เรื่องสั้นหลอนหักมุม ตอน ฆ่าตัวตายตาม
ฆ่าตัวตาย
คุณเชื่อเรื่องการฆ่าตัวตายไม๊ ส่วนตัวชั้นเองไม่เคยเชื่ออะไรแบบนั้นเลย เพราะชั้นเชื่อเสมอว่าคนเรานั้นสามารถมีทางออกและมีความคิดที่ดีกับตัวเองเสมอไม่จำเป็นต้องคิดสั้นเสมอไป แต่มันก็เป็นสิ่งที่ชั้นคิดไปเองคนเดียวเท่านั้นเพราะบางคนเขาไม่ได้คิดแบบนั้น “จะไปไหนโยชิดะคุง” เสียงคุณครูสาวถามเด็กชายที่กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง ก่อนที่เขาจะเดินไปที่หน้าต่างและกระโดดลงมาจนตาย ท่ามกลางความตกใจของทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ ข่าวการเสียชีวิตของโยชิดะกลายเป็นข่าวดังไปทั่วเมืองเพราะเมืองที่เราอยู่เป็นเพียงเมืองเล็กๆ ข่าวต่างๆ จึงค่อยข้างไปไวแถมด้วยข่าวลือต่างๆ ที่มีมากมายเข้ามา “เธอรู้ไม๊ว่าที่บ้านโยชิดะคุงเขากดดันโยชิดะมากๆ เพราะอยากจะให้เป็นหมอแบบพ่อแม่เลยกดดันจนโยชิดะฆ่าตัวตาย” เพื่อนผู้ชายในห้องคุยกันแบบนั้น ขณะที่อีกกระแสก็บอกว่าโยชิดะนั้นป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายจนเกิดความเครียด จนบานปลายไปถึงเขาถูกคำสาปจากใครบางคนที่เกลียดเขา “มายูมิเธอคิดยังไงกับเรื่องนี้หรอ” เพื่อนสาวถามชั้นระหว่างเดินทางกลับบ้านขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ที่เดินมาด้วยต่างก็มองมาด้วยความอยากรู้ เพราะชั้นคือเพื่อนสมัยเด็กของโยชิดะคุง เราสองคนบ้านอยู่ใกล้กันจึงรู้จักและสนิทกันพอสมควร ชั้นจึงเป็นหนึ่งในคนในที่พอจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น “ได้ข่าวว่าโยชิดะมันชอบแอบออกมาข้างนอกบ้านแล้วก็ตอกหุ่นฟางเพื่อสาปแช่งคนที่มันเกลียดจริงป่ะ” เพื่อนชายที่เดินมาได้ยินที่พวกเราคุยกันจึงถามขึ้นมา “แล้วยังมีเรื่องที่โยชิดะมักจะพกหนังสือตำราเก่าๆ มานั่งอ่านนั่นคือตำราเกี่ยวกับคำสาปป่ะ” เพื่อนอีกคนถามจนหลายคนที่อยากจะถามแต่ไม่มีโอกาสจึงใช้จังหวะนี้รุมถาม จนชั้นทนไม่ไหวต้องขอเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อกลับบ้าน
