กระเบื้องปูพื้นภายนอก กันลื่น แข็งแกร่ง ทนทาน เลือกแบบไหนดี

กระเบื้องปูพื้นภายนอก มีคุณสมบัติกันลื่นและทนทานต่อสภาพอากาศ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นและการใช้งานหนัก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้อยู่อาศัย

ใครที่กำลังมองหาไอเดียในการปูพื้นภายนอกบ้านอยู่ลองหยุดอ่านบทความนี้ก่อน! เพราะการเลือกกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่เหมาะสมกับบ้านของเรานั้นสำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านแล้ว ยังส่งผลต่อความคงทนต่อสภาพแวดล้อม และอายุการใช้งานอีกด้วย แล้วกระเบื้องปูพื้นภายนอกมีวัสดุอะไรบ้างที่น่าสนใจบ้าง? เลือกอย่างไรให้เข้ากับสไตล์บ้านและงบประมาณของเราดี? ลองหาคำตอบได้ที่นี่!

---

กระเบื้องปูพื้นภายนอกที่ดี ต้องมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องไหนบ้าง?

กระเบื้องปูพื้นภายนอกแตกต่างจากกระเบื้องพื้นทั่วไปในเรื่องของความทนทานต่อสภาพอากาศ โดยกระเบื้องภายนอกต้องสามารถทนต่อความร้อน, ฝน, ความชื้น และการเสื่อมสภาพจากแสงแดดได้ดีกว่ากระเบื้องภายในที่ใช้ในพื้นที่ปิดเท่านั้น ในแง่ของการรับน้ำหนัก และแรงกระแทกกับรอยขีดข่วนก็สามารถทำได้ดีกว่า 

ทั้งนี้กระเบื้องปูพื้นภายนอกมักมีผิวสัมผัสที่หยาบ หรือมีการขัดผิวเพื่อเพิ่มความฝืด ลดความเสี่ยงในการลื่นล้มได้อีกด้วย ในเรื่องของสีสันและลวดลายก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายมากกว่ากระเบื้องพื้นทั่วไป

โดยคุณสมบัติของกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่ดี มีดังนี้

• ทนทานต่อสภาพอากาศ แสงแดด ความร้อน ฝน และความชื้นได้เป็นอย่างดี
• ไม่ลื่น เนื่องจากมีผิวสัมผัสที่หยาบหรือมีการขัดผิวเพื่อเพิ่มความฝืดหรือมีลวดลายต่าง ๆ ป้องกันการลื่นล้มได้
• อัตราการดูดซึมน้ำต่ำ ช่วยป้องกันการเกิดคราบสกปรกและการเจริญเติบโตของเชื้อรา
• รับน้ำหนักได้ดี สามารถรองรับการเดินเหิน การวางของหนัก หรือรถผ่านได้ จึงมีความทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอ
• มีสีสันและลวดลายที่หลากหลาย สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านได้ง่าย
• ดูแลรักษาง่าย เพราะไม่จับคราบสกปรกง่าย และทำความสะอาดได้ง่าย กระเบื้องปูพื้นภายนอกจึงมักนำไปปูในโรงจอด 

---

กระเบื้องปูพื้นภายนอกแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง?

กระเบื้องปูพื้นภายนอกมีหลากหลายประเภท แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมแตกต่างกันไป เรามาทำความรู้จักกับ 5 ชนิดกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่เป็นที่นิยม ซึ่งได้แก่

กระเบื้องพอร์ซเลน 

ลักษณะ: กระเบื้องพอร์ซเลนมีความแข็งแรงสูง เนื้อแน่น การเผาที่อุณหภูมิสูงทำให้ทนทานต่อการแตกร้าว จึงมีราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้กระเบื้องพอร์ซเลนมีความแข็งและทนทานกว่ากระเบื้องเซรามิค แต่ยังมีลวดลายที่สวยงามหลากหลายเหมือนกัน 

