ทำไมในสงครามโบราณผู้โจมตีเลือกที่จะใช้ไม้ซุงชนประตูเมืองแทนที่จุดไฟเผา?
ในสงครามโบราณ การโจมตีเมืองถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของฝ่ายโจมตี หนึ่งในเป้าหมายหลักคือการทำลายประตูเมืองเพื่อเปิดทางเข้าสู่ภายใน แต่ทำไมผู้โจมตีจึงเลือกที่จะไม้ซุงชนประตูเมืองแทนที่จะจุดไฟเผา? คำตอบนั้นซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย
ประตูเมืองในสมัยโบราณมักถูกสร้างขึ้นจากไม้ที่มีความแข็งแรง เช่น ไม้เบิร์ชหรือไม้ทับทิม ซึ่งไม้เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความทนทานต่อแรงกระแทก แต่ยังมีการรักษาเพื่อป้องกันไฟอีกด้วย บางครั้งผิวของประตูก็ถูกเคลือบด้วยสารป้องกันไฟ ทำให้การจุดไฟเผาไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ นอกจากนี้ การโจมตีด้วยไฟยังต้องใช้เวลามากกว่าการบุกตะลุย ซึ่งอาจทำให้ฝ่ายโจมตีเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากฝ่ายป้องกัน
แม้ว่าการใช้ไฟจะเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ แต่ผลลัพธ์ของมันกลับไม่แน่นอน ในหลายกรณี ผู้โจมตีที่พยายามใช้ไฟในการทำลายประตูกลับพบว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ ตัวอย่างเช่น ในเหตุการณ์หนึ่งในปี 1461 กลุ่มกบฏที่พยายามใช้ไฟในการโจมตีเมืองกลับต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนักเมื่อแผนการล้มเหลว การใช้ไฟอาจทำให้เกิดความเสียหายมาก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ฝ่ายโจมตีต้องถอนตัว
การใช้ไม้ซุงชนประตูเมืองยังมีข้อดีในด้านยุทธศาสตร์ ผู้โจมตีสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรวดเร็วและเปิดทางเข้าสู่เมืองได้ภายในเวลาอันสั้น การใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น รถชนทะลวงหรือรถยิงลูกศร ยังช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของฝ่ายป้องกัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น