THE WAY TO WEALTH เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง โดย เบนจามิน แฟรงคลิน
บทที่ 1 ความอุตสาหะ
กล่าวกันว่า รัฐบาลที่เข้มงวดควรเก็บภาษีจากประชาชนเท่ากับเวลาหนึ่งในสิบของพวกเขาเพื่อมาทำงานให้รัฐ แต่ความเกียจคร้านเก็บภาษีจากเรามากกว่านั้น ด้วยการนำโรคภัย ไข้เจ็บทั้งหลายเข้ามาจนทำให้อายุสั้น
ความเกียจคร้าน เปรียบเหมือน สนิมที่กัดกร่อนให้สึกหรอได้เร็วกว่าการออกแรงทำงาน ในขณะที่กุญแจที่ใช้เป็นประจําย่อมแวววาว ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ หากคุณรักชีวิตจงอย่าใช้เวลาอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปกับเรื่องไร้สาระ แล้วเราใช้เวลาไปกับการนอนหลับที่ไม่จำเป็นมากเท่าไร
อย่าลืมว่า “สุนัขจิ้งจอกที่นอนหลับย่อมจับเหยื่อไม่ได้ และยังมีเวลาให้นอนหลับอีกมากในหลุมฝังศพ' ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้
“ถ้าเวลาเป็นทุกอย่างที่มีค่าที่สุด ริชาร์ดผู้น่าสงสารบอกว่า “การทิ้งขว้างเวลาย่อมเป็นความสุรุ่ยสุร่ายอย่างที่สุด!” และเขายังได้บอกเราในที่อื่นๆ ว่า “เวลาที่สูญเสียไปไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
และเมื่อเราบอกว่ามีเวลาเพียงพอ เราก็จะพบว่ามีเวลาน้อยเกินไปเสมอ” ขอให้พวกเราลุกขึ้นและทำงาน ทำงานเพื่อเป้าหมายความขยันหมั่นเพียรจะทำให้เราสับสนวุ่นวายน้อยลง “ความเกียจคร้านทำให้ทุกสิ่งยากยิ่งขึ้น แต่ความอุตสาหะทำให้ทุกอย่างง่ายลง คนที่ตื่นสายต้องวิ่งตลอดวันและยากที่จะทำงานเสร็จในยามค่ำ ความขี้เกียจเดินทางอย่างเชื่องช้าจนความยากจนวิ่งแซง
จงควบคุมงานของท่าน อย่าปล่อยให้งานมาควบคุม จงเข้านอนแต่หัวค่ำ และตื่นแต่เช้า จงรักษาสุขภาพให้แข็งแรง คำสอนเหล่านี้ย่อมทำให้ท่านมีสุขภาพที่ดี มีความมั่งคั่ง และเฉลียวฉลาด
ดังที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้
“ดังนั้น อะไรเป็นสัญญาณให้เห็นความหวังและความปรารถนาในชีวิตที่ดีกว่านี้?