คุณสมบัติ: ดูดซึมน้ำต่ำมาก ทำให้ทนต่อความชื้น ไม่เป็นคราบง่าย มีความทนทานต่อการขีดข่วนและรอยเปื้อน จึงเหมาะกับพื้นที่ภายนอกที่มีการใช้งานหนัก เช่น ทางเดิน รอบสระว่ายน้ำ

กระเบื้องเซรามิค

ลักษณะ: เป็นกระเบื้องที่ผลิตมาจากดินเผาผ่านการเคลือบหน้า จึงมีความหลากหลายทั้งสีและลวดลาย แต่อาจมีความแข็งแรงน้อยกว่ากระเบื้องพอร์ซเลนและกระเบื้องแกรนิตโต้ อาจแตกหักได้ง่ายหากโดนแรงกระแทกหนัก ๆ จึงทำให้กระเบื้องปูพื้นภายนอกแบบเซรามิคมีราคาถูกกว่า
คุณสมบัติ: ดูดซึมน้ำมากกว่ากระเบื้องพอร์ซเลน แต่ยังเหมาะสำหรับพื้นที่ภายนอกที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรงมาก เช่น ระเบียงหรือพื้นที่มีหลังคากันแดดฝน

กระเบื้องแกรนิตโต้

ลักษณะ: กระเบื้องแกรนิตโต้มีลวดลายคล้ายหินธรรมชาติ เพราะมาจากกระบวนการเผาด้วยอุณหภูมิสูงจนมีเนื้อแน่น แข็ง ความหนาแน่นสูง ทำให้ดูดซึมน้ำได้น้อยมาก จึงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากระเบื้องเซรามิคและใกล้เคียงกับกระเบื้องพอร์ซเลน จึงทำให้เป็นกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่มีราคาค่อนข้างสูง

คุณสมบัติ: มีความทนทานสูงมาก ทนต่อการขีดข่วน การแตกร้าว และดูดซึมน้ำต่ำ มีความหรูหราเหมือนหินธรรมชาติ นิยมใช้ในพื้นที่ภายนอกที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ลานบ้านหรือทางเดิน

กระเบื้องคอนกรีต

ลักษณะ: เป็นกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่ผลิตมาจากคอนกรีตผสมซีเมนต์และทราย มีลักษณะเนื้อหยาบ ผิวสัมผัสไม่เรียบ แต่มีความทนทานและเหมาะกับพื้นที่ภายนอกมากที่สุดในกลุ่มกระเบื้อง ส่วนในเรื่องของความสวยงามและความหลากหลายอาจน้อยกว่ากระเบื้องประเภทอื่น ๆ

คุณสมบัติ: แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง มีความหนาแน่นสูง รับน้ำหนักได้ดี นิยมใช้ในพื้นที่ทางเดินภายนอกหรือโรงจอดรถ เพราะกระเบื้องปูพื้นภายนอกมีคุณสมบัติในการกันลื่นได้ดี แต่มีข้อเสียคือน้ำหนักมาก มีสีลวดลายจำกัด และการติดตั้งค่อนข้างซับซ้อน

กระเบื้องดินเผา

ลักษณะ: กระเบื้องปูพื้นภายนอกที่ทำมาจากดินเผา โดยผ่านการเผาในอุณหภูมิไม่สูงมาก ทำให้มีสีส้มอมแดงที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม และให้ความรู้สึกแบบพื้นดินธรรมชาติ การดูแลรักษาอาจเป็นไปได้ยากกว่ากระเบื้องพอร์ซเลนและกระเบื้องแกรนิตโต้

คุณสมบัติ: มีความทนทานพอสมควรและให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติ สามารถดูดซึมน้ำได้มาก ทำให้ไม่เหมาะกับพื้นที่ภายนอกที่ต้องเผชิญกับฝนหนัก จึงเหมาะกับการปูในพื้นที่ที่มีหลังคาบัง

---

กระเบื้องปูพื้นภายนอกราคาเท่าไหร่ แต่ละประเภทต่างกันมากแค่ไหน?

