เด็กสาววัย 17 ปี นอนคืนละ 4 ชั่วโมงเพราะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ สุดท้ายเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมอง
เรื่องราวน่าเศร้าใจนี้ เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 17 ปีจากเมืองบาตูปาฮัต ประเทศมาเลเซีย นอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมงและอดหลับอดนอนเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายเพื่อทำคะแนนสูงและได้รับทุนการศึกษา แต่น่าเศร้าที่เธอมีอาการปวดหัวรุนแรงและมีเลือดออกในสมองระหว่างหลับในคืนก่อนสอบ แม้จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่เธอก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามรายงานของ MS News เด็กหญิงรายนี้มีอาการชัก ปวดหัว และหมดสติ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แม้แพทย์จะพยายามยื้อชีวิตเธอไว้ แต่เธอก็จากไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมอง เธอเคยบอกเพื่อนร่วมชั้นว่าเธอมีอาการปวดหัวเป็นบางครั้ง แต่ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ พ่อของเธอเล่าว่า ลูกสาวเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน และเป็นลูกสาวคนเดียวในครอบครัวที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยม แม่ของเธอกล่าวเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ไม่เคยกดดันลูกเรื่องการเรียน แต่ลูกต้องการช่วยประหยัดเงินให้ครอบครัวจึงตั้งใจเรียนหนักเกินไปจนกระทั่งเสียชีวิต ภาวะเลือดออกในสมอง เป็นโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน มีอาการลุกลามเร็ว และอาจนำไปสู่การเป็นอัมพาต การสูญเสียการพูด การรับรู้ลดลง หรือเสียชีวิต ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตและพิการสูง สิ่งที่น่ากังวลคือโรคนี้กำลังเกิดในคนอายุน้อยมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการอดนอนที่เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ตามหลักสรีรวิทยาและจังหวะชีวภาพของมนุษย์ ช่วงเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ร่างกายและเซลล์ต้องพักฟื้น การอดนอนขัดกับจังหวะชีวภาพปกติ ทำให้เซลล์เครียด โดยเฉพาะเซลล์ประสาท ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดปกติในการเผาผลาญและเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์แนะนำให้นอนหลับอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 10 ชั่วโมง โดย 80% ควรเป็นช่วงเวลากลางคืน และควรฝึกนิสัยการนอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกวัน รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง