ขนในที่ลับ ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมีไว้ทำไม จะเก็บขนน้องสาวไว้ หรือกำจัดทิ้ง เรื่องราวของ ขนในที่ลับ ที่ควรรู้

 

ประโยชน์ของขนบริเวณจุดซ่อนเร้นต่อสุขภาพ

• ช่วยลดการเสียดสี ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศนั้นค่อนข้างบอบบาง ขนบริเวณอวัยวะเพศ จึงทำหน้าที่เสมือนปราการป้องกันที่ช่วยลดการเสียดสีระหว่างที่คุณทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมทางเพศ

 

• ช่วยป้องกันแบคทีเรีย ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายของเราได้ นอกจากนี้ รูขุมขนยังผลิตซีบัม ซึ่งเป็นน้ำมันที่ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ช่วยป้องกันการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรีย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่น ๆ อย่างเช่น โรคเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ  ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) การติดเชื้อยีตส์ หรือเชื้อรา

 

• ช่วยกระตุ้นอารมณ์ รูขุมขนของ ขนบริเวณอวัยวะเพศ จะมีปลายเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก การโกนหรือถอนขนบริเวณนี้ออกไปจนเกลี้ยง ถือเป็นการทำลายสิ่งกระตุ้นอารมณ์ อาจส่งผลเสียต่อการทำกิจกรรมทางเพศได้  ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่า ขนบริเวณอวัยวะเพศ เป็นเครื่องมือกระจายฟีโรโมน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ต่ออารมณ์และพฤติกรรม ผลิตจากต่อมที่เรียกว่า ต่อมเหงื่ออโพไคลน์ (Apocrine Sweat Gland) พบได้ในบางตำแหน่งของร่างกาย อย่างเช่น รักแร้ รอบทวารหนัก รวมถึงบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อฟีโรโมนหลั่ง ก็จะช่วยดึงดูดเพศตรงข้าม และกระตุ้นอารมณ์ให้คู่รักของเราด้วย

 

• ช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกาย รูขุมขนของขนบริเวณอวัยวะเพศช่วยระบายเหงื่อและความร้อน อีกทั้งซีบัมที่ผลิตออกมายังช่วยทำให้อวัยวะเพศอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกับการตื่นตัวทางเพศ หรืออารมณ์ทางเพศ

 

 

สาเหตุ ปัจจัย ที่คนเลือกกำจัด ขนบริเวณอวัยวะเพศ

• ความชอบส่วนบุคคล บางคนเลือกกำจัดขนตรงจุดซ่อนเร้นทิ้ง เพราะชอบแบบนั้นมากกว่า ทำแล้วรู้สึกสบาย ทำให้มั่นใจเวลาทำกิจกรรมทางเพศมากกว่า

 

• ทำตามความต้องการของคู่รัก ผลสำรวจจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2013 พบว่า 1% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม จำกัดขนตรงจุดซ่อนเร้น เพื่อเอาใจคู่รักของตน และผลสำรวจยังพบว่า จำนวนผู้ชายที่เลือกกำจัดขนตรงจุดซ่อนเร้นเพื่อคนรัก ก็แทบไม่ต่างจากผู้หญิงเลย

 

• ช่วยกระตุ้นอารมณ์ บางคนเชื่อว่า การกำจัด ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศ และทำให้สุขสมขึ้นเวลามีเพศสัมพันธ์

 

 

ความเสี่ยงสุขภาพจากการกำจัด ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น

• การบาดเจ็บ ความเสี่ยงสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปเวลาโกนขนตรงจุดซ่อนเร้น  คือ อาการบาดเจ็บ ผลการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในปี 2017 เผยว่า 6 % ของผู้ที่โกนขนตรงจุดซ่อนเร้น มีอาการบาดเจ็บในระหว่างโกนขนและหลังโกนขน ซึ่งอาการบาดเจ็บที่พบมากที่สุด ได้แก่ มีดโกนบาด รองลงมาคือ อาการแสบร้อน และผื่นคัน

 

• โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2017 จากประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า ผู้ที่กำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมีความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างเช่น หนองในเทียม การติดเชื้อเอชไอวี โรคเริม โรคซิฟิลิส การติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus : HPV) หูดข้าวสุก (Molluscum Contagiosum)

 

