ย้อนร้อยเหตุการณ์ปอมเปอี(pompeii)
เรื่องราวของปอมเปอี (Pompeii)
เป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่น่าสลดในประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน ภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount Vesuvius) ปะทุในปี ค.ศ. 79 และฝังเมืองปอมเปอีใต้เถ้าถ่านและลาวาอย่างสมบูรณ์ การระเบิดครั้งนั้นทำให้ผู้คนและอาคารถูกฝังทันที และเมืองนี้หายไปเป็นเวลาหลายศตวรรษ
สิ่งที่น่าสนใจคือการค้นพบร่องรอยของผู้คนที่อาศัยอยู่ในปอมเปอี ผ่านเทคนิคที่เรียกว่า **การทำหุ่นปูนปลาสเตอร์ (Plaster Casts)** นักโบราณคดีค้นพบว่าภายใต้เถ้าถ่านที่แข็งตัว มีช่องว่างที่เกิดจากร่างกายของผู้คนที่เน่าเปื่อยไปตามเวลา พวกเขาจึงเทปูนปลาสเตอร์เหลวลงไปในช่องว่างเหล่านั้น ทำให้เกิดรูปปั้นที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ในท่าทางสุดท้ายของชีวิต
หุ่นปูนปลาสเตอร์เหล่านี้แสดงให้เห็นภาพของผู้คนในปอมเปอีช่วงสุดท้ายของชีวิต พวกเขาถูกแช่แข็งในเวลาไม่กี่วินาที บางคนแสดงอาการตกใจ บางคนพยายามหนี และบางคนปกป้องคนที่พวกเขารัก การค้นพบนี้ทำให้นักประวัติศาสตร์สามารถศึกษาและเข้าใจถึงความสลดและความเป็นไปของผู้คนในเมืองปอมเปอีได้อย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน หุ่นปูนปลาสเตอร์ของผู้คนจากปอมเปอีจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติเนเปิลส์ (National Archaeological Museum of Naples) ในประเทศอิตาลี และยังมีบางส่วนจัดแสดงที่ โบราณสถานปอมเปอี (Pompeii Archaeological Park) ซึ่งเป็นสถานที่จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ทั้งสองแห่งเพื่อชมร่องรอยความเป็นมาของปอมเปอีและความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ประวัติและการก่อตั้งเมือง
ปอมเปอีถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล โดยชนเผ่า Oscan ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งของอิตาลีโบราณ หลังจากนั้น เมืองได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเมืองที่มีความสำคัญภายใต้การปกครองของโรมัน เมืองนี้เป็นจุดศูนย์กลางทางการค้า การเกษตร และการผลิต โดยเฉพาะการผลิตไวน์และน้ำมันมะกอก รวมถึงการคมนาคมทางเรือ ซึ่งมีท่าเรือที่เชื่อมต่อกับภูมิภาคอื่น ๆ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
การปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียส
ภูเขาไฟวิสุเวียสตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองปอมเปอี ในปี ค.ศ. 79 ภูเขาไฟนี้ได้เกิดการปะทุอย่างรุนแรง โดยการปะทุเกิดขึ้นแบบฉับพลันและปล่อยเถ้าถ่าน ก๊าซพิษ และหินภูเขาไฟออกมามหาศาล สารที่ถูกปล่อยออกมานี้กระจายตัวด้วยความเร็วสูงและครอบคลุมเมืองปอมเปอีอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประชากรหลายพันคนเสียชีวิตทันที
การปะทุครั้งนี้กินเวลาต่อเนื่องหลายวัน เถ้าถ่านและหินปูนได้ฝังเมืองไว้ลึกถึง 6 เมตร นอกจากเมืองปอมเปอีแล้ว เมืองเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) และเมืองอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงก็ถูกทำลายเช่นกัน
วิถีชีวิตของชาวปอมเปอี
เมืองปอมเปอีเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบในการเข้าใจชีวิตประจำวันของชาวโรมันในยุคโบราณ ชาวเมืองส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางและทำธุรกิจค้าขายและเกษตรกรรม
สิ่งก่อสร้างที่ถูกค้นพบประกอบไปด้วยบ้านเรือน โรงอาบน้ำ โรงละคร สนามกีฬา วัด และจัตุรัสสาธารณะ ที่เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและสังคม
สิ่งที่น่าสนใจคือภาพวาดฝาผนังและโมเสกที่ประดับอยู่ในอาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะบ้านของชนชั้นสูง
ภาพเหล่านี้แสดงถึงชีวิตประจำวัน การเฉลิมฉลอง การบูชาเทพเจ้า และฉากธรรมชาติ นักโบราณคดีได้ค้นพบการใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ทันสมัยในยุคนั้น เช่น ระบบน้ำประปาและท่อระบายน้ำที่มีความซับซ้อน
สถานที่สำคัญในปอมเปอี
•วิลล่าแห่งความลึกลับ (Villa of the Mysteries) – บ้านหรูหราที่มีภาพวาดฝาผนังขนาดใหญ่ แสดงถึงพิธีกรรมลึกลับที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า Dionysus
•ฟอรัม (Forum) – จัตุรัสสาธารณะใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญทางการปกครองและศาสนา
•แอมฟิเธียเตอร์ของปอมเปอี – สนามกีฬาสำหรับการแสดงและการแข่งขัน โดยเฉพาะการต่อสู้ของนักสู้กลาดิเอเตอร์
•โรงอาบน้ำ (Thermae) – สิ่งก่อสร้างสำหรับอาบน้ำและทำกิจกรรมสังคมของชาวโรมัน
•บ้านแห่งฟอนทานาเล (House of the Faun) – หนึ่งในบ้านเรือนที่ใหญ่ที่สุดในปอมเปอี มีการค้นพบรูปปั้นบรอนซ์และงานโมเสกที่โด่งดัง
ความสำคัญในปัจจุบัน
ปอมเปอีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1997 และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมซากเมืองที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวโรมันโบราณในยุคก่อนที่จะถูกทำลาย
การค้นพบทางโบราณคดีที่เมืองปอมเปอียังคงดำเนินต่อไป และยังมีหลายพื้นที่ของเมืองที่ยังไม่ได้ขุดค้นอย่างสมบูรณ์ นักโบราณคดีและนักวิชาการยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อศึกษาและอนุรักษ์เมืองแห่งนี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจประวัติศาสตร์อันยาวนานของอารยธรรมโรมัน