พีระมิดใหญ่แห่งกิซ่า (The Great Pyramid) เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณที่ยังคงยืนยงอยู่จนถึงปัจจุบัน หลายคนรู้จักพีระมิดนี้ในฐานะสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของอียิปต์โบราณ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพีระมิดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สี่ด้านเหมือนกับพีระมิดอื่นๆ? ความลับอันน่าทึ่งของพีระมิดใหญ่คือมันมีความเว้าในแต่ละด้าน ทำให้มันกลายเป็นรูปทรงแปดด้านที่พิเศษและไม่เหมือนใคร
อะไรทำให้พีระมิดใหญ่กลายเป็นแปดด้าน?
พีระมิดใหญ่แห่งกิซ่ามีความลึกซึ่งเกิดจากการเว้าของแกนกลางของแต่ละด้าน ตั้งแต่ฐานจนถึงยอด สิ่งนี้แบ่งแต่ละด้านของพีระมิดให้กลายเป็นสองส่วน ทำให้ดูเหมือนมีทั้งหมดแปดด้าน
ความลึกเว้านี้ไม่สามารถมองเห็นได้จากพื้นดิน และสามารถสังเกตเห็นได้เฉพาะจากอากาศในช่วงเวลาหนึ่งของวันเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงของเงาและแสงในเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่เผยให้เห็นความลับอันน่าทึ่งนี้
การค้นพบโดยบังเอิญในยุคการบิน
ความลับของพีระมิดแปดด้านถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1940 โดย P. Groves นักบินกองทัพอากาศอังกฤษ ขณะบินผ่านพีระมิด เขาสังเกตเห็นความเว้าบนด้านของพีระมิดและถ่ายภาพที่กลายเป็นหลักฐานสำคัญของปรากฏการณ์นี้ ภาพถ่ายนี้กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักวิจัยและผู้สนใจในโบราณคดี
ทำไมภาพส่วนใหญ่ไม่แสดงความเว้า?
เนื่องจากการเว้าของพีระมิดสามารถเห็นได้เฉพาะจากมุมมองทางอากาศและแสงที่เหมาะสม ภาพถ่ายส่วนใหญ่ที่เราเห็นในปัจจุบันจึงไม่แสดงความเว้านี้เลย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมปรากฏการณ์นี้ถึงไม่ถูกค้นพบจนกระทั่งยุคการบิน
ความสำคัญของพีระมิดแปดด้าน
การที่พีระมิดใหญ่แห่งกิซ่ามีรูปทรงแปดด้าน ไม่เพียงแต่ทำให้มันแตกต่างจากพีระมิดอื่นๆ ในอียิปต์เท่านั้น แต่ยังสร้างคำถามมากมายเกี่ยวกับเหตุผลที่สร้างและเทคนิคที่ใช้ในการก่อสร้าง
การออกแบบที่ซับซ้อนเช่นนี้อาจมีจุดประสงค์ทางศาสนา เชิงสัญลักษณ์ หรืออาจเกี่ยวข้องกับการปรับตำแหน่งของโครงสร้างกับดวงอาทิตย์และดวงดาว
สรุป
พีระมิดใหญ่แห่งกิซ่ายังคงเป็นปริศนาแห่งสถาปัตยกรรมโบราณที่ไม่มีที่สิ้นสุด ความลับของรูปทรงแปดด้านเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ดึงดูดนักวิจัยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ว่าความตั้งใจของผู้สร้างจะเป็นอย่างไร ความลึกลับนี้ยังคงยืนยงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในทุกยุคทุกสมัย