การตกน้ำมันของเสาไม้ : ธรรมชาติและความเชื่อของไม้ที่ร่ำลือกันมาตั้งแต่โบราณ
การตกน้ำมันของเสาไม้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้กับไม้ในวงศ์ไม้ยาง เช่น ไม้ตะเคียน ไม้ยาง และไม้อื่น ๆ ที่มีท่อน้ำยางอยู่ภายในเนื้อไม้ โดยทั่วไปแล้ว ไม้ในวงศ์นี้มีลักษณะพิเศษที่ทำให้สามารถกักเก็บน้ำยางไว้ได้ในปริมาณมาก แต่เมื่อตัวไม้ได้รับความร้อนหรือถูกตัดโค่น น้ำยางเหล่านี้ก็จะเริ่มไหลออกมาจากเนื้อไม้ ซึ่งในทางภาษาไทยเรียกว่า "การตกน้ำมัน" นั่นเอง
ลักษณะตามธรรมชาติของการตกน้ำมัน
การตกน้ำมันเป็นกระบวนการธรรมชาติของไม้ที่มีท่อน้ำยาง เช่น เมื่อเสาไม้ตะเคียนถูกตัดหรือเลื่อยเป็นท่อนแล้วตั้งไว้ในที่ที่อุณหภูมิสูง เช่น กลางแดด น้ำยางที่สะสมอยู่ในเนื้อไม้จะถูกขับออกมาเป็นหยดน้ำมันจากเนื้อไม้ ทำให้พื้นผิวของเสามีลักษณะมันเงา การตกน้ำมันนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เสามีสีเข้มและมันเงาขึ้น แต่ยังเป็นการบ่งบอกถึงการคงสภาพของไม้ที่ดี เพราะการมีน้ำยางนั้นช่วยลดโอกาสของการแตกร้าวของไม้ด้วย
ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับเสาตกน้ำมัน
แม้ว่าการตกน้ำมันจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ในความเชื่อของคนไทยในอดีต เสาที่ตกน้ำมันมักถูกมองว่าเป็นเสาที่มีพลังงานพิเศษและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตอยู่ ตามคติความเชื่อโบราณ เชื่อกันว่าการนำเสาที่ตกน้ำมันมาใช้ปลูกบ้านอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เพราะเสานี้เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของนางไม้ ภูต หรือวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในเนื้อไม้ การนำเสาเหล่านี้มาสร้างบ้านอาจทำให้เจ้าของบ้านและครอบครัวประสบกับความโชคร้าย จึงมักมีคำแนะนำให้นำเสาที่ไม่มีการตกน้ำมันมาใช้สร้างบ้านแทน
อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่อาจมีการจัดพิธีบวงสรวงหรือเซ่นไหว้ก่อนการนำไม้เหล่านี้มาสร้างบ้าน เพื่อให้ความเคารพต่อวิญญาณที่อาจสิงสถิตอยู่ในเนื้อไม้ เชื่อว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยให้วิญญาณยอมรับและปกป้องคนในบ้านแทนที่จะนำมาซึ่งอุปสรรคหรือความไม่เป็นมงคล
สรุป
การตกน้ำมันของเสาไม้เป็นลักษณะตามธรรมชาติของไม้ในวงศ์ไม้ยางที่เกี่ยวข้องกับการขับน้ำยางออกมาเมื่อสัมผัสกับความร้อน แม้จะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ก็เป็นสัญญาณของคุณภาพและความคงทนของไม้ ทว่าความเชื่อในวัฒนธรรมไทยนั้นได้เพิ่มมิติทางจิตวิญญาณให้กับเสาตกน้ำมัน ทำให้เป็นสิ่งที่น่าสนใจและควรระมัดระวังในการเลือกใช้งานเสาไม้ในงานก่อสร้างบ้าน