'บาร์ตี้ เคร้าช์' กว่าจะสำนึกได้ก็สายเกินไปแล้ว!
สวัสดีครับ ในกระทู้นี้จะขอกล่าวถึงเรื่องที่บาร์ทีเมียส เคร้าช์ ทำผิดพลาดในฐานะผู้เป็นพ่อกันนะครับ
บาร์ทีเมียส เคร้าช์ เป็นหัวหน้ากองบังคับควบคุมกฏหมายเวทมนตร์ในช่วงสงครามโลกพ่อมดครั้งที่ 1 การเคลื่อนไหวของลอร์ด โวลเดอมอร์และกลุ่มผู้เสพความตายที่กำลังสร้างความหวาดกลัวไปทั่วเกาะอังกฤษ เป็นแรงผลักให้เคร้าช์ตัดสินใจใช้มาตรการที่เด็ดขาดและรุนแรงในการตอบโต้กลุ่มผู้สนับสนุนโวลเดอมอร์
มือปราบมารได้รับอนุญาตให้ลงมือสังหารได้ หากเหยื่อที่จับกุมขัดขืน หลายคนถูกส่งเข้าอัซคาบันทันทีโดยไม่มีการไต่สวนก่อน (เช่น ซิเรียส แบล็ก) และเคร้าช์ยังอนุญาตให้ใช้คำสาปกรีดแทงในการสอบสวน
แม้เคร้าช์จะใช้ความรุนแรงเข้าต่อสู้กับความรุนแรง แต่คนจำนวนไม่น้อยก็มองว่าเขาทำถูก พ่อมดแม่มดหลายคนเรียกร้องให้เขารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ – เมื่อลอร์ด โวลเดอมอร์หายสาปสูญไป หลังจากล้มเหลวในการพยายามฆ่าทารกน้อยแฮร์รี่ เคร้าช์ดูเหมือนพร้อมเต็มที่กับการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด
แต่ทว่า.. ลูกชายของเขา - บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์ – กลับถูกจับกุมพร้อมกับกลุ่มผู้เสพความตาย
และเคร้าช์ก็ไม่ปราณีแม้แต่กับลูกชายของตนเอง เขาตัดสินโทษสูงสุดให้ลูกชายถูกจำคุกในอัซคาบันตลอดชีวิต ดังที่ซิเรียสได้เคยกล่าวไว้ เคร้าช์ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเป็นรัฐมนตรี ดังนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมอง เขาไม่ลังเลที่จะตัดทิ้งไปทันที - แต่นั่นก็ดูจะไม่ช่วยอะไร เพราะบัดนี้ชื่อเสียงของเขาและวงศ์ตระกูลได้ด่างพร้อยไปแล้ว เคร้าช์จึงต้องชวดเก้าอี้รัฐมนตรีไปให้กับคอร์นิเลียส ฟัดจ์
แต่ภรรยาของเคร้าช์ ซึ่งป่วยมานานและกำลังจะใกล้ตาย ได้ขอร้องเขาเป็น “คำขอสุดท้ายในชีวิต” เพื่อให้เคร้าช์ยอมช่วยลูกชายของเธอ ให้เคร้าช์ จูเนียร์ ได้รับโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง
และเธออาจหวังให้เคร้าช์ ผู้พ่อได้กลับใจและลองคิดใหม่ ว่าครอบครัวนั้นสำคัญเพียงใด – การที่เคร้าช์ จูเนียร์หลงผิดไปเข้ากับโวลเดอมอร์ เป็นภาพสะท้อนถึงความล้มเหลวของเคร้าช์ในการอบรมสั่งสอนลูกชาย ขณะที่เขาทุ่มพลังในการจับกุมและปราบปรามผู้สนับสนุนจอมมาร แต่เขากลับละเลยคนในบ้าน เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง จนไปก่อคดีร้ายแรง อย่างการทรมานแฟรงก์และอลิซ ลองบัตท่อมจนเสียสติ
