แอปไหนในมือถือใช้เน็ตเยอะที่สุด? - 8 Application ยอดฮิตสำหรับคนไทย
ทุกวันนี้ คงต้องยอมรับกันว่า เราใช้สมาร์ทโฟนในการทำเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชียล เล่นเกม ดูคลิป หรือแต่เคยสงสัยไหมว่าแอปไหนในมือถือของเราที่ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตมากที่สุด? วันนี้เราจะมาเปิดข้อมูลและวิเคราะห์แอปยอดนิยมอย่าง LINE, Facebook, Twitter, TikTok, YouTube, Instagram และเกมอย่าง Free Fire และ PUBG กันว่าแอปเหล่านี้กินเน็ตมากน้อยแค่ไหน และทำยังไงให้ประหยัดเน็ตมากขึ้น?
1. YouTube
YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าการดูวิดีโอจะใช้ข้อมูลมาก โดยเฉพาะวิดีโอความละเอียดสูง และข้อมูลจาก Sproutsocial.com ผู้คนใช้เวลาเฉลี่ย 48.7 นาทีต่อวันบน Youtube ซึ่งปริมาณเน็ตที่ใช้จะแตกต่างกันตามความละเอียดวีดีโอ
- ปริมาณเน็ตที่ใช้:
- 480p: ประมาณ 250MB ต่อชั่วโมง
- 720p: ประมาณ 500MB ต่อชั่วโมง
- 1080p: ประมาณ 1.5GB ต่อชั่วโมง
- จะประหยัดเน็ตยังไง?:
- ลดความละเอียดของวิดีโอเมื่อไม่จำเป็น
- ดาวน์โหลดวิดีโอล่วงหน้าเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi
2. TikTok
TikTok แอปวิดีโอสั้นที่มีผู้คนไทยมีบัญชีมากกว่า 39.5 ล้านคน การเลื่อนฟีดเพื่อดูวิดีโอมากมายทำให้ใช้ข้อมูลเยอะมากกว่า Youtube ซะอีก
- ปริมาณเน็ตที่ใช้: ประมาณ 70MB ต่อ 5 นาที
- เคล็ดลับการประหยัดเน็ต:
- เปิดโหมด "Data Saver" ในการตั้งค่าแอป
3. Instagram
Instagram เป็นแอปที่เน้นการแชร์รูปภาพและวิดีโอ ซึ่งสามารถใช้เน็ตได้มาก แต่การดูภาพอย่างเดียวมักจะไม่ใช้เน็ตเยอะ แต่จะใช้เยอะมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อดู Stories และ Reels ที่เป็นคลิปวีดีโอสั้นๆ
- ปริมาณเน็ตที่ใช้:
- เลื่อนฟีด: ประมาณ 100MB ต่อ 10 นาที
- ดู Stories: ประมาณ 8MB ต่อ Story
- เคล็ดลับการประหยัดเน็ต:
- เปิด "Use Less Data" ในการตั้งค่า
4. Facebook
Facebook โซเชียลมีเดียนี้ ทั้งข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ การเล่นวิดีโออัตโนมัติเป็นสาเหตุหลักที่ใช้เน็ตเยอะ โดยเฟสบุ๊คมีคนใช้งานต่อวันมากที่สุดในโลก ซึ่งทำให้มีการใช้ Data อย่างมหาศาล
- ปริมาณเน็ตที่ใช้:
- เลื่อนฟีด: ประมาณ 80MB ต่อ 10 นาที
- ดูวิดีโอ: ประมาณ 4MB ต่อวิดีโอ
- เคล็ดลับการประหยัดเน็ต:
- ปิดการเล่นวิดีโออัตโนมัติ และปิดเสียง
- อาจดาวน์โหลด Facebook Lite ที่ใช้เน็ตน้อยกว่ามาใช้งานแทนแอปเดิม
5. Twitter (X.com)
