุดท้ายสะเทือนใจ ก่อนรถตกข้างทางดับเงินดิจิทัล 10000 ผู้สูงอายุ มีคิวได้เงินอีกรอบ เฟส 3 คนทั่วไป เงินเข้าทางรัฐค้นมือถือ 'เบิร์ด วันว่างๆ' เจอหลักฐานอื้อ ส่อสะเทือนเพิ่มอีก 12 รายพิลาทิสกับโยคะต่างกันอย่างไร?สรุปข่าวช็อกโลก !! “จ้าวลู่ซือ” โหมงานหนักร่างพังป่วยเดินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"อ๊อฟ บางนา" โทรขอโทษ "กัน จอมพลัง" ปมคลิปดราม่า "แบงค์ เลสเตอร์"วุ่นเคานต์ดาวน์เชียงใหม่! นักท่องเที่ยวปล่อยโคมลอย ถูกตำรวจห้ามปรี่กระชากคอชายหนุ่มดื่มฉลองปีใหม่ของบริษัทจนดับ ญาติถามหาความรับผิดชอบจากเพื่อนร่วมงาน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ตำนานผีล้านนา : ผีสองนางตำนานผีล้านนา "ผีตาวอด"การล้างแผลด้วยตนเองตำนานสุดหลอน"สวนสนุกแฮปปี้แลนด์" สวนสนุกแห่งแรกประเทศไทย
ตั้งกระทู้ใหม่