เราอาจทำช่วงเวลานี้ให้ดีขึ้นได้ถ้าเรากระตุ้นตัวเราเอง “ความอุตสาหะไม่ต้องอาศัยพรใดๆและผู้ที่ใช้ชีวิตโดยพึ่งแต่ความหวังย่อมตายเร็ว ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ออกแรง ถึงแม้ไม่มีที่ดิน มือของเราย่อมสร้างตัวขึ้นมาได้” หรือแม้หากข้าพเจ้ามีที่ดิน มันย่อมถูกเก็บภาษีไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
"คนที่มีการค้า ย่อมมีทรัพย์สิน และคนที่มีอาชีพการงาน ย่อมมีสำนักงานแห่งกำไรและเกียรติยศ” ดังที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ การค้าย่อมมาจากการทํางาน และอาชีพการงานย่อมต้องใส่ใจ มิฉะนั้นย่อมไม่มีทรัพย์สินหรือสำนักงานใดจะจ่ายภาษีให้กับเรา ถ้าเราขยันหมั่นเพียร เราย่อมไม่อดอยาก ความหิวโหยได้แต่มองเข้าไปในบ้าน
ของคนทำงาน แต่ไม่กล้าเข้าไป เจ้าพนักงานยึดทรัพย์หรือตำรวจก็ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะ “ความขยันชำระหนี้สิน ขณะที่ความสิ้นหวังเพิ่มหนี้สิน” ถึงแม้ท่านจะไม่พบขุมสมบัติ หรือไม่มีญาติพี่น้องร่ำรวยทิ้งมรดกไว้ให้ “ความขยันหมั่นเพียรคือบ่อเกิดแห่งโชค พระเจ้าทรงมอบทุกสิ่งให้ความขยันหมั่นเพียร จงไถให้ลึกขณะที่คนเกียจคร้านนอนหลับแล้วท่านจะมีข้าวโพดเพื่อขายและเพื่อเก็บ” ทำเสียแต่วันนี้ เพราะท่านไม่รู้ว่าจะมีอุปสรรคหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ “หนึ่งในวันนี้มีค่าเท่ากับสองในวันพรุ่งนี้ ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้
ไม่ผัดผ่อนงานที่สามารถทำได้ในวันนี้ไปวันพรุ่งนี้" ถ้าเธอเป็นคนรับใช้ เธอจะไม่ละอายหรือ หากเจ้านายที่ดีจับได้ว่าเธอเกียจคร้าน? หรือหากเธอเป็นนายตนเอง จงละอายที่จับตัวเองได้ว่าขี้เกียจ เมื่อยังมีอะไรอีกมากทำได้เพื่อตัวเธอเอง ครอบครัว ประเทศ และกษัตริย์ของเธอ จงจับเครื่องมือด้วยมือเปล่า จำไว้ว่า “แมวในถุงมือย่อมจับหนูไม่ได้” ดังที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ มันเป็นเรื่องจริงที่ยังงานอีกมากที่ต้องทำ และบางทีเธออาจอ่อนแรง แต่จงทำอย่างสม่ำเสมอ แล้วเธอจะเห็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ “น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน ด้วยความเพียรและความอดทน หนูสามารถกัดสายไฟออกเป็นสองท่อน และ ขวานฟันทีละน้อยย่อมล้มต้นไม้ใหญ่ได้
“ข้าพเจ้าได้ยินพวกท่านบางคนกล่าวว่า “คนไม่สามารถมีเวลาว่างได้เลยหรือ? ข้าพเจ้าขอตอบท่านด้วยคำพูดของริชาร์ดผู้น่าสงสารว่า “หากท่านต้องการเวลาว่าง จงใช้เวลาของท่านให้ดี และหากท่านไม่แน่ใจกับนาที ก็อย่าขว้างชั่วโมงทิ้งไป เวลาว่างคือเวลาสำหรับการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ คนขยันเท่านั้นจึงจะมีเวลาว่าง แต่คนเกียจคร้านย่อมไม่มี “ชีวิตที่มีเวลาว่างกับชีวิตที่เกียจคร้านย่อมแตกต่างกัน คนที่ใช้แต่เชาว์ปัญญา โดยปราศจากการทำงาน สุดท้ายก็ต้องวิ่งหาเสบียง
