มีเซ็กส์บ่อย เซ็กส์จัด อาจไม่ดีต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของการมีเซ็กส์

• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้ร่างกายมีสารภูมิต้านทานที่ชื่อว่า อิมมูโนโกลบูลินเอ (Immunoglobulin A หรือ IgA) เพิ่มขึ้นมากกว่าผูู้ที่ไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอิมมูโนโกลบูลินเอเป็นแอนติบอดี ที่ทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย ด้วยการหลั่งสารน้ำออกมานอกร่างกาย โดยพบได้ในส่วนของเนื้อเยื่อช่องคลอด ต่อมน้ำลาย น้ำนม เหงื่อ อสุจิ เป็นต้น

• ทำให้การนอนหลับดีขึ้น หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จร่างกายอาจอ่อนเพลีย ส่งผลให้นอนหลับได้เต็มอิ่ม และหลับได้สนิทขึ้น เป็นผลมาจากการที่ร่างกายหลั่งสารอ็อกซิโทซิน (Oxytocin) และสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา โพรแลคติน (Prolactin) ในเลือดจะเริ่มทำการไหลเวียน จึงทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายจนเคลิ้มหลับไปในที่สุด

• บรรเทาความเครียด เพราะฮอร์โมนในร่างกายกำลังปลดปล่อยสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) และอ็อกซิโทซิน (Oxytocin) ส่งผลทำให้ความเครียดหรือเรื่องที่ไม่สบายใจลดลง

• ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เนื่องจากการหลั่งของเหลว (Ejaculate) หรืออสุจิทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยลง

• กระตุ้นความต้องการทางเพศ 

• ทำให้การควบคุมปัสสาวะในผู้หญิงดีขึ้น 

• ลดความดันโลหิต 

โทษของการมีเซ็กส์ มากเกินไป

• ผู้ชายอาจเกิดอาการเจ็บอวัยวะเพศได้หากดำเนินกิจกรรมทางเพศต่อเนื่องนาน ๆ หลังจากเสร็จแล้ว เนื่องจากเกิดการเสียดสีเป็นเวลานาน

• ผู้หญิงอาจมีอาการเจ็บอวัยวะเพศจากการที่อวัยวะเพศชายชนกับผนังช่องคลอด

• อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากการร่วมรัก ถือเป็นการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก ดังนั้นจึงควรดื่มหลังจากเสร็จกิจกรรม

• อาจทำให้ปวดบริเวณหลังส่วนล่าง เนื่องจากกิจกรรมทางเพศมักต้องใช้หลังช่วงล่างในการสอดใส่ หากทำต่อเนื่องนาน ๆ อาจทำให้เจ็บได้

• อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดความอ่อนล้า เมื่อตื่นขึ้นมาความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ อาจทำให้รู้สึกไม่สดชื่น ทำให้เหนื่อย และอยากนอนต่อ จนอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

• ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์บ่อย หรือ เปลี่ยนคู่นอนบ่อย อาจเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากแบคทีเรียในช่องคลอดเกิดการจับตัวเป็นก้อน และเดินทางเข้าสู่ท่อปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะ

• ทำให้เกิดรอยช้ำ หรือเจ็บ 

• ทำให้เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ

• อาจทำให้หัวใจวาย ในกรณีที่เป็นโรค หรือมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจตั้งแต่ต้น 

• โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างเช่น หนองใน พยาธิในช่องคลอด โรคซิฟิลิส โรคเอดส์ สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ดังนั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนควรป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัย ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ควรมีเซ็กส์ กี่ครั้ง ?

งานวิจัยจาก Indiana University พบว่า ระดับความถี่การมีเพศสัมพันธ์แต่ละช่วงอายุ อาจมีดังนี้

• ผู้ที่อายุ 18-29 ปี มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 112 ครั้งต่อปี

• ผู้ที่อายุ 30-39 ปี มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ยปีละ 86 ครั้ง

การมีเซ็กส์สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้เรื่องบนเตียงไม่มีปัญหา และการมีเซ็กส์ทุกวันไม่ได้บ่งบอกถึงการมีเซ็กส์มากเกินไป ตราบใดที่คู่รักยังคงเพลิดเพลินกับกิจกรรมดังกล่าว ดังนั้นสิ่งที่พอจะบอกได้ว่ามากเกินไปอาจสังเกตได้จากการรู้สึกไม่สบายใจหากต้องมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง