ทองคำแท้ กับ ทองคำปลอมนั้น ต่างกันอย่างไร...แล้วทองคำปลอมขายได้ไหม มาดูกันเลยจ้า
ทองปลอมไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ทองที่ไม่ได้ทำจากทองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทองที่มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์น้อยกว่า 96.5% หรือมีโลหะอื่นเจือปนเกินกว่า 3.5% ขึ้นไป ทองปลอมเหล่านี้มักถูกมิจฉาชีพใช้เคลือบสีให้ดูคล้ายกับทองชมพูหรือทองขาว หรือบางครั้งอาจทำจากทองเหลืองหรืออะลูมิเนียมแล้วเคลือบสีทองไว้ภายนอก
ทองปลอมดูอย่างไร?
1. ตราประทับ
ทองแท้จะมีตราประทับมาตรฐานจากสมาคมค้าทองคำ ที่บ่งบอกถึงแหล่งผลิตหรือปริมาณความบริสุทธิ์ เช่น 14K หรือ 70% ทองปลอมมักไม่มีตราประทับที่ชัดเจน หรือมีตราที่ไม่เป็นทางการ
2. ขนาดและน้ำหนัก
ทองแท้มีน้ำหนักตามมาตรฐาน เช่น ทอง 1 บาทมีน้ำหนักประมาณ 15.16-15.24 กรัม หากทองปลอมมีขนาดใหญ่กว่าทองแท้แต่มีน้ำหนักเท่ากัน อาจเป็นสัญญาณของทองปลอม
3. แม่เหล็ก
การใช้แม่เหล็กเป็นวิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบ หากทองถูกแม่เหล็กดูด แสดงว่าเป็นทองปลอม เพราะทองแท้ไม่มีส่วนผสมที่ทำปฏิกิริยากับแม่เหล็ก
4. กรดไนตริก
การหยดกรดไนตริกลงบนทองแท้จะไม่เกิดปฏิกิริยาใด ๆ แต่ถ้าเป็นทองปลอม กรดไนตริกจะกัดกร่อนและทำให้เกิดรอยแหว่งเนื่องจากส่วนผสมของโลหะอื่น
5. เล็บจิกหรือฟันกัด
ทองแท้มีความอ่อนตัวสูง จึงสามารถใช้เล็บจิกหรือฟันกัดเพื่อทดสอบ หากทองปลอมจะแข็งและไม่สามารถจิกหรือกัดเข้าได้
6. สังเกตขอบหรือรอยต่อ
ทองแท้มีความทนทานและคงสภาพสีทองธรรมชาติที่บริเวณขอบหรือรอยต่อ หากเป็นทองปลอมอาจเกิดการเปลี่ยนสีที่ขอบหรือรอยต่อ
7. โยนลงกระจก
ทองแท้มีความอ่อนนุ่ม เมื่อนำโยนลงกระจกจะเกิดเสียงกระทบที่นุ่มนวล ไม่แหลมแสบหู ส่วนทองปลอมจะมีเสียงแหลม
8. จานเซรามิก
การฝนทองบนก้นจานเซรามิกจะช่วยทดสอบได้ หากเป็นทองแท้จะไม่เกิดรอยดำ แต่ทองปลอมจะทิ้งรอยดำไว้
9. เผาไฟ
หากนำทองไปเผาแล้วทองกลับมาเป็นสีเดิม แสดงว่าเป็นทองแท้ แต่ทองปลอมอาจเปลี่ยนเป็นสีดำหรือหลอมละลายเมื่อถูกเผา
ทองปลอมขายได้หรือไม่?
ทองปลอมไม่สามารถนำไปขายได้ เพราะไม่ผ่านมาตรฐานสมาคมค้าทองคำ หากขายอาจถือเป็นการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา ม.341 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