คุณรู้หรือไม่ น้ำมันหอมระเหยที่ทำให้ความจำดีขึ้น แนะนำมี 4 กลิ่นลดตึงเครียด-นอนไม่หลับ
เราจะมานำเสนอน้ำหอมนะครับน้ำมันหอมระเหยหรือน้ำหอมก็มีงานวิจัยชี้ น้ำมันหอมระเหยทำให้ความจำดีขึ้น แนะ 4 กลิ่นลดตึงเครียด-นอนไม่หลับ ลดความฟุ้งซ่านทำให้มีความรู้สึกสดชื่นดีๆน้ำหอมน้ำมันหอมชนิดนี้มีอะไรบ้างเรามีคำตอบที่จะมานำเสนอคุณแล้วครับ
วิจัยชี้ น้ำมันหอมระเหยทำให้ความจำดีขึ้น แนะ 4 กลิ่นลดตึงเครียด-นอนไม่หลับ
กลิ่นน้ำมันหอมระเหยทำให้สมองและความจำดีขึ้น วิจัยชี้ เพิ่มการรับรู้ได้ถึง 226% ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแนะ 4 กลิ่นช่วย “วัยทำงาน” ลดอาการตึงเครียด-นอนไม่หลับ
หลายคนคงรู้จัก Aromatherapy หรือ ศาสตร์ในการใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจ กันมาบ้าง โดยส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับการใช้น้ำมันหอมระเหยในการนวดผ่อนคลาย หรือใช้กลิ่นช่วยบำบัดจิตใจ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผลวิจัยชี้ว่า น้ำมันหอมระเหยบางชนิดสามารถส่งเสริมการทำงานของสมอง ทำให้ความทรงจำที่ดีขึ้นระหว่างการนอนหลับได้
Psychologytoday รายงานถึงงานวิจัยดังกล่าวที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Neuroscience ฉบับเดือนกรกฎาคม 2023 ไว้ว่า การสูดดมกลิ่นน้ำมันหอมระเหยระหว่างการนอนหลับ ส่งผลต่อการทำงานของสมองในลักษณะที่ช่วยปรับปรุงการรับรู้และเพิ่มความจำได้อย่างมาก
นักวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับการบำบัดด้วยอโรมาเธอราพี มีความสามารถในการรับรู้เพิ่มขึ้นถึง 226%
โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างสูงอายุจำนวน 43 คน ซึ่งมีทั้งเพศชายและหญิงที่มีสุขภาพดี ไม่มีปัญหาหรือป่วยด้วยโรคทางสมองใดๆ ทุกคนมีอายุระหว่าง 60-85 ปี จากนั้นแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม แล้วให้กลุ่มแรกเข้ารับการบำบัดด้วยอโรมาเธอราพี เป็นเวลา 2 ชั่วโมงทุกคืนก่อนนอน โดยปล่อยกลิ่นผ่านเครื่องกระจายกลิ่นหอม ส่วนกลุ่มที่สองไม่ได้รับการบำบัดด้วยอโรมาเธอราพี
วิจัยชี้ น้ำมันหอมระเหยทำให้ความจำดีขึ้น แนะ 4 กลิ่นลดตึงเครียด-นอนไม่หลับ
สำหรับอโรมาเธอราพีที่ใช้ในการทดลอง มาจากน้ำมันหอมระเหยจากพืชธรรมชาติแตกต่างกัน 7 ชนิด ได้แก่ กุหลาบ, ส้ม, ยูคาลิปตัส, มะนาว, เปปเปอร์มินต์, โรสแมรี่, ลาเวนเดอร์ ซึ่งแต่ละคืนก็จะใช้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันสลับหมุนเวียนกันไป ทั้งนี้ นักวิจัยได้ทำการทดลองรวมระยะเวลา 6 เดือน
ผลการทดลองพบว่า กลุ่มที่ได้รับการบำบัดด้วยอโรมาเธอราพี (เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้บำบัด) มีความสามารถในการรับรู้เพิ่มขึ้นถึง 226%
โดยวัดผลจากการทดสอบรายการคำศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปในการประเมินด้านความจำ แม้ว่าการศึกษานี้ดำเนินการกับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60-85 ปี โดยไม่มีปัญหาด้านการรับรู้เลย แต่ก็มีโอกาสที่ผลการวิจัยนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่มีอายุน้อยกว่าได้เช่นกัน
สรุปแล้วคุณอยากจะดมอะไรหอมๆดมแล้วสบายใจชื่นใจคุณก็ดมไป
น้ำมันหอมหาดมกันไม่จำเป็นจะต้องไปจำกัดไม่ต้องเป็นกลิ่นไหนกลิ่นไหนอยากทำอะไรก็ทำไปตามความพอใจสบายใจของคุณถ้าดมแล้วกลิ่นหอมไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ดมไป
หรือบางคนมีรสนิยมดมกลิ่นเหม็นก็ดมไปมันเป็นความพอใจของคุณไม่มีใครห้ามได้อย่าทำอะไรก็ทำไปจบ..จะได้ไม่เครียดไม่ประสาทแต่อย่าไปทำให้คนข้างเคียงก็เดือดร้อนก็แล้วกันจบ
google search