เวนิส: สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม เมืองใหญ่โตมโหฬารที่ลอยอยู่บนน้ำ
เวนิส เมืองที่รู้จักกันในชื่อ “เมืองลอยน้ำ” เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่สร้างขึ้นกลางทะเลสาบ โดยมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเทคนิคการก่อสร้างที่ไม่เหมือนใคร อาคารในเวนิสไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นดินทั่วไป แต่กลับตั้งตระหง่านบนน้ำได้อย่างมั่นคง ซึ่งเป็นผลจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการก่อสร้างและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอย่างลงตัว
รากฐานของอาคารเหล่านี้ถูกสร้างด้วยการตอกเสาเข็มไม้นับล้านต้นลงไปในพื้นดิน เสาเข็มที่ใช้มักทำจากไม้ทนน้ำ เช่น ไม้ออลเดอร์ ไม้โอ๊ค และไม้สน เสาเข็มเหล่านี้ถูกตอกลงไปจนถึงชั้นดินเหนียวที่แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของอาคารได้ ความน่าทึ่งของวิธีนี้คือ เสาเข็มไม้จะไม่เน่าเปื่อย เนื่องจากจมอยู่ในน้ำที่ปราศจากออกซิเจน การขาดออกซิเจนนี้ทำให้กระบวนการผุพังของไม้หยุดชะงัก ส่งผลให้ไม้สามารถคงทนอยู่นานนับศตวรรษ และผ่านกระบวนการทำให้เป็นแร่ กลายเป็นสสารที่มีความคล้ายคลึงกับหิน
เหนือเสาเข็มไม้ มีการวางแท่นไม้เพื่อเป็นฐานราก จากนั้นถูกปกคลุมด้วยหินหลากชั้น โดยหินที่ใช้ส่วนใหญ่คือหินปูนอิสเตรียน (Istrian limestone) ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดเซาะเป็นอย่างดี อาคารทั้งหมดสร้างด้วยอิฐและหิน โดยส่วนล่างของอาคารมักถูกปูด้วยหินอิสเตรียนเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำเค็มในทะเลสาบ
วิศวกรรมการก่อสร้างนี้แสดงถึงความเชี่ยวชาญและความรู้ในการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมของผู้คนในยุคโบราณ การสร้างเมืองลอยน้ำที่มั่นคงนี้เป็นการพิสูจน์ถึงความสามารถของมนุษย์ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างชาญฉลาด และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สิ่งที่ท้าทายกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ เวนิสจึงไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถทางวิศวกรรมที่ก้าวล้ำในยุคสมัยก่อน
ตัวอย่างการสร้างอาคารจ้า