ในทางตรงข้าม ความอุตสาหะย่อมให้ความสะดวกสบาย ความอุดมสมบูรณ์และความเคารพนับถือ “ปล่อยความเพลิดเพลินไป แล้วมันจะวิ่งไล่ตามคุณเอง ช่างปั่นฝ้ายที่ขยันย่อมมีชุดยาวสวมใส่ เมื่อข้าพเจ้ามีทั้งแกะและวัวในวันนี้ พรุ่งนี้ย่อมได้รับข้อเสนอดีๆ จากทุกคน
บทที่ 2 ความเอาใจใส่
“นอกจากความอุตสาหะแล้ว เราต้องแน่วแน่ มุ่งมั่น ระมัดระวัง และดูแลการงานของเราด้วยตาเราเอง โดยไม่เชื่อถือคนอื่นมากเกินไป ดังเช่นริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ว่า
'ข้าฯไม่เคยเห็นต้นไม้หรือครอบครัวที่ย้ายไปเรื่อยๆจะเจริญรุ่งเรืองได้เท่ากับที่ลงหลักปักฐานมั่นคง
ตามด้วย “โลเลไปมาสามหนเลวร้ายเท่ากับไฟไหม้” และดูแลร้านของคุณไว้ แล้วร้านจะดูแลคุณ' รวมถึง ถ้าคุณคาดว่าจะทำงานสำเร็จได้ ให้เดินหน้าแต่ถ้าไม่ จงส่งต่อ
ไร่นาจะงอกงามได้ต่อเมื่อลงมือหว่านไถ
ดวงตาของผู้เชี่ยวชาญย่อมทำงานมากกว่าสองมือที่เขามี “การขาดความเอาใจใส่ย่อมสร้างความเสียหายมากกว่าการขาดความรู้ ไม่ดูแลคนงานก็เหมือนกับเปิดกระเป๋าสตางค์อ้าเอาไว้
“ไว้ใจให้คนอื่นดูแลแทนเรามากเกินไปคือหายนะ”
“การทั้งหลายในโลกจะสำเร็จได้ไม่ใช่ด้วยศรัทธา แต่ด้วยฉันทะ โดยอาศัยประโยชน์จากความ
เอาใจใส่ของเราเอง ถ้าคุณต้องการผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์และเป็นคนที่คุณถูกใจ จงรับใช้ตนเอง” “การเพิกเฉยเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวง” “เพราะว่าไม่มีตะปูจึงไม่มีเกือกม้า เพราะว่าไม่มีเกือกม้าจึงไม่มีม้าศึก เพราะว่าไม่มีม้าศึกจึงไม่มีอัศวิน เพราะไม่มีอัศวินจึงพ่ายแพ้และถูกข้าศึกสังหาร ทั้งหมดนี้ก็เพราะไม่มีตะปูเกือกม้า
บทที่ 3 ความมัธยัสถ์
"เพื่อนเอย นอกจากความอุตสาหะและความเอาใจใส่กับการงานแล้ว เรายังต้องมีความมัธยัสถ์อีกด้วยถ้าเราต้องการให้ความอุตสาหะของเราบรรลุผลสำเร็จ คนที่ไม่รู้จักการออมเงินอาจต้องทำงานหนัก
ตลอดชีวิตและตายไปโดยแทบไม่เหลือเงินติดตัว ครัวที่ใหญ่ย่อมเหลือมรดกน้อยนิด และหลายครอบครัวใช้จ่ายในสิ่งที่หามาได้ เมื่อสตรีทอดทิ้ง
งานเย็บปักถักร้อยเพื่อดื่มชา และบุรุษทอดทิ้งงานตัดไม้และผ่าฟืนเพื่อชกต่อย
ถ้าท่านอยากร่ำรวย จงคิดถึงการออมเงินให้เท่ากับการหาเงิน อาณานิคมอินเดียตะวันออกไม่ได้ทำให้สเปนร่ำรวย เพราะที่นั่นมีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้
"อยู่ให้ห่างจากความโง่เขลาราคาแพง และท่านจะไม่มีเหตุให้พร่ำบ่นถึงยามยาก ภาษีที่หนักอึ้ง และภาระทางครอบครัว สุรา นารี การพนันและการหลอกลวง ทำให้ความมั่งคั่งน้อยลง แต่ทำให้ความอยากได้ใคร่มีมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่มีตำหนิมักขยายวงออกไป บางทีท่านอาจคิดว่าชาไม่กี่กาการชกต่อยเล็กน้อย อาหารแพงๆ สักนิด เสื้อผ้าประณีตสักหน่อย และ
