ประโยชน์ของการมีเซ็กส์ เพศสัมพันธ์ ดีต่อร่างกายอย่างไร ?
บำรุงสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
จากการวิจัย พบว่า ชายที่มีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยลง อย่างเช่น โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจขาดเลือด น้อยกว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์เพียงเดือนละ 1 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้น มีการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์อาจถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาประมาณ 25 นาทีนั้น ผู้ชายสามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 4 แคลอรี่/นาที ส่วนผู้หญิงก็เผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 3 แคลอรี่/นาที นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และรักษาสมดุลฮอร์โมนเพศชายให้สมดุล
บรรเทาความเครียด ลดความดันโลหิต
ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) และฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้รู้สึกดีในขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่วยบรรเทาความวิตกกังวล ความเครียด จะทำให้จิตใจสงบ มีความสุขมากขึ้น
งานวิจัยหนึ่ง พบว่า กิจกรรมทางเพศช่วยป้องกันภาวะความดันโลหิตสูงขณะเกิดภาวะเครียด และผลการวิจัยส่วนใหญ่ที่ศึกษาในด้านนี้ก็ชี้ว่า การร่วมเพศจะช่วยลดระดับความเครียดได้ดี โดยเฉพาะเมื่อมีการสอดใส่ อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่ และการช่วยตัวเองก็อาจส่งผลดีได้เช่นเดียวกัน
ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง พบว่า คู่รักที่มีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ดูอ่อนกว่าวัยถึง 10 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยนัก อาจเพราะกิจกรรมนี้ ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด และช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งกระจ่างใส การมีเพศสัมพันธ์ยังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตออกมา ซึ่งช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น และป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย
นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินและสารออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือฮอร์โมนแห่งความรักและความผูกพันออกมา ฮอร์โมนดังกล่าว ช่วยทำให้จิตใจสงบ และนอนหลับได้ดีขึ้น ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น และมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างวัน
บรรเทาอาการปวดศีรษะ
ผลการวิจัยชิ้นหนึ่ง พบว่า การมีเพศสัมพันธ์อาจช่วยลดอาการปวดศีรษะบางชนิดได้ดีกว่าการใช้ยาแก้ปวด เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา ซึ่งเป็นสารระงับความเจ็บปวดที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ โดยสอดคล้องกับการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งที่ พบว่า จำนวนผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ขณะปวดศีรษะแล้วมีอาการทุเลาลงมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
คลายอาการปวดประจำเดือน
เมื่อผู้หญิงถึงจุดสุดยอด กล้ามเนื้อมดลูกจะหดตัวและร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินไปยังสมอง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดและช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย โดยจะส่งผลให้อาการปวดประจำเดือนบรรเทาลง ช่วยลดอารมณ์แปรปรวนที่เกิดขึ้นในช่วงมีรอบเดือนได้ด้วย นอกจากนี้ กล้ามเนื้อที่หดเกร็งขณะถึงจุดสุดยอดอาจช่วยคลายกล้ามเนื้อมดลูกที่ตึงอยู่ ซึ่งช่วยลดอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนได้เช่นกัน
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
วารสารสมาคมการแพทย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ชายที่ถึงจุดสุดยอดมากกว่า 21 ครั้ง/เดือน มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก น้อยกว่า ชายที่ถึงจุดสุดยอดเพียง 4-7 ครั้ง/เดือน ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง การมีเพศสัมพันธ์อาจไม่ใช่วิธีเดียวในการช่วยลดความเสี่ยง ควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
เสริมสร้าง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิลก์ส ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง มากกว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์น้อยกว่า 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
นอกจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงด้วยวิธีอื่นด้วย อย่างเช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามระยะเวลาที่กำหนด และใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงทุกครั้ง เป็นต้น