• ฝี และขนคุด การกำจัดขน อน่างเช่น การโกน การแว็กซ์ขน อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง และติดเชื้อ จนเกิดเป็นฝี (Abscess) ลักษณะเป็นก้อนสีแดง หรือตุ่มหนองลึกลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เจ็บปวด บวม แดง อาจทำให้เกิดขนคุด ที่นำไปสู่อาการผิวหนังอักเสบติดเชื้อได้ด้วย

 

• การติดเชื้อ ขนตรงจุดซ่อนเร้นช่วยดักจับเชื้อโรค ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เมื่อกำจัดขนตรงจุดซ่อนเร้นออกไป จะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ มากขึ้น หลังกำจัดขน ผิวหนังในบริเวณนั้นอาจระคายเคือง จนนำไปสู่การติดเชื้อ อย่างเช่น รูขุมขนอักเสบ เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ เกิดอุบัติเหตุระหว่างโกนขน อย่างเช่น มีดโกนบาด อาจทำให้ติดเชื้อได้

 

 

วิธีโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างปลอดภัย

• เตรียมอุปกรณ์ ใช้มีดโกนที่คมและสะอาด ครีมโกนขนหรือเจล น้ำอุ่น

 

• ใช้กระจกพกพา จะได้มองเห็นส่วนที่ต้องการโกนขนง่ายขึ้น

 

• ล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันเชื้อโรค อย่างเช่น แบคทีเรียแพร่กระจาย จนบริเวณนั้นติดเชื้อ

 

• ก่อนโกนขน ควรเล็มขนออกให้ได้มากที่สุด

 

• นอนแช่น้ำอย่างน้อย 5 นาที หรือทำให้ขนบริเวณนั้นเปียกชุ่มเสียก่อน ผิวและเส้นขนจะได้นุ่ม ทำให้โกนขนได้ง่ายขึ้น

 

• ทำความสะอาดผิว ล้างบริเวณน้องสาวด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อน ๆ เพื่อเปิดรูขุมขน

 

• ใช้ครีมโกนขน ทาครีมโกนขนหรือเจลลงบนบริเวณที่ต้องการโกน เพื่อให้มีดโกนลื่นขึ้น

 

 

• มีดโกนที่ใช้โกนขนตรงจุดซ่อนเร้นต้องคม ห้ามใช้ใบมีดทื่อ หากเป็นไปได้ ควรเปลี่ยนใบมีดใหม่ทุกครั้ง หรือเลือกใช้มีดโกนแบบมีแถบเพิ่มความชุ่มชื้น

 

• โกนขน โดยวิธีโกนขนน้องสาวต้องโกนในทิศทางเดียวกับการเจริญเติบโตของขนเพื่อลดการระคายเคือง

 

• ใช้มือข้างหนึ่งดึงผิวหนังบริเวณที่ต้องการให้ตึงขึ้น แต่อย่าดึงแรงเกินไป

 

• ค่อย ๆ โกนขนตามแนวรูขุมขนอย่างเบามือ

 

• โกนขนเสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยน้ำอุ่นและซับให้แห้ง

 

• ทาเบบี้ออยล์หรือเจลว่านหางจระเข้ แต่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม และแอลกอฮอล์

 

• ช่วง 2-3 วันหลังโกนขนตรงจุดซ่อนเร้น ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่คับแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นระคายเคือง หรืออักเสบได้

 

• ใช้ใยบวบสครับเบา ๆ เป็นประจำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว

 

 

ข้อควรระวังในการโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างปลอดภัย

• การเลือกมีดโกน ต้องใช้มีดโกนที่คมเพียงพอ เพื่อป้องกันการบาด ทำให้เป็นแผลและการระคายเคือง

 

• ต้องรักษาความสะอาดอย่างดี ทั้งก่อนและหลังโกนขน

 

• ไม่โกนขนเร็ว ๆ หรือรีบโกน ควรใช้ความระมัดระวังในการโกน

 

• ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารเคมีรุนแรง อาจทำให้ผิวน้องสาวระคายเคืองได้

 

 

วิธีดูแลขนบริเวณจุดซ่อนเร้น

• ไม่ใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะอาจทำให้ค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือค่า pH ของจุดซ่อนเร้นเสียความสมดุลได้

 

• หากเป็นผู้หญิง หลังปัสสาวะเสร็จแล้ว ควรซับทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง

 

• ระวังอย่าให้บริเวณจุดซ่อนเร้นอับชื้น ต้องรักษาความสะอาดให้ดี และเช็ดให้แห้งอยู่เสมอ

 

• หากรู้สึกว่าขนบริเวณจุดซ่อนเร้นยาวเกินไป ก็สามารถเล็มออกได้