เรียนอยู่กับครูสอนว่ายน้ำแท้ๆแต่เกือบจมน้ำ..เพราะอะไรมาอ่านกัน
ย้อนไปเมื่อนานมาแล้วตอนที่ลูกยังเล็กอยู่ในวัยอนุบาล ลูกเป็นเด็กที่ชอบเล่นน้ำมากค่ะ ครอบครัวเราอยากให้ลูกว่ายน้ำเป็น เลยพยายามหาครูสอนว่ายน้ำที่คิดว่าดีและสะดวกในการเดินทาง ดูรวมๆจากรีวิวแล้วคิดว่าน่าจะดีและไม่มีปัญหาอะไร ค่าเรียนอยู่ในราคากลางๆ ที่รับได้ ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องว่ายเก่ง ขอแค่เค้าสนุก พอดำน้ำเป็น ว่ายลอยตัวได้บ้างและถือว่าเค้าได้ออกกำลังกาย เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับเด็กเล็กๆ ทุกครั้งที่ลูกไปเรียน เราสองคนพ่อแม่จะไปเฝ้าที่สระด้วยเสมอ ในขณะที่ผู้ปกครองบางท่านจะทิ้งลูกไว้กับครูที่สอน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ แค่อยากดูลูกเรียนว่าเค้าสนุกมั้ย แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นหลังจากเริ่มเรียนไปไม่กี่ครั้ง
วันนั้นครูบอกให้เด็กเล็กกลุ่มลูกเราไปลองว่ายจากขอบสระมาหาครู ซึ่งครูจะรออยู่ตรงกลางสระ และตรงนั้นคือโซนน้ำลึก เราก็เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้นว่าลูกจะทำได้มั้ยในขณะที่ลูกเรากำลังจ้วงแขนว่ายไปหาครูนั้น จู่ๆครูก็หันไปทางเด็กอีกกลุ่ม และสั่งอะไรบางอย่างโดยที่ตอนนั้นลูกเรากำลังหมดแรงว่ายไปไม่ถึงครูและกำลังจม!! เราตะโกนบอกครู! ซึ่งครูหันมายังงงๆอยู่ แต่พ่อของลูกเร็วกว่าค่ะ เค้าถอดรองเท้ากระโดดลงน้ำทั้งกางเกงยีนส์ คว้าลูกขึ้นจากน้ำ ตอนนั้นลูกมีอาการสำลักน้ำและผวานิดหน่อย ตัดภาพมาที่ครูนั้น กลับบอกว่า ไม่จมหรอก แล้วหัวเราะเจื่อนๆไป จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเราให้ลูกเรียนกับเค้าต่อจนจบคอร์สนะคะแต่ไม่ต่อคอร์สกับเค้าอีก และทุกครั้งที่ลูกเรียน เราสองคนจะเฝ้าลูกอยู่ที่สระด้วยทุกครั้ง ตอนที่ตัดสินใจเรียนกับครูคนนี้ เราคิดว่าเราประมาทไปหนึ่งเรื่องที่ไม่ได้คิดในเรื่องของอัตราส่วนของครูต่อเด็กในความรับผิดชอบ ซึ่งคลาสที่เรียนนั้นครู1คนกับเด็กสิบกว่าคน มันอาจทำให้ครูดูแลได้ไม่ทั่วถึงได้
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านว่าทุกครั้งลูกอยู่ที่สระว่ายน้ำ เราควรเฝ้าอยู่ด้วยทุกครั้ง เพราะเราไม่สามารถคาดหวังและฝากชีวิตน้อยๆของลูกเรากับใครได้ เคยได้ยินได้อ่านบ่อยครั้งเรื่องเด็กกับสระว่ายน้ำ คนเยอะแยะแต่ไหงไปจมอยู่ก้นสระไม่มีใครรู้ใครเห็นก็เคยมีมาแล้ว หวังว่าเรื่องราวจากประสบการณ์ส่วนตัวนี้จะช่วยเตือนใจและมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