"มองข้ามไม่ได้! สัญญาณมะเร็งซ่อนอยู่ตอนแปรงฟัน รู้ทันรักษาไว"
มะเร็งในช่องปากเป็นปัญหาสุขภาพที่มักถูกมองข้าม แต่กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในสหราชอาณาจักรได้ออกคำเตือนเพื่อให้ประชาชนตระหนักและตรวจสอบสัญญาณของโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะเวลาที่แปรงฟัน ซึ่งเป็นช่วงที่หลายคนสามารถตรวจพบอาการเบื้องต้นได้ง่ายที่สุด
สัญญาณเตือนสำคัญของมะเร็งในช่องปาก
ข้อมูลจากมูลนิธิสุขภาพช่องปากในสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า 31% ของมะเร็งในช่องปากมักเกิดขึ้นที่บริเวณลิ้น ซึ่งสัญญาณเตือนที่สามารถพบได้คือการมี "รอยขาว" หรือ "รอยแดง" บนลิ้นหรือในปาก การสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ขณะทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำอาจช่วยในการตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ การแปรงฟันหรือบ้วนปากยังเป็นวิธีที่ช่วยให้เรามีโอกาสสำรวจความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อภายในช่องปาก
บริเวณที่มักเกิดมะเร็งในช่องปาก
แม้ว่าลิ้นจะเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงสุด แต่ต่อมทอนซิลก็ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยมะเร็งในช่องปากที่เกิดในบริเวณต่อมทอนซิลคิดเป็น 22% ของผู้ป่วยทั้งหมด ส่วนบริเวณอื่นๆ ที่มักพบมะเร็งในช่องปากได้แก่ ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก และด้านในแก้ม การสังเกตอาการที่ไม่ปกติในส่วนเหล่านี้ เช่น การมีแผลในปากที่ไม่หายหรือการมีก้อนบวมในปากและคอ ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ควรระวังและรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่มะเร็งในช่องปาก
ดร.ไนเจล คาร์เตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิสุขภาพช่องปาก ได้เน้นย้ำว่าแม้ว่ามะเร็งหลายชนิดจะมีอัตราการเกิดที่ลดลง แต่มะเร็งในช่องปากกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพช่องปาก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในช่องปากที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส papillomavirus (HPV) ของมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายได้ผ่านการติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเป็นสาเหตุสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในช่องปาก
อาการที่ควรสังเกตเมื่อแปรงฟัน
การแปรงฟันเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่เราสามารถใช้เป็นโอกาสในการสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งในช่องปากได้ เช่น การพบรอยขาวหรือรอยแดงที่ไม่ปกติบนลิ้นหรือในช่องปาก การมีแผลที่ไม่หายภายในเวลาสองสัปดาห์ การมีก้อนบวมในบริเวณศีรษะ คอ หรือภายในช่องปาก หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม
เพศหญิงมีความเสี่ยงเช่นเดียวกับเพศชาย
แม้ว่ามะเร็งในช่องปากจะถูกมองว่าเป็นโรคที่เกิดในเพศชายมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วเพศหญิงก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน สถิติจากหลายงานวิจัยพบว่าจำนวนผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งในช่องปากเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิง รวมถึงการสัมผัสกับ HPV เช่นเดียวกับเพศชาย
การตรวจพบและการรักษา
หากตรวจพบมะเร็งในช่องปากตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โอกาสในการรักษาและการฟื้นตัวจะสูงมากขึ้น การตรวจพบมะเร็งระยะแรกมักเกี่ยวข้องกับการตรวจทางการแพทย์ เช่น การตรวจโดยทันตแพทย์ หรือการทำ biopsy เพื่อวิเคราะห์เนื้อเยื่อที่ผิดปกติ สำหรับการรักษานั้น ขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็งและสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยมีวิธีการรักษาหลักๆ ได้แก่ การผ่าตัด การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด
วิธีการป้องกันมะเร็งในช่องปาก
การป้องกันมะเร็งในช่องปากสามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การเลิกสูบบุหรี่และลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การมีการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการตรวจสุขภาพช่องปากโดยทันตแพทย์อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง การรับวัคซีนป้องกันไวรัส HPV สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 9-26 ปี ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับไวรัส HPV
ข้อคิดและการดูแลตนเอง
การที่ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนเกี่ยวกับสัญญาณเตือนของมะเร็งในช่องปากสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากและการตรวจสอบอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง การตระหนักถึงสัญญาณเตือนและการตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยให้พบโรคได้เร็วและเพิ่มโอกาสในการรักษาและฟื้นตัวให้กลับมาแข็งแรง
อ้างอิงจาก: รูป :โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ข้อมูล :soha