คดีผีดัง ”อย่ากลับบ้าน“ ของจริงThe Apartment 14
ในช่วงต้นยุค 2000 สองแม่ลูกคู่หนึ่งได้ย้ายมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางเมือง ชีวิตก่อนหน้านั้นเต็มไปด้วยความทรมานและความเจ็บปวดจากครอบครัวที่โหดร้าย พวกเธอหวังเพียงว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะพาพวกเธอหนีจากเงามืดในอดีต แต่ใครจะคาดคิดว่าที่นี่จะนำพาพวกเธอไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน… และคดีอาชญากรรมที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองนี้
อพาร์ตเมนต์ที่พวกเธอย้ายเข้าไปมีหมายเลข 14 ดูเผินๆ แล้วเป็นเพียงห้องธรรมดาที่มีเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ กลิ่นอับชื้น และหน้าต่างที่เปิดรับลมแทบไม่ได้ แต่ทันทีที่พวกเธอก้าวเข้ามาในห้อง เสียงกระซิบแผ่วเบาในความเงียบงันกลับดึงดูดความสนใจ มันไม่ใช่เสียงจากชั้นบนหรือลมพัดผ่านหน้าต่าง แต่เป็นเสียงที่ดูเหมือนจะดังมาจาก… ในห้องนั้นเอง
เสียงปริศนา และเพื่อนที่มองไม่เห็น
คืนแรกผ่านไปอย่างยากลำบาก เมื่อแม่ของเด็กหญิงได้ยินเสียงเหมือนคนเดินลากเท้าผ่านห้องนั่งเล่น เธอลุกขึ้นมาตรวจสอบ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เช้าวันรุ่งขึ้น เด็กหญิงวัย 8 ขวบ กลับเล่าว่าเธอได้พบเพื่อนใหม่ เพื่อนที่ชื่อว่า “มารี”
“มารี” เป็นชื่อที่เด็กหญิงบอกว่าเพื่อนของเธอแนะนำตัว เธออธิบายว่าเพื่อนคนนี้เป็นเด็กสาวผมยาว สวมชุดกระโปรงลายดอกไม้สีจางๆ และชอบนั่งอยู่ที่มุมห้อง เธอไม่เคยพูดคุยกับเด็กหญิง แต่ชอบยิ้มและโบกมือเบาๆ แม่ของเด็กหญิงฟังแล้วขนลุก เพราะในห้องนั้นไม่มีใครนอกจากเธอและลูก
ไม่กี่วันต่อมา เสียงกระซิบกลับยิ่งชัดเจนขึ้น บางครั้งคล้ายเสียงร้องไห้ บางครั้งเหมือนเสียงของใครบางคนพยายามพูดอะไรบางอย่าง ทว่าฟังไม่ชัดเจน เด็กหญิงเริ่มพูดคุยกับ “มารี” บ่อยขึ้น เธอบอกแม่ว่า “มารีอยากให้ช่วยตามหาของบางอย่าง”
ความลับใต้พื้นห้อง
แม่ของเด็กหญิงเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เธอคิดว่าลูกอาจได้รับผลกระทบทางจิตใจจากความรุนแรงในอดีต หรือไม่ก็เป็นเพียงจินตนาการของเด็ก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนหนึ่งกลับเปลี่ยนความคิดของเธอไปตลอดกาล
คืนนั้น แม่ของเด็กหญิงตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังกระแทกกับพื้นเบาๆ เธอเดินตามเสียงไปจนถึงมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น ที่ซึ่งลูกสาวของเธอบอกว่า “มารี” มักนั่งอยู่
เธอสังเกตเห็นว่าพื้นห้องบริเวณนั้นดูเหมือนจะมีรอยแตกเล็กๆ และเมื่อเธอตัดสินใจลองแกะพื้นออก เธอก็พบกับสิ่งที่ทำให้หัวใจเธอแทบหยุดเต้น…
เบาะแสจากอดีต
ใต้พื้นนั้น เธอพบสร้อยคอทองคำเก่าๆ ชิ้นหนึ่ง พร้อมกับเศษกระดาษที่เปื่อยจนแทบมองไม่ออกว่ามันเคยเขียนอะไรไว้ แต่สิ่งที่เธอรู้แน่ชัดคือสร้อยคอชิ้นนี้ไม่ใช่ของเธอ หรือใครที่เธอรู้จัก
เธอตัดสินใจนำสร้อยคอไปให้ตำรวจท้องที่ตรวจสอบ และมันกลายเป็นเบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การไขคดีที่หายไปนานหลายสิบปี
สร้อยคอชิ้นนี้เป็นของ Marie Elizabeth Spannhake หญิงสาวที่หายตัวไปในปี 1976 และถูกสงสัยว่าเสียชีวิตจากการฆาตกรรมโหดร้ายที่สุดในยุคนั้น แต่ไม่เคยมีใครพบศพหรือเบาะแสใดๆ จนกระทั่งตอนนี้
การกลับมาของวิญญาณที่ไม่ได้รับความยุติธรรม
หลังจากที่ตำรวจเริ่มสอบสวนพื้นที่ พวกเขาพบหลักฐานเพิ่มเติมที่ซ่อนอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ รวมถึงเศษกระดูกเล็กๆ ที่คาดว่าเป็นของ Marie คดีนี้ถูกเปิดใหม่ และในที่สุดก็สามารถเชื่อมโยงไปถึงฆาตกรตัวจริงที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติในเมือง
ในขณะที่คดีได้รับการแก้ไข เสียงกระซิบในอพาร์ตเมนต์หมายเลข 14 ก็หายไป เด็กหญิงบอกแม่ว่า “มารีบอกลาก่อนจะจากไป”
บทสรุปของความลี้ลับ
อพาร์ตเมนต์หมายเลข 14 ถูกปิดตายหลังจากเหตุการณ์นั้น มีผู้คนมากมายที่สนใจเรื่องราวนี้และพยายามหาคำตอบว่ามันคือความบังเอิญหรือการที่วิญญาณผู้ล่วงลับต้องการความยุติธรรม
บางคนเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง บางคนคิดว่าเป็นเพียงเรื่องแต่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นพ้องกันคือ… บางครั้ง ความจริงอาจถูกซ่อนอยู่ในความลี้ลับที่เรามองไม่เห็น
หากคุณมีโอกาสเดินผ่านอพาร์ตเมนต์เก่าๆ ในเมืองนี้ ลองมองไปยังหมายเลข 14 บางที คุณอาจได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา… หรือเห็นเงาของเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้องก็เป็นได้…