ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพที่ดี เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย
กรุ๊ปเลือดนี้เหมาะกับการออกกำลังกายแบบไหน
กรุ๊ปเลือดแต่ละประเภท จะมีความแตกต่างกันทางโครงสร้างบางประการ จึงทำปฏิกิริยากับร่างกายที่แตกต่างกันออกไป การออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน หากเลือกให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัดและเจ้าของผลงานเขียนเรื่อง “Eat Right for Your Type” อย่างด็อกเตอร์เจมส์ ดี อะดาโม (Dr. James D’Adamo) มีคำแนะนำที่น่าสนใจ ดังนี้
กรุ๊ปเลือดเอ (A)
หากมีการใช้แรง หรือต้องออกแรงครั้งละมาก ๆ ร่างกายจะผลิตกรดแลคติก (Lactic acid) และเพิ่มความกระชับให้กับกล้ามเนื้อมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันถ้าต้องใช้แรงมากเพื่อ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมใดก็ตาม ก็จะเป็นการเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอล (Hormone Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดด้วย ดังนั้น การออกกำลังกายที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปเอ จึงควรเป็นกีฬาที่ไม่ต้องออกแรงมาก ได้แก่
- การออกกำลังกายแบบพิลาทิส (Pilates)
- โยคะ
- รำไทเก๊ก
- การเดิน
- การออกกำลังกายที่ไม่เน้นการเคลื่อนไหวมาก แต่เน้นการเกร็งกล้ามเนื้อ
กรุ๊ปเลือดบี (B)
ออกกำลังกาย ที่เน้นการสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ การออกกำลังกายสำหรับคนกรุ๊ปบี สามารถที่จะเลือกออกกำลังกายได้ทั้งการออกกำลังกายแบบเบา ๆ อย่างเช่น
- โยคะ
- รำไทเก๊ก
หรือ การออกกำลังกาย ที่ต้องใช้แรงมาก ๆ อย่างเช่น
- การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
- การยกเวต
- การปั่นจักรยาน
- การตีเทนนิส
- การว่ายน้ำ
กรุ๊ปเลือดเอบี (AB)
มีองค์ประกอบทั้งกรุ๊ปเลือดเอ และกรุ๊ปเลือดบี จึงสามารถที่จะเลือก ออกกำลังกาย ตามแบบคนกรุ๊ปเลือดเอ หรือจะออกกำลังกายตามอย่างคนกรุ๊ปเลือดบีก็ได้เช่นกัน
กรุ๊ปเลือดโอ (O)
ควรเน้นออกกำลังกาย สำหรับการสร้างกล้ามเนื้อ จึงเหมาะกับการออกกำลังกายที่มีรูปแบบการออกกำลังกายที่ค่อนข้างเข้มข้น หรือมีการใช้แรงมาก อย่างเช่น
- แอโรบิค
- การยกเวต
- การชกมวย
- ปั่นจักรยาน
ข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด
แม้กรุ๊ปเลือดที่ต่างกัน อาจจะให้ผลลัพธ์ต่อการออกกำลังกายแตกต่างกัน แต่ทุกผลลัพธ์หลังการออกกำลังกาย คือ การมีสุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ
คนบางกรุ๊ปเลือดอาจมีข้อจำกัดทางสุขภาพที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่น คนกรุ๊ปโอที่ควรจะเน้น ออกกำลังกาย ชนิดที่ต้องออกแรงมาก ๆ หากมีปัญหาสุขภาพ อย่างเช่น โรคหอบหืด หรือมีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายก็ควรจะเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบที่เบาลง อย่างเช่น โยคะ การวิ่งเหยาะ ๆ หรือการเดิน
ควรเลือกออกกำลังกายตามความเหมาะสมของอาการทางสุขภาพที่เป็นอยู่ และถ้าหากเป็นไปได้ ควรที่จะต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