ความบันเทิงเล็กๆ ในตอนนี้ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก แต่โปรดจำไว้ว่า “เรื่องเล็กน้อยหลายเรื่องรวมกันย่อมกลายเป็นเรื่องใหญ่โต
จงระวังค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ “รูรั่วเล็กๆสามารถจมเรือใหญ่ลงได้
ดังที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารได้กล่าวไว้ว่า "ผู้ลุ่มหลงในรักย่อมกลายเป็นขอทานและ “คนโง่จัดงานฉลอง ส่วนคนฉลาดเข้าไปดื่มกิน
ตอนนี้ ทุกท่านได้มาอยู่รวมกัน ณ ตลาดสินค้าเครื่องประดับ ท่านเรียกมันว่า สินค้า
แต่ถ้าท่านไม่เอาใจใส่ มันจะพิสูจน์ความชั่วร้ายให้พวกท่าน
บางคน ท่านคาดว่าสินค้าเหล่านี้จะขายในราคาถูก บางทีอาจจะถูกกว่าต้นทุน แต่บางครั้ง มันอาจจะขายในราคาแพงให้ท่านก็ได้ โปรดจำคำของริชาร์ดผู้น่าสงสารที่ว่า “ถ้าท่านซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นไม่นานท่านจะต้องขายสิ่งของที่จำเป็น” และ “หากเจอของให้หยุดคิดสักนิด เขาหมายความว่า บางทีของราคาถูกอาจไม่ได้ถูกจริงๆก็ได้ การต่อรองด้วยการจำกัดตัวเองอาจร้ายมากกว่าดี และราคาถูกอีกมาก
ตอนหนึ่งเขาบอกว่า
“คนหลายคนล้มละลายไปเพราะซื้อของราคาถูก” และมันเป็นเรื่องโง่หากต้องจ่ายเงินไปเพื่อแลกกับการสำนึกผิด” และความโง่เขลานี้ก็เกิดขึ้นทุกวันในการประมูลเพราะไม่ได้ใส่ใจกับคำสอนในอัลมาแนค
หลายคนเพื่อให้ได้ข้าวของหรูหรา ก็ต้องกลับไปด้วยท้องที่ว่างเปล่าและทำให้ครอบครัวต้องหิวโหย “ผ้าไหมและผ้าแพร ผ้าสักหลาดและผ้ากํามะหยี่ ทำให้ไฟไหม้ครัว'
ข้าวของเหล่านี้ไม่ใช่ของจำเป็นในชีวิต พวกมันอาจถูกเรียกว่าความสะดวกสบาย และเพียงเพื่อให้พวกท่านดูสวยงาม มีสักกี่คนต้องการกินพวกมัน!
ด้วยของเหล่านี้และของหรูหราอื่นๆ ชนชั้นสูงก็กลายมาเป็นคนยากจนและถูกบีบให้ต้องกู้ยืมเงินจากคนที่พวกเขาเคยเหยียดหยามมาก่อน แต่คนผู้ซึ่งมีความอุตสาหะและความมัธยัสถ์ ยังคงยืนได้อย่างมั่นคง ด้วยเสื้อผ้าข้าวของที่ดูธรรมดาๆ ดังคำกล่าวของริชาร์ดผู้น่าสงสารที่ว่า “ชาวนาที่ยืนอยู่ย่อมสูงกว่าสุภาพบุรุษที่คุกเข่า” บางทีพวกเขาอาจมีบ้านหลังเล็กๆ พวกเขารู้ว่ายังไม่ปลอดภาระ
พวกเขาคิดว่า “ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน และจะไม่มีเวลากลางคืน” เงินเล็กน้อยที่จ่ายออกไปไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ แต่เอาแต่ตักอาหารออกจากชาม โดยไม่เติมกลับไป ไม่นานอาหารย่อมหมด
เมื่อบ่อน้ำแห้ง จึงตระหนักคุณค่าของน้ำ” ริชาร์ดผู้น่าสงสารยังกล่าวไว้อีกว่า
“ถ้าท่านอยากรู้ค่าของเงิน ให้ลองขอยืมเงินคนอื่นดู แล้วท่านจะพบกับความเสียใจ” และแท้จริงแล้ว หากท่านให้คนเหล่านั้นยืมเงิน ท่านก็จะต้องให้เขายืมช้าแล้วซ้ำอีก ริชาร์ดผู้น่าสงสารแนะนำไว้ว่า