ส่วนใหญ่คนไถ Twitter จะเน้นข้ออ่านข้อความ แต่หลังจากที่ทาง Elon Musk มีการเข้าซื้อและเปลี่ยนชื่อเป็น x.com และมีการปรับปรุงแอปโดยเปิดให้มีอิสระในการโพสต์ข้อมูลมากขึ้น และมีการเก็บค่าสมาชิกรายเดือน ปัจจุบันมีการแชร์รูปภาพและวิดีโอมากขึ้น ซึ่งทำให้ใช้ข้อมูลมากขึ้นด้วย
- ปริมาณเน็ตที่ใช้: ประมาณ 50MB ต่อ 10 นาที
- เคล็ดลับการประหยัดเน็ต:
- เปิด "Data Saver" ในการตั้งค่า
- ปิดการโหลดรูปภาพและวิดีโออัตโนมัติ
6. LINE
LINE เป็นแอปแชทยอดนิยมที่มีการใช้มากที่สุดในไทย ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การส่งภาพ วีดีโอ การใช้ Video Call การส่งข้อความใช้เน็ตน้อย แต่การส่งรูปภาพ วิดีโอ หรือวิดีโอคอลจะใช้เน็ตมากขึ้น
- ปริมาณเน็ตที่ใช้:
- ข้อความ: น้อยกว่า 1MB ต่อการสนทนา
- การโทรเสียง: ประมาณ 1MB ต่อ 1 นาที
- วิดีโอคอล: ประมาณ 5MB ต่อ 1 นาที
- ลดการใช้เน็ตมือถือได้ยังไง?:
- ลดการส่งไฟล์ขนาดใหญ่เมื่อใช้ข้อมูลมือถือ
- ใช้ Wi-Fi เมื่อทำการวิดีโอคอล
7. Free Fire
Free Fire เป็นเกมแบทเทิลรอยัลที่จริงๆแล้วไม่ได้มีการใช้งานเท่า Social Media อื่นๆ เพราะไม่ได้เล่นตลอดเวลา ซึ่งเมื่อเช็คเสียงจาก Quora แล้ว ส่วนใหญ่จะใช้เล่น 2-3 ชั่วโมงต่อวัน (แต่ก็มีบางคนเล่น 10 ชั่วโมงต่อวัน) แม้จะไม่ได้ใช้ข้อมูลมาก แต่เมื่อเล่นนานๆ ก็ทำให้เยอะได้เช่นกัน
- ปริมาณเน็ตที่ใช้: ประมาณ 15-20MB ต่อชั่วโมง
- เคล็ดลับการประหยัดเน็ต:
- อัปเดตเกมผ่าน Wi-Fi เท่านั้น
- ปิดการดาวน์โหลด Patch ในเกมเมื่อใช้ข้อมูลมือถือ ให้ใช้ wi-fi แทน
8. PUBG Mobile
PUBG Mobile เป็นเกมที่มีกราฟิกสูงกว่า ฟีฟาย และต้องการการเชื่อมต่อที่เสถียรกว่ามาก ซึ่งใช้ข้อมูลมากกว่าเกมทั่วไป
- ปริมาณเน็ตที่ใช้: ประมาณ 30-50MB ต่อชั่วโมง
- เคล็ดลับการประหยัดเน็ต:
- ตั้งค่ากราฟิกของเกมให้อยู่ในระดับต่ำ
- ปิดการแชทเสียงเมื่อไม่จำเป็น
จากข้อมูลด้านบนนี้ แอปที่ใช้เน็ตเยอะที่สุดมักจะเป็นแอปที่มีการสตรีมวิดีโอหรือกราฟิกสูง เช่น YouTube, TikTok, Instagram และเกมอย่าง PUBG Mobile การรู้ว่าแอปไหนใช้ข้อมูลมือถือมากจะช่วยให้เราสามารถประหยัดการใช้งานเน็ตได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ใช้เบอร์เติมเงินที่ต้องเติมเน็ตอยู่บ่อยๆ หรือคนที่สมัครแพ็คเกจรายเดือน ที่อาจมีการโดนลดความเร็วเมื่อใช้เน็ตมากเกิน package และการที่เรารู้แบบนี้แล้ว อาจสามารถเลี่ยงค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเดิมในแต่ละเดือน ในยุคฝืดเคืองแบบนี้ได้ ไม่มากก็น้อย
อ้างอิงจาก: https://sproutsocial.com, https://oosga.com, https://adamconnell.me, https://www.quora.com, https://rechargeland.com