เคร้าช์รักภรรยามาก แน่นอนว่ามากกว่าลูกชาย เขาจึงยอมทำตามคำขอสุดท้ายของเธอ เขาจัดการสลับตัวภรรยากับลูกชาย ช่วยเขาออกมาจากอัซคาบัน - ภรรยาของเคร้าช์ตายในคุกไม่นานหลังจากนั้นไม่ถึงปี ส่วนเคร้าช์ จูเนียร์ คงคิดว่าจะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าเขาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพ่อแทน
เคร้าช์ช่วยลูกชายออกมา โดยไม่มีใครรู้ ดังนั้นเขาจึงต้องกำกับควบคุมลูกชายให้อยู่แต่ในบ้านและต้องไม่ให้มีใครพบเห็น เขาจัดการให้ลูกชายต้องสวมผ้าคลุมล่องหนอยู่ตลอดเวลา และเคร้าช์ จูเนียร์ แม้จะได้รับอิสรภาพแล้ว เขายังคงเพ้อฝันและบ้าคลั่งถึงจอมมาร เอาแต่พูดว่าจะออกไปตามหา เพื่อกลับไปรับใช้เขาอีกครั้ง
ราวกับว่าเคร้าช์ จูเนียร์ ได้ถูกโวลเดอมอร์และกลุ่มผู้เสพความตายล้างสมองไปแล้ว แต่แทนที่เคร้าช์ผู้พ่อ จะหาทางบำบัดจิตใจลูกชายเสียใหม่ เขากลับเลือกใช้การควบคุมลูกชายด้วยคำสาปสะกดใจแทน
เป็นอยู่แบบนี้เกือบสิบสามปีเต็ม...
การไล่วิงกี้ เอลฟ์ประจำบ้านออก เพราะมันทำให้เขาเสื่อมเสียต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของกระทรวงในเหตุความวุ่นวายงานควิดดิชเวิล์ดคัพ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เคร้าช์ ผู้พ่อ เริ่มรับผลของการกระทำตลอด 13 ปีที่ผ่านมา – เมื่อหางหนอนพาจอมมารมาเยือนถึงบ้าน และปลดปล่อยเคร้าช์ จูเนียร์ ให้เป็นอิสระ – พร้อมกับแผนการที่จะพาตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์ มาเพื่อทำการคืนชีพให้กับจอมมารอีกครั้ง
เคร้าช์ ผู้พ่อต้องตกอยู่ภายใต้คำสาปสะกดใจแทน เป็นเวลาหลายเดือนที่เขาถูกควบคุม จนหน้าที่การงานที่กระทรวงต้องเสียหาย ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เคร้าช์มายังฮอกวอตส์ในสภาพที่เสียสติ พยายามจะสารภาพความจริงทุกอย่างกับดัมเบิลดอร์
แต่ว่าก็สายเกินไปแล้ว สุดท้ายบาร์ทีเมียส เคร้าช์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงฯ ก็ต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือของลูกชายตนเอง
สรุป บาร์ทีเมียสอาจไม่ทันได้คิดว่าการเสียสละของภรรยานั้น ไม่ใช่เพื่อให้โอกาสเคร้าช์ จูเนียร์เพียงคนเดียว แต่เธอกำลังให้โอกาสตัวเขาในฐานะพ่อด้วย โอกาสที่จะอบรมสั่งสอนลูกชายเสียใหม่ ให้กลับตัวกลับใจ - เขากลับเลือกที่จะควบคุมลูกชายให้อยู่ภายใต้โอวาทและคำสั่ง โดยไม่ได้คำนึงถึงว่ามันได้สร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะมันเปลี่ยนเคร้าช์ จูเนียร์ ให้กลายเป็นคนบ้าคลั่ง พอๆ กับเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์
อาจเรียกว่า นี่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับตระกูลเคร้าช์ก็เป็นได้...
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ แล้วพบกันกระทู้หน้าครับ
อ้างอิงจาก: stampchan