'ลุ่มหลงในอาภรณ์ คำสาปย้อนเข้าแทรกกาย หรูหราดังใจหมาย เงินก็วายหายจากพลัน'
และ ความลำพองตนส่งเสียงดังเหมือนกับขอทานตะโกนขอเงิน ยิ่งลำพองตนมาก ก็ยิ่งโอหังมาก”
เมื่อท่านซื้อของสวยงามไปแล้วหนึ่งชิ้น ท่านก็จะซื้อเพิ่มอีกนับสิบเพื่อให้ดูเข้ากัน ริชาร์ดผู้น่าสงสารบอกไว้ว่า “การระงับความอยากได้ในตอนแรกนั้นง่ายกว่าการทำตามความต้องการทั้งหลายซึ่งตามมา” และมันเป็นเรื่องโง่เขลาอย่างยิ่งที่คนจนจะแสร้งทำเป็นคนรวยเหมือนกับอึ่งอ่างที่เบ่งพองตัวให้ใหญ่เท่าวัว
"เรือเดินสมุทรย่อมออกเรือได้ไกล ส่วนเรือลำน้อยควรอยู่ใกล้ฝั่ง'
อย่างไรก็ตาม ความโง่เขลาย่อมถูกลงโทษในไม่ช้า ดังที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวว่า
“ความโอหังรวมกับความฟุ้งเฟ้อย่อมเจอกับความขายหน้าและอีกแห่งที่กล่าวไว้ว่า “ความโอหังเริ่มมื้อเช้าด้วยความล้นเหลือ ทานมื้อเย็นด้วยความขาดแคลน และจบมื้อค่ำด้วยความต้อยต่ำ" และในที่สุดความทะนงในรูปโฉมมีประโยชน์อะไรหากตามมาด้วยความเสี่ยงและความทุกข์?
มันไม่ได้ช่วยบำรุงสุขภาพ หรือบรรเทาความทุกข์ มันไม่ได้เพิ่มบุญกุศลในตัวคน แต่กลับเพิ่มความอิจฉาริษยา และเร่งเร้าเคราะห์ร้ายออกมา
“แต่ความบ้าก็คือการก่อหนี้เพื่อสิ่งฟุ่มเฟือย? เราได้รับข้อเสนอในการขายต่างๆ นานา ทั้งให้เครดิตหกเดือน และบางทีอาจดึงให้เราบางคนทดลองใช้ก่อนเพราะว่าเราไม่สามารถเก็บเงินจนมีพอพร้อมซื้อ และหวังว่าเราจะดูดีแม้ว่าเงินจะไม่พร้อม
แต่ อา!
จงคิดว่าคุณจะทำอะไรเมื่อตกเป็นหนี้ คุณกำลังให้อำนาจอื่นเหนือเสรีภาพของคุณ! ถ้าคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา คุณก็ต้องละอายที่จะพบหน้าเจ้าหนี้ คุณเกิดกลัวที่จะพูดคุยกับเขา คุณจะหาข้ออ้างที่น่าเวทนาน่าสงสาร เพื่อหลบๆ ซ่อนๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณก็จะสูญเสียวาจาสัตย์และจมไปอยู่กับคำโกหก
“บาปอันดับสองคือการโกหก บาปอันดับแรกคือการเป็นหนี้ ดังที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ และกล่าวถึงอีกครั้งด้วยวัตถุประสงค์เดิม การโกหกควบขี่อยู่บนหลังหนี้สิน” ขณะที่คนที่เกิดมาอย่างเสรีชนไม่ต้องละอายหรือเกรงกลัวที่จะมองหรือพูดกับคนอื่น
แต่ความยากจนมักลิดรอนจิตวิญญาณและศีลธรรมของมนุษย์ กระสอบเปล่าย่อมยากที่จะตั้งตรง คุณคิดอย่างไรหากรัฐบาลจะออกกฎหมายลงโทษด้วยการห้ามการแต่งตัวอย่างสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรี แทนการติดคุกหรือการตกเป็นทาส? คุณจะไม่พูดหรือว่าคุณเป็นเสรีชน มีสิทธิที่จะแต่งตัวอย่างที่คุณชอบ
กฎหมายเช่นนั้นจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคุณ และรัฐบาลที่ทำเช่นนั้นก็กลายเป็นทรราชย์?