ราคาของกระเบื้องปูพื้นภายนอกแต่ละชนิดนั้นมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาด ลวดลาย ความหนา และยิ่งมีวิธีการผลิตที่ซับซ้อนให้เป็นกระเบื้องลายไม้ หรือกระเบื้องลายหินอ่อนก็ยิ่งทำให้มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย แต่โดยทั่วไปแล้ว กระเบื้องปูพื้นภายนอกราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ ดังนี้

กระเบื้องพอร์ซเลน: ราคาต่อแผ่น เริ่มต้นประมาณ 250-800 บาท/ตร.ม.
* โดยราคาของกระเบื้องพอร์ซเลนขึ้นอยู่กับคุณภาพ ความหนา ลวดลาย และเทคโนโลยีการผลิต เช่น กระเบื้องปูพื้นภายนอกที่เคลือบกันลื่นหรือมีลวดลายพิเศษจะมีราคาสูงกว่า

กระเบื้องเซรามิค: ราคาต่อแผ่น เริ่มต้นประมาณ 150-500 บาท/ตร.ม.
* โดยปัจจัยที่อาจส่งผลต่อราคากระเบื้องชนิดนี้ คือ ความหนา ขนาด ลวดลาย และคุณภาพการเคลือบ กระเบื้องเซรามิคที่มีความหนามากกว่าหรือมีการเคลือบพิเศษจะมีราคาสูงกว่า รวมถึงกระเบื้องปูพื้นภายนอก 60x60 ราคาจะแพงกว่ากระเบื้องปูพื้นภายนอก 40x40

กระเบื้องแกรนิตโต้: ราคาต่อแผ่น เริ่มต้นประมาณ 300-1,000 บาท/ตร.ม.
* โดยราคาขึ้นอยู่กับขนาด เนื้อวัสดุ และลวดลาย กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาดใหญ่หรือมีลวดลายเลียนแบบหินธรรมชาติจะมีราคาสูงกว่า

กระเบื้องคอนกรีต: ราคาต่อแผ่น เริ่มต้นประมาณ 100-400 บาท/ตร.ม.
* โดยราคาขึ้นอยู่กับความหนา ขนาด และลักษณะพื้นผิว หากมีการเสริมความทนทานหรือมีลวดลายพิเศษ ราคาก็จะสูงขึ้น

กระเบื้องดินเผา: ราคาต่อแผ่น เริ่มต้นประมาณ 100-300 บาท/ตร.ม.
* โดยราคาขึ้นอยู่กับขนาดและกระบวนการผลิต กระเบื้องที่ผลิตด้วยมือหรือมีลวดลายพิเศษจะมีราคาสูงกว่า

---

วิธีติดตั้งกระเบื้องปูพื้นภายนอกให้ออกมาเหมือนมืออาชีพ

ในการติดตั้งกระเบื้องปูพื้นภายนอกจำเป็นต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่ภายนอกต้องเผชิญกับสภาพอากาศและการใช้งานที่หนักกว่าภายในบ้าน การติดตั้งกระเบื้องปูพื้นที่ถูกต้องจึงส่งผลต่ออายุการใช้งานและความสวยงามได้ ซึ่งขั้นตอนการติดตั้งมีดังนี้

