ผัก 4 ชนิด ให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเมื่อถูกปรุงให้สุก
โดยส่วนใหญ่ผักส่วนใหญ่กินดิบ ๆ จะมอบสารอาหาร และคุณค่าทางโภชนาการให้กับร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี แต่มีผัก 4 ชนิดที่ควรจะปรุงให้สุกก่อนค่อยนำมารับประทาน ซึ่งมอบคุณค่าทางโภชนาการให้มาก ซึ่งดร.เอมี ไมเยอร์ส ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ Austin Ultrahealth Institute (USA) กล่าวว่า ผักแต่ละประเภทมีสารอาหารในตัวเอง และวิธีการแปรรูปก็ส่งผลต่อปริมาณสารอาหารที่ร่างกายของเราจะดูดซึมเข้าไป การปรุงและแปรรูปที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้สูญเสียสารอาหาร และเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ อย่างไรก็ตาม การรับประทานผักแบบดิบไม่ได้มอบคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดเสมอไป ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก ผัก 4 ชนิดต่อไปนี้ จะให้คุณค่าทางอาหารมากขึ้นเมื่อถูกทำให้สุก อันได้แก่
1. ผักโขม เป็นผักที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม และแมกนีเซียม เมื่อปรุงสุกแล้วจะดูดซึมได้ง่ายกว่า และลดกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่พึงประสงค์สำหรับหลายๆคน ผักโขมดิบมีสารออกซาเลต ซึ่งเป็นสารที่ยับยั้งความสามารถในการดูดซับแร่ธาตุหลายชนิด นอกจากนี้การรับประทานอาหารในปริมาณมาก ไม่ดีต่อตับหรือไตในระยะยาว ทำให้อาหารไม่ย่อย และเหนื่อยล้าชั่วคราว ดร.เอมี่กล่าวว่าการต้มหรือนึ่งจะช่วยให้เราได้รับสารอาหารจากผักโขมได้ดีที่สุด
2. มะเขือเทศ การรับประทานมะเขือเทศดิบหรือปรุงสุกนั้น ล้วนดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยพบว่า การกินมะเขือเทศสุก มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่ามะเขือเทศดิบ เมื่อปรุงสุก ปริมาณไลโคปีนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 35% ไลโคปีน คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ สามารถปกป้องเราจากโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ดร.เอมี่ เตือนว่าวิตามินซีในมะเขือเทศจะลดลง เมื่อปรุงสุก วิธีแก้ไขก็คือ เวลาปรุงสุกมะเขือเทศให้ใช้ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่ถ้าเตรียมเป็นซอสหรือซุป ให้ผสมกับน้ำมันมะกอกลงไปด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร
3. แครอท แครอทปรุงสุกย่อยง่ายกว่า และยังได้รับสารเบต้าแคโรทีนมากกว่าการกินดิบด้วย เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยชะลอโรคจอประสาทตาเสื่อม ร่างกายสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอได้ ช่วยป้องกันตาแห้งและตาบอดกลางคืน ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แนะนำให้ใช้วิธีการนึ่งหรือปรุงสุกปานกลาง เพราะแครอทที่ผ่านกระบวนการปรุงสุก จะสูญเสียวิตามินซี
4. หน่อไม้ฝรั่ง ดร.เอมี่อธิบายว่า หน่อไม้ฝรั่งปรุงสุกมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า เนื่องจากเราสามารถได้รับสารอาหารสำคัญอย่างเต็มที่ เช่น วิตามิน A, C, E และสารต้านอนุมูลอิสระ การปรุงสุกหน่อไม้ฝรั่งช่วยให้ดูดซึมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้หน่อไม้ฝรั่งสุกยังนิ่มกว่า ย่อยง่ายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ควรนึ่งหรือย่างเพียงเล็กน้อยเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่ดีที่สุดนั่นเอง