เจาะลึก Black Box: กล่องความลับแห่งการบิน
เขียนโดย: Boss Panuwat
ต้นกำเนิดของ Black Box
Black Box หรือที่รู้จักกันในภาษาไทยว่า "กล่องดำ" ได้รับการพัฒนาในออสเตรเลียช่วงต้นทศวรรษ 1950 โดยในยุคนั้น Black Box เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ถูกทาสีดำตามชื่อเรียก และออกแบบมาเพื่อใช้บันทึกข้อมูลการบินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุการบิน
Black Box รุ่นแรกถูกออกแบบมาให้มีระบบบันทึกเสียงโดยใช้เทปแม่เหล็ก และติดตั้งไมโครโฟนไว้รอบห้องนักบิน อุปกรณ์นี้ถูกบรรจุในกล่องกันไฟ และสีดำที่ใช้ในช่วงแรกมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดสนิมและป้องกันพื้นผิวโลหะ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน
Black Box กับบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
Black Box แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่
- เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (Cockpit Voice Recorder) ซึ่งบันทึกเสียงได้สูงสุด 4 ช่องเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง
- เครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (Flight Data Recorder) ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 25 ชั่วโมง และรองรับการบันทึกข้อมูลหลายพันพารามิเตอร์
การบันทึกข้อมูลทั้งสองประเภทนี้มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์อุบัติเหตุและพัฒนาความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการบิน
ทำไมถึงเรียกว่า Black Box ทั้งที่สีไม่ดำ?
แม้ว่าชื่อจะบอกว่าเป็น "กล่องดำ" แต่ในความเป็นจริง Black Box ที่เราเห็นในปัจจุบันถูกทาสีส้มสดใส เพื่อให้ทีมค้นหาและกู้ภัยสามารถมองเห็นได้ง่ายในที่เกิดเหตุ สาเหตุที่ชื่อ Black Box อาจมาจากแนวคิดในยุคแรก ๆ ที่เรียกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกห่อหุ้มว่า "Black Box" หรือจากสีดำในรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้น
Black Box ในอนาคต
เทคโนโลยีของ Black Box ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการบันทึกข้อมูลและเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ความสำคัญของ Black Box จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการสืบสวนเหตุการณ์การบินในอนาคต