• เตรียมพื้นที่พื้นผิว โดยการทำความสะอาดและปรับระดับพื้นผิว ตรวจสอบความลาดเอียงเพื่อการระบายน้ำ
• เลือกกาวซีเมนต์และปูนกาวที่เหมาะสมในการติดตั้งกระเบื้อง ควรใช้กาวซีเมนต์สำหรับภายนอกเพื่อความทนทาน
• ทาปูนกาวลงบนพื้น และใช้เกรียงหวีปาดปูนกาวให้ทั่ว
• วางกระเบื้องลง จากนั้นกดกระเบื้องให้แน่น ใช้ลูกยางเคาะปรับระดับ เว้นร่อง 3-5 มม. สำหรับการยาแนว
• ทิ้งให้ปูนกาวแห้งประมาณ 24-48 ชั่วโมงก่อนการลงยาแนว
• ลงยาแนวกระเบื้อง โดยใช้เกรียงยางปาดปูนยาแนวลงในร่องกระเบื้อง จากนั้นให้เช็ดคราบส่วนที่เกินออก
• ทำความสะอาดพื้นผิวกระเบื้องปูพื้นภายนอกให้สะอาด เช็ดคราบยาแนวที่หลงเหลือออกให้หมด และตรวจสอบความเรียบร้อย

---

ก่อนเลือกซื้อกระเบื้องปูพื้นภายนอก มีสิ่งที่ควรรู้อะไรบ้าง?

ในการเลือกซื้อกระเบื้องปูพื้นภายนอก มีปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้อง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพอากาศภายนอกบ้านของเรา ซึ่งอาจมีข้อควรรู้ ดังนี้

• ความทนทานต่อสภาพอากาศ
  กระเบื้องสำหรับภายนอกควรมีความทนทานต่อแสงแดด ฝน และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ กระเบื้องที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศจะไม่เกิดการแตกร้าวหรือซีดจางง่าย
• พื้นผิวกันลื่นและดูดซึมน้ำต่ำ
  พื้นที่ภายนอกมักเจอกับฝนหรือความชื้น การเลือกกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่มีพื้นผิวกันลื่น (Anti-slip) จะช่วยป้องกันการลื่นไถลและอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่เปียก เช่น ทางเดินริมสระน้ำ และดูดซึมน้ำต่ำ เพื่อช่วยป้องกันการเกิดตะไคร่และเชื้อราบนพื้นผิว
• ความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก
  กระเบื้องภายนอกควรมีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักและการสึกหรอจากการเดินเหยียบหรือยานพาหนะ เช่น กระเบื้องปูพื้นภายนอกโรงรถวัสดุที่แนะนำคือ กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain tile) เพราะมีความทนทานสูง
• สีและลวดลาย
  ควรเลือกสีและลวดลายที่เข้ากับการตกแต่งภายนอกบ้านและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง กระเบื้องสีเข้มมักจะทนต่อคราบสกปรกได้ดีกว่า แต่ควรคำนึงถึงการสะท้อนความร้อนด้วย
• ความสะดวกในการทำความสะอาดและบำรุงรักษา
  กระเบื้องปูพื้นภายนอกที่มีผิวมันอาจทำความสะอาดง่ายแต่จะลื่นเมื่อเปียก ในขณะที่กระเบื้องที่มีพื้นผิวหยาบสามารถกันลื่นได้ดีแต่ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำความสะอาด

---

เลือกกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่โดนใจ สร้างสรรค์พื้นที่กลางแจ้งที่ใช่สำหรับคุณ

การเลือกกระเบื้องปูพื้นภายนอกควรคำนึงถึงความทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ฝน ความร้อน และความชื้น รวมถึงการรับน้ำหนักการใช้งาน และทนต่อการเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ ควรเลือกพื้นผิวกระเบื้องที่มีลักษณะกันลื่นได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถลในบริเวณที่มีความชื้น อีกทั้งการเลือกกระเบื้องที่มีค่าการดูดซึมน้ำน้อย จะช่วยป้องกันปัญหาการแตกร้าวและการเกิดเชื้อราในอนาคตได้ 

นอกจากนี้ ความสวยงามก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เจ้าของบ้านควรสรรหาวัสดุที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งภายนอก โดยควรเลือกกระเบื้องปูพื้นภายนอกที่ทำความสะอาดได้ง่าย และบำรุงรักษาได้อย่างสะดวก จะช่วยยืดอายุการใช้งานและเป็นการรักษาความสวยงามของพื้นภายนอกบ้านได้ดียิ่งขึ้น