ประติมากรรมแท่งหินทรายในซาอุดีอาระเบีย 🇸🇦
ในอาณาเขตของอัลอูลา (AlUla) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของซาอุดีอาระเบีย มีประติมากรรมขนาดใหญ่เป็นแท่งหินทรายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ กระจายตัวอยู่กลางทะเลทรายกว้างไกล โดยการก่อตัวของหินเหล่านี้เกิดจากการกัดกร่อนของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นลม ฝน น้ำ และแดดตลอดเวลาหลายล้านปี ทำให้ได้รูปร่างที่แปลกตา ชวนให้เกิดจินตนาการถึงรูปร่างต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นผลงานของธรรมชาติแล้ว ยังเป็นจุดแคมป์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งสำหรับผู้มาเยือน
หนึ่งในไฮไลต์ที่โดดเด่นที่สุดของอัลอูลาคือ หินรูปช้าง (Elephant Rock) หรือที่เรียกในภาษาอาหรับว่า Jabal AlFil ซึ่งมีรูปร่างเหมือนช้างขนาดใหญ่ หินนี้มีความสูงถึง 52 เมตร กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่แสงสีส้มของดวงอาทิตย์ฉายผ่านตัวหิน เกิดเป็นภาพที่อลังการและงดงามมาก จนเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
นอกจากหินรูปช้างแล้ว ยังมี หินรูปทรงซุ้มโค้ง(The Arch) ซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะเป็นซุ้มประตูโค้ง สามารถเดินลอดผ่านได้จากด้านล่าง บางมุมมองอาจจะเห็นว่ามีลักษณะเหมือนเส้นโค้งที่ทอดยาวไปในท้องฟ้า คล้ายกับรุ้งกินน้ำ ทำให้หินนี้ถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า **หินสายรุ้ง** (Rainbow Rock) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหลในความงดงามของธรรมชาติ
อีกหนึ่งประติมากรรมที่น่าทึ่งในอัลอูลาคือ หินเต้นระบำ ตั้งอยู่ใน **หุบเขา Ragasat** หินเหล่านี้มีลักษณะเป็นแท่งหินสูงที่ถูกลมและน้ำกัดกร่อนจนมีรูปร่างคล้ายกับคนที่กำลังเต้นรำ เรียงตัวกันอย่างมีจังหวะกลางทะเลทราย ลักษณะที่แปลกตานี้ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่กำลังเคลื่อนไหว
ประติมากรรมแท่งหินทรายในอัลอูลาจึงไม่เพียงแต่เป็นความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนถึงพลังของธรรมชาติในการสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้ผู้มาเยือน