VPN คือเครื่องมือสำหรับผู้ที่ต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในโลกออนไลน์ มาเจาะลึกไปถึงข้อมูลของ VPN ว่าคืออะไร มีอะไรบ้าง ในบทความนี้กันเลย!
ในปัจจุบันการท่องอินเทอร์เน็ตไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวอย่างที่คิด เพราะโซเชียลมีเดียรู้ว่าคุณกำลังมองหาอะไร และอาจเก็บข้อมูลคุณไปมากกว่าที่ควรจะเป็น จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถกำหนดขอบเขตการเข้าถึงข้อมูลของตัวเองได้? หรือแม้แต่เข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกจำกัดในพื้นที่ของคุณเอง? VPN (Virtual Private Network) จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณในตอนนี้ได้!
VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network หรือที่คนชอบเรียกว่า เครือข่ายส่วนตัวเสมือน VPN คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดย VPN จะเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่คุณส่งผ่านอินเทอร์เน็ตและซ่อนตำแหน่งที่แท้จริงของคุณ ทำให้คนอื่นไม่สามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้
โดยเมื่อคุณใช้ VPN ข้อมูลที่คุณส่งจะถูกส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์กลางของผู้ให้บริการ VPN ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์หรือบริการต่าง ๆ ที่คุณใช้งานเห็นตำแหน่งเป็นของเซิร์ฟเวอร์นั้น ไม่ใช่ตำแหน่งจริงของคุณ เช่น หากคุณอยู่ในประเทศไทย แต่เลือกเซิร์ฟเวอร์ VPN ในสหรัฐอเมริกา เว็บไซต์จะเข้าใจว่าคุณกำลังเข้าถึงจากสหรัฐฯ นั่นเอง
VPN สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามบทบาทและการใช้งานที่แตกต่างกัน โดย VPN สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ
Access VPN เป็น VPN ประเภทที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับเครือข่ายส่วนตัวจากระยะไกล (Remote Access) โดยเฉพาะสำหรับพนักงานที่ต้องการเข้าถึงทรัพยากรในเครือข่ายขององค์กร เช่น ไฟล์ เซิร์ฟเวอร์ หรือแอปพลิเคชันทางธุรกิจ
Intranet VPN เป็น VPN ที่ใช้เชื่อมต่อสำนักงานหรือสาขาหลายแห่งขององค์กรเข้าด้วยกันภายใต้เครือข่ายส่วนตัวเดียว โดยผ่านการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย เหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการรวมเครือข่ายระหว่างสำนักงานโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
Extranet VPN ใช้สำหรับการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายขององค์กรกับเครือข่ายของคู่ค้า ลูกค้า หรือซัพพลายเออร์ ผ่านการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย จุดเด่นคือช่วยให้สองฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ต้องเข้าถึงเครือข่ายภายในทั้งหมด
VPN คือเครื่องมือที่ช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความเป็นส่วนตัวและอิสระในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งประโยชน์สำคัญของ VPN มีดังนี้
VPN คือระบบที่ช่วยสร้างเครือข่ายส่วนตัวเสมือน โดยหลักการทำงานเริ่มต้นจากการที่ผู้ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน เข้ากับเซิร์ฟเวอร์ของ VPN ซึ่งมักตั้งอยู่ในประเทศต่าง ๆ ที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ เมื่อมีการเชื่อมต่อ ข้อมูลทั้งหมดที่ส่งออกจากอุปกรณ์ของผู้ใช้จะถูกเข้ารหัส (Encryption) เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่สาม เช่น แฮกเกอร์ หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) มองเห็นหรืออ่านข้อมูลเหล่านั้นได้ แม้มีการดักจับ ข้อมูลก็จะอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถอ่านได้โดยง่าย
เมื่อข้อมูลถูกเข้ารหัสแล้ว ระบบ VPN จะส่งข้อมูลนั้นผ่านเส้นทางพิเศษที่เรียกว่า “อุโมงค์วีพีเอ็น” (VPN Tunnel) ไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN แทนที่จะส่งข้อมูลโดยตรงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบปกติ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการรับส่งข้อมูล นอกจากนี้ เซิร์ฟเวอร์ VPN จะช่วยปกปิดที่อยู่ IP (IP Address) จริงของผู้ใช้ โดยเปลี่ยนเป็น IP ของเซิร์ฟเวอร์แทน ส่งผลให้เว็บไซต์หรือบริการที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่สามารถทราบตำแหน่งที่แท้จริงของผู้ใช้ได้
เมื่อเซิร์ฟเวอร์ VPN ได้รับคำขอข้อมูล เช่น การเข้าถึงเว็บไซต์ เซิร์ฟเวอร์จะถอดรหัสและส่งคำขอนั้นไปยังเว็บไซต์หรือบริการปลายทาง และเมื่อเว็บไซต์ส่งข้อมูลตอบกลับมา เซิร์ฟเวอร์ VPN จะเข้ารหัสข้อมูลอีกครั้งและส่งกลับมาที่อุปกรณ์ของผู้ใช้ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกถอดรหัสในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ตามปกติ
VPN คือ เครือข่ายส่วนตัวเสมือน เป็นเทคโนโลยีที่สร้างอุโมงค์ที่ปลอดภัยสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ ทำให้ข้อมูลของคุณได้รับการปกป้องจากการสอดแนม หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต VPN เปรียบเสมือนกับการส่งจดหมายในซองปิดผนึก และเมื่อคุณส่งจดหมายในซองปิดผนึก ผู้ที่รับจดหมายเท่านั้นที่จะสามารถอ่านเนื้อหาภายในได้ VPN ก็ทำงานในลักษณะเดียวกัน โดยจะเข้ารหัสข้อมูลของคุณก่อนที่จะส่งผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยจากสายตาของบุคคลภายนอกนั่นเอง