ในปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมและสัมผัสนุ่มฟู แต่รู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือผู้ที่มีผิวบอบบาง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ด้วยการทำ น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบโฮมเมด ซึ่งใช้ส่วนผสมธรรมชาติที่หาได้ง่ายในครัวเรือน มาลองดูวิธีทำและประโยชน์กันค่ะ
ประโยชน์ของน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบโฮมเมด
- ปลอดภัยต่อผิวหนัง เนื่องจากไม่มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น น้ำหอมสังเคราะห์หรือสารกันเสีย
- ลดค่าใช้จ่าย ส่วนผสมหลักสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน เช่น น้ำส้มสายชู และเบกกิ้งโซดา
- รักษาสิ่งแวดล้อม การใช้ส่วนผสมธรรมชาติช่วยลดการปล่อยสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำ
ส่วนผสมในการทำน้ำยาปรับผ้านุ่มโฮมเมด
- น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
- เบกกิ้งโซดา ½ ถ้วย
- น้ำมันหอมระเหย (กลิ่นที่คุณชอบ) 10-15 หยด
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
- ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่า เทน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าลงในภาชนะที่มีฝาปิด และเขย่าให้เข้ากัน
- ใส่เบกกิ้งโซดาอย่างระมัดระวัง ค่อยๆ ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปทีละนิด เพื่อป้องกันการเกิดฟองล้น
- เติมน้ำมันหอมระเหย ใส่น้ำมันหอมระเหยตามปริมาณที่ต้องการเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
- เก็บใส่ภาชนะ เก็บน้ำยาปรับผ้านุ่มในขวดพลาสติกหรือแก้วที่มีฝาปิด และเขย่าก่อนใช้งาน
วิธีการใช้งาน
- เทน้ำยาปรับผ้านุ่มโฮมเมดประมาณ ¼ ถ้วยลงในช่องน้ำยาปรับผ้านุ่มของเครื่องซักผ้า
- หากซักด้วยมือ ให้เติมน้ำยาลงในน้ำสุดท้ายก่อนนำเสื้อผ้ามาตาก
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- หากต้องการเพิ่มความนุ่มฟู ให้ใส่เกลือทะเลละเอียดประมาณ 1 ช้อนชา
- สำหรับคนที่แพ้ง่าย เลือกใช้น้ำมันหอมระเหยที่มาจากธรรมชาติ 100%
ข้อควรระวัง
- อย่าใช้ส่วนผสมที่เป็นกรดมากเกินไป เช่น น้ำมะนาว เพราะอาจทำให้เสื้อผ้าสีซีดได้
- เก็บน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ในที่แห้งและห่างจากเด็ก