ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด เรื่องพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนใช้บัตรกดเงินสด

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด เป็นค่าธรรมเนียมเมื่อกดเงินสดออกมา โดยอัตราดอกเบี้ยจะคิดตั้งแต่วันที่กดเงินออกมา จึงจำเป็นต้องทราบวิธีคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดที่ถูกต้อง

บัตรกดเงินสดเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดยามฉุกเฉิน ช่วยให้เข้าถึงเงินสดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งหลายคนก็อาจจะเคยได้ยินว่า อัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดสูงกว่าบัตรเครดิต แต่รู้หรือไม่ว่า หากคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งจ่ายเต็มจำนวนตามรอบบิล หรือจ่ายเร็ว ยอดดอกเบี้ยก็จะยิ่งน้อย ดังนั้น การทำความเข้าใจวิธีคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินต่างจากบัตรเครดิตยังไง?

บัตรกดเงินสด คือสินเชื่อบุคคลประเภทหนึ่ง ที่สามารถเบิกถอนเงินสดผ่านแอปพลิเคชัน หรือกดเงินสดออกมาจากตู้ ATM ได้ทันทีตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ โดยมีการคิดอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแบบทบต้นทบดอก ทำให้หากมองแบบผิวเผินตัวเลขอาจจะดูสูงกว่าบัตรเครดิต แต่ในความเป็นจริงแล้วหากใช้อย่างถูกวิธีดอกเบี้ยสามารถถูกกว่าบัตรเครดิตได้เช่นกัน

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด คือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ผู้ถือบัตรต้องจ่าย เมื่อกดเงินสดออกมาจากบัตรกดเงินสด โดยอัตราดอกเบี้ยจะคิดตั้งแต่วันที่กดเงินออกมาจนถึงวันที่ชำระหนี้หมด ถ้าไม่ใช้ ก็ไม่เสียดอกเบี้ย ซึ่งโดยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจะอยู่ที่ 25% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิต

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะสูงกว่าบัตรเครดิต แต่หากจ่ายตามรอบบิล และจ่ายเต็มจำนวน ยิ่งปิดหนี้ไว ยอดดอกเบี้ยยิ่งน้อย เพราะคิดแบบรายวัน ทำให้ในบางสถานการณ์ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดไม่ได้แพงอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิดนั่นเอง

แนะนำวิธีการคำนวณหนี้บัตรกดเงินสดแบบเข้าใจง่าย?

แล้วดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดคิดยังไง? ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแต่ละสถาบันการเงิรอาจจะมีอัตราที่แตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน แต่โดยทั่วไปแล้ว จะมีวิธีคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด คือ

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด = (ยอดเงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันที่คิดดอกเบี้ย) / 365

• ยอดเงินต้นคงเหลือ คือ จำนวนเงินที่ยังค้างชำระอยู่
• อัตราดอกเบี้ยต่อปี คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนด ซึ่งมักจะระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี
• จำนวนวันที่คิดดอกเบี้ย คือ จำนวนวันที่ยังไม่ได้ชำระหนี้

ยกตัวอย่างการคำนวณว่า หากกดเงินสดจากบัตรกดเงินสดจำนวน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปี และสถาบันการเงินจะเริ่มคำนวนดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่กดเงินจนถึงวันที่ชำระคืน ดังนั้นหากเรากดเงินวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และชำระคืนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 นั่นหมายความว่าจำนวนวันที่คิดดอกเบี้ยจะเป็น 30 วัน หากคำนวณดอกเบี้ยจากสูตรข้างต้นจะได้ดังนี้

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด = (10,000 x 18% x 30) / 365 = 147.95 บาท

ดังนั้นจะต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดเป็นจำนวน 147.95 บาท

ซึ่งการรู้วิธีคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด จะช่วยให้สามารถวางแผนการชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเข้าใจค่าใช้จ่ายที่แท้จริงที่ต้องจ่ายมากขึ้นทำให้สามารถบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลได้ดีขึ้น และจะเห็นได้ว่า หนี้บัตรกดเงินสดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากมีวินัยในการชำระหนี้ ปิดหนี้ทั้งหมด และเข้าใจหลักการคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด การใช้บัตรกดเงินสดก็สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีในยามฉุกเฉินได้

ทำไมถึงควรจ่ายหนี้บัตรกดเงินสดจำนวน 

การจ่ายหนี้บัตรกดเงินสดตามรอบบิลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะส่งผลต่อประวัติทางการเงินที่สถาบันการเงินต่าง ๆ นำไปพิจารณาเมื่อต้องการขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อส่วนบุคคล การขอสินเชื่อบ้าน หรือแม้แต่การขอเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตเอง โดยเหตุผลที่การจ่ายหนี้ตามรอบบิลสำคัญ ได้แก่

• การชำระหนี้บัตรกดเงินสดตามกำหนด จะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นผู้ที่มีวินัยทางการเงิน สามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อคะแนนเครดิต
• หากมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ธนาคารจะมั่นใจว่า สามารถชำระหนี้คืนได้ จึงมีโอกาสอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดที่ต่ำกว่า
• การชำระหนี้ตรงเวลาและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินพิจารณาในการเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้
• การชำระหนี้เต็มจำนวนตามรอบบิลจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการจ่ายดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดในจำนวนที่เยอะขึ้น ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

การจ่ายหนี้บัตรเครดิตตามรอบบิลเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมีผลต่อเครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลต่อโอกาสในการขอสินเชื่อและการใช้ชีวิตทางการเงินในอนาคต การมีวินัยในการชำระหนี้จะช่วยให้มีประวัติทางการเงินที่ดี และสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก

ทำไมถึงควรแม่นในเรื่องการคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด

การเข้าใจและแม่นยำในการคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดนั้นสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการวางแผนการเงินในระยะยาว และส่งผลประวัติในการทำธุรกรรมอีกด้วย โดยสามารถอธิบายความสำคัญของดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแต่ละธนาคารได้ ดังนี้

วางแผนการค่าใช้จ่ายในแต่ละรอบบิลได้ดียิ่งขึ้น

การคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย โดยสามารถวางแผนการชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงการเกิดภาระหนี้ที่มากเกินไป นอกจากนี้ การคำนวณดอกเบี้ยที่ถูกต้องจะช่วยให้ทราบจำนวนเงินที่ต้องชำระ ทำให้หลีกเลี่ยงการชำระล่าช้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่าปรับเพิ่มเติม

สร้างประวัติการกู้ที่ดี ส่งผลต่อการทำธุรกรรมครั้งต่อ ๆ ไป

การทราบวิธีคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด จะช่วยให้ชำระหนี้บัตรกดเงินสดตรงตามกำหนด สะท้อนให้เป็นผู้ที่มีวินัยทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลดีต่อคะแนนเครดิต เมื่อมีคะแนนเครดิตที่ดี ธนาคารจะมองว่า มีความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้ จึงมีโอกาสอนุมัติสินเชื่อให้ได้ง่ายขึ้น เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือแม้แต่บัตรเครดิตใบใหม่ บางครั้งอาจจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเมื่อขอสินเชื่อ

ลดโอกาสในการเกิดหนี้เสียสะสม

การคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดที่ถูกต้องจะช่วยให้เห็นภาพรวมของหนี้สินที่มีอยู่ และสามารถวางแผนจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการมีหนี้สินที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด คิดให้ดี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

บัตรกดเงินสดเป็นตัวช่วยที่ดีในยามฉุกเฉิน ที่หากใช้อย่างถูกวิธีดอกเบี้ยจะถูก และมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดค่อนข้างสูง หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด อาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของได้ ดังนั้น การคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจึงเป็นความรู้ที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ใช้บัตรกดเงินสด การเข้าใจวิธีคำนวณ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจะช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระหนี้สิน มีประวัติเครดิตที่ดี และสร้างวินัยทางการเงินให้กับตัวเองในระยะยาว