“มายูมิจังกลับมาแล้วหรอ” คุณแม่ของโยชิดะยิ้มทักทายชั้น เท่าที่ชั้นรู้มาคุณพ่อกับคุณแม่ของโยชิดะก็เป็นแค่คนธรรมดา พวกท่านออกจะใจดีกับพวกเราและไม่เคยดุโยชิดะคุงเลย ดังนั้นข่าวลือเรื่องการกดดันโยชิดะจนฆ่าตัวตายก็เลิกคิดไปได้เลย ส่วนเรื่องที่ว่าเขาไปทำพิธีสาปแช่งกับหนังสือคำสาปนั่นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะโยชิดะชอบอ่านหนังสือเก่าๆ และเขาก็ชอบแมลงกลางคืนจนออกมาหาบ่อยๆ จนหลายคนที่มาเห็นเขากำลังจับแมลงจึงเข้าใจผิดไปเอง ซึ่งชั้นที่รู้เห็นทุกอย่างแต่กลับถูกคุณพ่อกับคุณแม่ของโยชิดะห้ามบอกทุกคน เขาบอกว่าข่าวลือแบบนี้ดีแล้วคนจะได้พูดถึงเขาบ่อยๆ เพราะถ้าคนในเมืองเลิกพูดถึงวันนึงโยชิดะก็จะไม่มีตัวตนในความทรงจำของทุกคนอีกต่อไป
วันเวลาผ่านไปหลายเดือนเรื่องราวของโยชิดะก็ค่อยๆ จางหายไป ขณะที่พ่อแม่ของโยชิดะก็ค่อยๆ ทำใจได้มากขึ้น ทุกอย่างก็กลับมาสู่ชีวิตที่ปกติแต่ไม่นานก็เกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นเมื่อมินาเสะที่กำลังเรียนอยู่เธอก็เอามีดคัตเตอร์มาปาดคอตัวเองระหว่างเรียนสร้างความแปลกใจให้ทุกคน และมินาเสะก็เป็นเพื่อนสนิทกับชั้นอีกคนที่เรามักจะติวข้อสอบด้วยกันเสมอโดยมีโยชิดะเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งแน่นอนว่าข่าวลือเกี่ยวกับมินาเสะก็ไม่ต่างอะไรกับโยชิดะที่ว่าเธอนั้นไปมั่วกับผู้ชาย หรืออาจจะเป็นเพราะเธอกดดันเรื่องการเรียน แต่คราวนี้มันต่างออกไปเพราะเพื่อนสนิทของชั้นสองคนต่างมาฆ่าตัวตายแบบนี้จึงทำให้เพื่อนๆ หลายคนต่างพากันตีตัวออกห่างจากชั้น เพราะเริ่มมีข่าวลือว่าชั้นคือตัวซวยเพื่อนคนไหนที่สนิทกับชั้นก็จะมีอันเป็นไป แต่ก็มีคนที่ไม่เชื่อมาคบกับชั้น
“นี่คูมิโกะเธอไม่กลัวข่าวลือหรอถ้าอยู่กับชั้นเดี๋ยวจะตายแบบโยชิดะกับมินาเสะนะ” ชั้นถามคูมิโกะระหว่างที่กำลังทำการบ้าน “ไม่นะชั้นไม่กลัว มันเรื่องเหลวไหลชัดๆ มายูมิจังออกจะเป็นคนดีน่ารักแถมยังช่วยแนะนำชั้นเรื่องการบ้านอีก คบกับเธอแล้วชั้นเรียนเก่งขึ้นเยอะเลย แต่ก็คงสู้สองคนที่เสียไปแล้วไม่ได้ ชั้นมันค่อนข้างหัวทึบแค่เรียนไม่ให้ซ้ำชั้นนี่ก็แย่แล้ว” คูมิโกะพูดยิ้มๆ กับชั้น “ตอนแรกชั้นก็กลัวที่จะมาคุยกับมายูมิจังเพราะมายูมิอยู่ในกลุ่มเด็กเรียนดี ชั้นมันคนโง่ที่สุดในชั้นเลยทำได้แค่มอง แต่พอชั้นเห็นมายูมินั่งคนเดียวไม่มีเพื่อนๆ มาล้อมแล้วชั้นเลยคิดว่านี่คือโอกาสที่ชั้นจะได้รู้จักกับมายูมิ” คำพูดของคูมิโกะมันทำให้ชั้นคิดได้เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงตัวเองในอดีต ที่ชั้นก็เคยเป็นแบบคูมิโกะที่เป็นคนโง่เรียนไม่เก่งในช่วงประถม แต่พอย้ายโรงเรียนมาและได้รู้จักกับโยชิดะคุงเขาก็ช่วยแนะนำเรื่องการบ้าน จนชั้นจากที่เป็นคนโง่เรียนไม่เก่งพอจะเรียนดีจนสามารถติดอยู่ในกลุ่มเด็กเรียนดีมาได้ แต่ชั้นก็เรียนเก่งสู้โยชิดะกับมินาเสะไม่ได้หรอก