แล้วตัวคุณไม่กลายเป็นทรราชย์หรอกหรือเมื่อคุณจมอยู่กับหนี้สินเพื่อซื้อหาเสื้อผ้าเช่นนั้น! เจ้าหนี้ของคุณมีอำนาจตามความพอใจของเขาที่จะลิดรอนเสรีภาพของคุณ ด้วยการส่งคุณเข้าคุกตลอดชีวิต หรือขายคุณไปเป็นทาส ถ้าคุณไม่สามารถชำระหนี้เขาได้ และหากคุณเจรจาต่อรองกับเขา บางทีคุณอาจคิดว่าจ่ายคืนเพียงบางส่วนเล็กน้อยก็ได้
แต่อย่างที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ว่า “เจ้าหนี้มีความจำดีกว่าลูกหนี้ เจ้าหนี้เป็นลัทธิหนึ่งผู้ซึ่งสังเกตวันและเวลาได้อย่างเที่ยงตรง” วันครบรอบจะมาถึงก่อนที่คุณจะรู้ตัว และความต้องการเกิด
ขึ้นก่อนที่คุณจะเตรียมตัวตอบสนองได้ทัน หรือถ้าคุณระลึกถึงหนี้สินโดยไม่ลืม กำหนดชำระหนี้ที่ดูเหมือนนาน กลับดูเหมือนสั้นลงนิดเดียว เวลาผ่านไปราวกับติดปีกบิน ฤดูถือบวช ของผู้เป็นหนี้และจะครบกำหนดชำระ
ในวันอีสเตอร์ย่อมสั้นเสมอ บางทีตอนนี้ท่านอาจคิดว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรือง และท่านอาจใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสักนิดโดยปราศจากอันตราย แต่ว่าจงออมขณะที่ยังพอออมได้ พระอาทิตย์ยามเช้ามิได้มีตลอดวัน เงินได้อาจมีเพียงชั่วคราวและไม่แน่นอน แต่ตราบที่คุณยังมีชีวิต ย่อมมีค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน” และ “สร้างปล่องไฟสองปล่องย่อมง่ายกว่าสะสมฟื้นเอาไว้
ริชาดผู้น่าสงสารยังกล่าวด้วยว่า “เข้านอนโดยปราศจากอาหารค่ำดีกว่าตื่นขึ้นมาพร้อมหนี้สินหาและเก็บรักษาเท่าที่สามารถทำได้ เพราะนั่นคือศิลาอาถรรพ์ที่จะแปลงตะกั่วเป็นทองคำให้กับคุณและเมื่อคุณมีศิลาอาถรรพ์ แน่ใจได้เลยว่าคุณจะไม่ต้องบ่นเรื่องช่วงเวลาแย่ๆ หรือความยากลำบากในการเสียภาษีอีกต่อไป
บทที่ 4 บทสรุป
เพื่อนเอย หลักการนี้คือหลักแห่งเหตุผลและภูมิปัญญา อย่างไรก็ตาม อย่ามั่นใจว่าความอุตสาหะ ความมัธยัสถ์ และความรอบคอบของ
คุณจะให้ผลลัพธ์ดังหวังเสมอไป เพราะสิ่งเหล่านี้อาจไม่ช่วยอะไรเลยหากปราศจากพรจากสวรรค์ ดังนั้น จึงขอพรอย่างอ่อนน้อม และอย่าปราศจากความกรุณาต่อผู้ซึ่งกำลังต้องการมัน แต่จงให้กำลังใจและช่วยเหลือพวกเขา จำไว้ว่า โยบ นั้นทนทุกข์ แต่ในที่สุดก็เจริญรุ่งเรือง
