วัณโรคปอดเกือบคร่าชีวิต
เมื่อปลายปี 2560 ฉันป่วยหนักมาก น้าของฉันพาไปโรงพยาบาล ผลตรวจออกมาว่าฉันเป็นวัณโรคปอด
ย้อนกลับไป 1-2 เดือนก่อนหน้า ฉันมีอาการไอ มีเสมหะ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว จนพี่ที่ทำงานบอกให้ฉันทานขนมหวาน ช็อคโกแลต เพื่อเพิ่มน้ำหนัก แต่ฉันเบื่อและทานอาหารไม่ค่อยได้รสชาติ มีคนเรียกแล้วเหม่อลอย และอาการที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจคือ ฉันหนาวมาก ทั้งที่คนอื่นๆในห้องทำงานบอกว่าเป็นอุณหภูมิปกติ 25-27°c ที่เปิดแอร์ในทุกๆวัน(นี่เป็นเหตุการณ์ และอาการคร่าวๆเท่าที่ฉันจำได้) รู้สึกตัวอีกที พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล แม่กับน้าเล่าว่า ฉันพูดจาไม่รู้เรื่อง เพ้อไปทั่ว พอได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว คุณหมอที่เข้ามาตรวจต้องถามว่าฉันชื่ออะไร ตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหน ฉันมีภาวะวัณโรคขึ้นเยื่อหุ้มสมองต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สวนปัสสาวะ ให้เลือดเนื่องจากภาวะโลหิตจางด้วย นอนอยู่โรงพยาบาลร่วม2สัปดาห์กว่าๆ จนขามีอาการเหน็บชา เดินเองไม่ได้ ต้องใช้อุปกรณ์พยุงเดิน ผลเอกซเรย์พบว่า ปอดข้างซ้ายของฉันหายไป เนื่องจากเสมหะลงไปในปอดเยอะจนเกิดเชื้อวัณโรค เป็นประสบการณ์ชีวิตในวัยเบญจเพส 25 ปี ของฉัน ณ ตอนนั้นที่โหดร้ายจริงๆ
นับว่าโชคดีมากที่ฉันได้ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตอีกครั้ง ฉันใช้รักษา กายบำบัด ฟื้นฟูสมอง นานร่วมๆ 3 ปี ผลข้างเคียงจากการทานยารักษาจนทุกวันนี้ก็คือ อาการปลายประสาทอักเสบ รู้สึกหยิบๆชาๆที่ปลายมือ เท้า และในหัว
วัณโรคปอด ภัยเงียบที่น่ากลัว