ป่าช้ากระดูกวาฬ สุสานของวาฬที่มีอายุนับพันปี ภายใต้แผ่นน้ำแข็งหนาเกือบ 1 เมตรของเกาะกรีนแลนด์
ลึกลงไปใต้แผ่นน้ำแข็งหนากว่า 3 ฟุตในอ่าว Tasiilaq ของกรีนแลนด์ มีการค้นพบซากวาฬจำนวน 20 ตัว ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้ความหนาวเย็นและเงียบสงบของท้องทะเล สถานที่นี้รู้จักกันในท้องถิ่นว่า flenseplassen หรือ "พื้นที่ถลกหนัง" ที่ชาวเอสกิโมในท้องถิ่นเคยใช้เป็นที่รวบรวมและแล่ซากวาฬมานานหลายศตวรรษ
ที่นี่ ชาวเอสกิโมได้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการล่าวาฬ เพื่อนำเนื้อ ไขมัน และอวัยวะต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ ทั้งในการดำรงชีวิตและเป็นเสบียงอาหารสำหรับการเผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บของกรีนแลนด์ หลังจากการแล่เนื้อเสร็จสิ้น เหลือเพียงกระดูกเปลือยเปล่า กระแสน้ำทะเลที่ขึ้นลงจะค่อยๆ ดึงซากเหล่านั้นลงสู่ก้นทะเล ทำให้กระดูกของวาฬเหล่านี้นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ท้องน้ำ
การค้นพบซากวาฬในพื้นที่นี้เป็นสิ่งที่พบได้ยาก และมักจะต้องพึ่งพาอุปกรณ์พิเศษเช่นเรือดำน้ำในการสำรวจ แต่สำหรับในกรีนแลนด์ กระดูกวาฬกลับอยู่ลึกลงไปจากผิวน้ำเพียง 15 ถึง 20 ฟุตเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับความลึกที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นๆ ในโลก ความลึกที่ตื้นเช่นนี้ทำให้ซากวาฬยังคงสภาพอย่างสมบูรณ์ แทบไม่ถูกแตะต้องจากมนุษย์หรือธรรมชาติ
ซากวาฬที่นอนนิ่งใต้แผ่นน้ำแข็งเหล่านี้เปรียบเสมือนภาพบันทึกเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวเอสกิโมในอดีต การล่าวาฬที่เคยเป็นกิจกรรมสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่เพียงแค่เป็นการหาอาหาร แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างมนุษย์กับทะเล หลายชั่วอายุคนที่สืบทอดความรู้และวิธีการล่าวาฬ การใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ทะเลมอบให้อย่างรู้คุณค่า
ซากเหล่านี้ยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยและนักโบราณคดีได้สำรวจและศึกษาร่องรอยของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนชาวเอสกิโมในอดีต ทั้งในแง่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการอยู่ร่วมกับสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย การค้นพบใน flenseplassen ที่กรีนแลนด์จึงเป็นหน้าต่างสู่อดีต ที่ทำให้เราได้มองเห็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่
ภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลโดย Alex Dawson