และเราสามารถสรุปตรงนี้ได้อย่างที่ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้ว่าประสบการณ์คือบทเรียนที่แสนแพง แต่คนเขลาย่อมไม่รู้จักเรียนรู้จาประสบการณ์ของคนอื่น และมันเป็นจริงอย่างที่ว่า “เราอาจให้คำแนะนำได้ แต่เราไม่อาจให้การกระทำได้ อย่างไรก็ตาม
จำไว้ว่า “คนที่ไม่ขอคำปรึกษาย่อมไม่ได้รับความช่วยเหลือ” และ “ถ้าคุณไม่ฟังเหตุผล เธอก็จะเขกหัวคุณ ริชาร์ดผู้น่าสงสารกล่าวไว้”
ด้วยเหตุนี้ ชายชราจึงยุติคำปราศรัยที่ยืดยาวของเขา ผู้คนที่ได้ฟังต่างรับรองหลักการนี้ และกลับปฏิบัติตรงกันข้ามทันที ราวกับว่ามันเป็นคำเทศนาธรรมดาๆ และเมื่อการประมูลเริ่มต้น พวกเขาก็เริ่มต้นซื้ออย่างฟุ่มเฟือย ทั้งๆ ที่รับฟังคำเตือนทั้งหมดแล้ว รวมถึงความกลัวภาษีของพวกเขา
(โยบ (Job) คือคัมภีร์หนึ่งในคัมภีร์ไบเบิล ภาคพันธสัญญาเดิม เป็นเรื่องว่าด้วย โยบ ผู้ซึ่งเป็นคนดี รอบคอบ เที่ยงธรรม และมั่งคั่งร่ำรวย แต่กลับต้องสูญเสียทุกสิ่งที่มีอยู่ และต้องทนทุกข์เวทนาจากโรคร้าย อย่างไรก็ตาม โยบยังคงเชื่อวางใจในพระเจ้า ในที่สุดพระเจ้าทรงพอพระทัยและอวยพระพรโยบ โยบได้รับทุกสิ่งที่เขาสูญเสียกลับคืนมาทั้งหมดและมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า)
ด้วยข้าพเจ้าได้พบคนดีที่ศึกษาอัลมาแนคของข้าพเจ้าอย่างถี่ถ้วน และย่อยทุกเรื่องตลอดเวลายี่สิบห้าปีที่ผ่านมาไว้ในหัวข้อต่างๆ เขาอ้างถึงข้าพเจ้าบ่อยครั้งจนทำให้คนอื่นคร้านที่จะฟัง แต่ข้าพเจ้ากลับปลาบปลื้มอย่างน่าประหลาดใจเพราะเรื่องดังกล่าว ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าตระหนักว่าคำที่เขาอ้างถึงนั้นมาจากภูมิปัญญาของข้าพเจ้าไม่ถึงหนึ่งในสิบ แต่ส่วนใหญ่มาจากการเก็บเล็กผสมน้อยของข้าพเจ้าจากเรื่องราวของทุกชาติทุกวัย
อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ามั่นใจว่าเป็นการดีกว่าที่จะป่าวประกาศออกไป และถึงแม้ว่าในตอนแรกข้าพเจ้าจะตัดสินใจซื้อเสื้อนอกตัวใหม่ แต่ก็เปลี่ยนใจโดยใส่เสื้อนอกตัวเก่าไปอีกสักระยะ ท่านผู้อ่าน หากท่านทำอย่างนี้เช่นกัน กำไรของท่านจะมากกว่าของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ายังคงรับใช้ท่านอย่างที่เป็นเช่นเคย
ริชาร์ด ซอนเดอรส์
7 กรกฎาคม 1757





















