วันที่ 22 มกราคม 2568 "กฎหมายสมรสเท่าเทียม" จะมีผลบังคับใช้ พร้อมด้วยสถิติโลกใหม่ด้วยการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมถึง 1,000 คู่
หลายคนกำลังนับถอยหลังสู่วัน สมรสเท่าเทียม LGBTQIAN+ ทั่วไทยนับ 1,000 คู่ พร้อมบันทึกสถิติโลกในวันนั้น หลังกฎหมายสมรสเท่าเทียม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา LGBTQIAN+ ไทยพร้อมสร้างประวัติศาสตร์เพื่อยืนยันว่าความรักไม่มีเงื่อนไข และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสร้างครอบครัวของตัวเองตามแบบที่พวกเขาต้องการ สมรสเท่าเทียม ก้าวสำคัญของความเท่าเทียมในสังคมไทย หลัง กฎหมายสมรสเท่าเทียม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา LGBTQIAN+ ไทยพร้อมสร้างประวัติศาสตร์เพื่อยืนยันว่า ความรักไม่มีเงื่อนไข และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสร้างครอบครัวของตัวเองตามแบบที่พวกเขาต้องการ สมรสเท่าเทียม ก้าวสำคัญของความเท่าเทียมในสังคมไทย วันที่ 22 มกราคม 2568 กฎหมายสมรสเท่าเทียม จะมีผลใช้บังคับ ในวันสำคัญนี้คู่รัก LGBTQIAN+ กว่า 1,000 คู่จะได้จดทะเบียนสมรสพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเจ้าของสถิติโลกใหม่ในการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมมากที่สุดในโลก แซงหน้าสถิติเดิมของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ที่ทำไว้ 160 คู่ ในปี 2014 การสร้างสถิติครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการก้าวหน้าในด้านสิทธิของ LGBTQIAN+ แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความรักที่ไม่มีเงื่อนไขทางเพศและเพศสภาพ ซึ่งจะช่วยทลายข้อจำกัดทางสังคมที่เคยขวางกั้นการแสดงออกของความรักในรูปแบบต่างๆ ความเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียม เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงการยอมรับสิทธิ์ในการแต่งงานของคู่รัก LGBTQIAN+ เท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันการขับเคลื่อนสังคมที่ยึดหลักความเสมอภาค (Equality) และสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง ซึ่งมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs: Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติoals) ขององค์การสหประชาชาติ