หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หนานจิง รอยแผลระหว่างจีนกับญี่ปุ่น

เนื้อหาโดย มะม่วงแอปเปิ้ล

การข่มขืนที่หนานจิง หรือที่รู้จักกันในชื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หนานจิง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 1937 ถึง มกราคม 1938 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นเข้ายึดเมืองหนานจิง ซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐจีน

เมื่อกองทัพญี่ปุ่นเข้าสู่เมืองหนานจิง พวกเขาได้ปล่อยความรุนแรงออกมาอย่างโหดเหี้ยมต่อพลเรือนชาวจีนและทหารที่ถูกปลดอาวุธ โดยมีการสังหารหมู่ การข่มขืน การปล้นสะดม และการทรมานอย่างกว้างขวาง รายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากระหว่าง 200,000 ถึง 300,000 คน และมีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อการข่มขืนตั้งแต่ 20,000 ถึง 80,000 คน เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่ประสบภัย แต่ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจและความทรงจำของชาวจีนในรุ่นถัดมา

การบันทึกเหตุการณ์จากพยานต่างชาติ เช่น จอห์น แรบ และมินนี่ วอตริน ได้ช่วยให้โลกได้รับรู้ถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้น พวกเขาได้พยายามสร้าง "เขตความปลอดภัย" เพื่อปกป้องพลเรือนจากความรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำอันโหดเหี้ยมได้ ในบันทึกของพวกเขา มีรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เราเข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของผู้คนในช่วงเวลานั้น

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หนานจิงยังคงเป็นเรื่องที่มีข้อถกเถียงในปัจจุบัน ในจีน เหตุการณ์นี้ถูกระลึกถึงว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ทรมานและความเข้มแข็งของชาติ ในทางกลับกัน ในญี่ปุ่น การพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้มักพบกับการปฏิเสธและการต่อต้านจากบางกลุ่ม ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

เนื้อหาโดย: มะม่วงแอปเปิ้ล
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: paktronghie, ลิลลี่ ไมโครนอส
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เมล็ดพันธุ์ที่ช่วยบำรุงสมองไม่แพ้อัลมอนด์! สารอาหารที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เศรษฐีใจดี! แจกทิปให้แก่พนักงานจุกๆเป็นของขวัญช่วงเทศกาลนักวิจัยพบว่ามดทำงานเป็นทีมได้ดีกว่าคนจีกามินส่งต่อความสุข บริจาคเงิน 4 มูลนิธิ รวม 4 แสนบาทชาวบ้านอึ้ง!! หลังพบคู่รักซั่มกันบนดาดฟ้า ท้าลมหนาวผิดเวลาไปหน่อย!! ป้าเข้าวัดสวดมนต์เสียงดั่งลั่นโบสถ์ พระทำวัตรเย็นก็ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจมาเชิญตัวออกไปเดนมาร์กจัดงบกลาโหมเพิ่มให้กรีนแลนด์จำนวนมาก หลังทรัมป์แสดงความสนใจจะซื้อกรีนแลนด์อีกครั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ ผู้ที่ชื่นชอบการเชียร์กีฬาอย่างสุดเหวี่ยง อาจทำให้เกิดริ้วรอยและหน้าแก่ก่อนวัยได้การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย: เริ่มต้นอย่างไรไม่ให้เครียด10 โรคที่เป็นแล้วไม่หายบุญแท้เด้งเอ้ย!! มหาเศรษฐีคริปโต มอบเงินสนับสนุนให้หมูเด้ง 10 ล้าน เอาไปสร้างบ้านใหม่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักวิจัยพบว่ามดทำงานเป็นทีมได้ดีกว่าคน10 โรคที่เป็นแล้วไม่หายเดนมาร์กจัดงบกลาโหมเพิ่มให้กรีนแลนด์จำนวนมาก หลังทรัมป์แสดงความสนใจจะซื้อกรีนแลนด์อีกครั้งผิดเวลาไปหน่อย!! ป้าเข้าวัดสวดมนต์เสียงดั่งลั่นโบสถ์ พระทำวัตรเย็นก็ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจมาเชิญตัวออกไปกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มอบของขวัญปีใหม่ ท่องเที่ยวอุ่นใจ ผ่านTHAILAND TOURIST POLICE (TPB App)
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
YouTubeหรือติ๊กต๊อกทำสายไหนมีโอกาสดัง10 โรคที่เป็นแล้วไม่หายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ ผู้ที่ชื่นชอบการเชียร์กีฬาอย่างสุดเหวี่ยง อาจทำให้เกิดริ้วรอยและหน้าแก่ก่อนวัยได้บุญแท้เด้งเอ้ย!! มหาเศรษฐีคริปโต มอบเงินสนับสนุนให้หมูเด้ง 10 ล้าน เอาไปสร้างบ้านใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่