ดัดลีย์ "เขาเห็นตัวเอง" เด็กที่ถูกตามใจจนเหลิงและชอบบูลลี่คนอื่น
“เขาเห็นตัวเองค่ะ ในแบบที่เป็นตัวเขาจริงๆ”
เจ.เค.โรว์ลิงตอบคำถามนี้ เมื่อแฟนคนหนึ่งถามว่า “ดัดลีย์เห็นอะไร ตอนที่ถูกผู้คุมวิญญาณโจมตี” ขยายความจากคำตอบในข้างต้น คือ ลึกๆ ดัดลีย์ก็รู้ตัวว่าเขาเป็นยังไงเมื่อตอนอายุ 15 ปี เขากลายเป็นเด็กเกเร หัวหน้ากลุ่มอันธพาล คอยระรานคนอื่นไปทั่วลิตเติ้ลวิงเจิ้ล แต่พ่อแม่ของเขาก็ยังหลงเชื่อว่า “ดัดเดอร์ส” ของพวกเขานั้นเป็นเด็กดี เรียบร้อย เป็นที่รักของคนรอบข้าง
ดัดลีย์เหมือนกับเดรโก พวกเขาคือเด็กที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูแบบตามใจ กลายเป็นคนพาล จอมบูลลี่ คอยดูถูก ถากถางและกลั่นแกล้งผู้อื่น เราอาจคิดว่าเด็กที่มีลักษณะดังกล่าวมักจะมาจากครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทาง หรือ ชอบใช้ความรุนแรงในบ้าน แต่ในบางครั้ง ครอบครัวที่สปอล์ยลูกจนเกินพอดี ก็สร้างผลลัพธ์หรือความเสียหายที่ยากจะแก้ไขหรือซ่อมแซมได้เช่นกัน
ดัดลีย์เป็นเด็กเอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ หลายครั้งเขาก็ทุบตีพ่อกับแม่เวลาไม่ได้ดั่งใจ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้มีน้ำหนักมากเกินเกณฑ์ (กระนั้นเพ็ตทูเนียก็เอาแต่พร่ำบอกว่า ดัดเดอร์สของเธอนั้นกำลังอยู่ในช่วงวัยกำลังโต แม้น้ำหนักของเขาจะพุ่งไปจนเกือบเท่าลูกวาฬเพชฌฆาตแล้วก็ตาม) เขาเข้าร่วมแก๊งอันธพาล คอยระรานเด็กและคนอื่นแถวละแวกบ้าน ทำลายข้าวของในสนามเด็กเล่น มั่วสุมสูบบุหรี่กันตามหัวมุมถนน
ผู้คุมวิญญาณที่ผ่านเข้ามา เปลี่ยนชีวิตของดัดลีย์ไปตลอดกาล – บางทีอาจต้องขอบคุณผู้คุมวิญญาณที่เข้าจู่โจมในวันนั้น ที่ทำให้ดัดลีย์ได้สติและเห็นสภาพที่แท้จริงของตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร – และมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ ญาติของเขาไม่ใช่พ่อมดกระจอกๆ ที่แกว่งไม้กายสิทธิ์คอยขู่ให้เขากลัวอย่างเดียว แต่แฮร์รี่นั้น เป็นพ่อมดที่เก่งกาจและทรงพลังคนหนึ่ง
นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ดัดลีย์พยายามทำตัว “น่ารัก” กับแฮร์รี่ ในปีสุดท้ายที่พวกเขาได้อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน และเขายังรวบรวมความกล้า เผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณแฮร์รี่ แถมยังอวยพรให้เขาโชคดีด้วย
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกอะไร ที่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แฮร์รี่จะพาครอบครัวของเขาไปเยี่ยมครอบครัวของดัดลีย์ในทุกๆ วันคริสมาตร์ แม้ลูกของเขาจะบอกว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่ “ไม่น่าจดจำ” สักเท่าไรก็ตาม
อ้างอิงจาก: พอตเตอร์ไดอารี่