หลังจากงานศพของมินาเสะจบไปไม่นานข่าวลือต่างๆ ก็ค่อยๆ หายไป บวกกับที่คูมิโกะไม่ตายแบบที่ข่าวลือว่ามา เพราะตั้งแต่ที่ทุกคนเลิกคบชั้นคูมิโกะก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่เรามักจะทำอะไรด้วยกันตลอด และสิ่งหนึ่งที่ชั้นไม่เคยบอกใครๆ นั่นคือคูมิโกะมีเพื่อนเจ๋งๆ ที่เป็นแก๊งรุ่นพี่มหาลัยที่มักจะมาซ้อมดลตรีกันตลอด จนชั้นเริ่มสนใจการเล่นดลตรีและร้องเพลงร็อคจนผลการเรียนของชั้นจากที่เคยดีก็เริ่มหล่นลงมาในระดับกลางๆ พร้อมข่าวลือเรื่องการแต่งตัวของชั้นที่จะใส่กำไลหนามหรือบางทีก็พกไม้กลองมาตีเล่นกับคูมิโกะเมื่อว่าง จนชั้นขอเข้าชมรมดลตรีเพราะสนใจในการตีกลองจนทุกคนแปลกใจแม้แต่พ่อแม่ของชั้นเองก็ตาม ซึ่งพวกท่านก็ไม่ว่าอะไรแถมโล่งใจด้วยซ้ำที่ชั้นไม่ทำอะไรไม่ดี และตอนนั้นเองระหว่างที่ชั้นกับคุมิโกะกำลังซ้อมดลตรีก็ได้ยินเสียงร้องของคนในโรงเรียน ที่เมื่อไปดูก็เห็นมิซุกินอนตายที่สนามฟุตบอลเพราะเธอกระโดดลงมาตายจากชั้นห้าของโรงเรียน
แน่นอนว่าคราวนี้ก็มีข่าวลือใหม่เกิดขึ้นมาเมื่อนักเรียนที่ฆ่าตัวตายคนล่าสุดอย่างมิซุกิก็เป็นนักเรียนที่เรียนเก่ง ซึ่งติดอันดับท็อปของโรงเรียนต่อจากมินาเสะและโยชิดะ ข่าวลือที่ว่าเด็กนักเรียนที่เรียนเก่งจะต้องตายนั่นจึงเป็นข่าวลือที่เกิดขึ้น แถมข่าวลือนี้ไม่ใช่แค่ในหมู่บ้านของชั้นแต่มันเกิดขึ้นมาแล้วทั่วประเทศญี่ปุ่น เมื่อเด็กนักเรียนต่างพากันฆ่าตัวตาย ซึ่งทุกคนนั้นก็เป็นเด็กเรียนเก่งอันดับต้นๆ ที่ตอนแรกก็ไม่มีใครคิดซึ่งต่างก็คิดไปเองว่าเด็กพวกนี้คงจะเครียดจนฆ่าตัวตายเพราะการแข่งขันที่สูง แต่สุดท้ายทุกคนต่างก็เชื่อแล้วว่ามันคือเรื่องจริง เพราะตอนนี้ในอินเตอร์เน็ตมีการพูดถึงคำสาปของทาคาโอะคุงที่เป็นเด็กเรียนเก่งแต่บ้านจน วันนึงทาคาโอะสามารถสอบติดมหาลัยชื่อดังได้แต่เขาไม่มีเงินไปเรียน ที่แม้จะเก็บเงินและที่บ้านต่างก็ช่วยแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเรียนได้ ทาคาโอะคุงเลยเขียนจดหมายสาปแช่งไปลงไปในอินเตอร์เน็ตที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนมันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง
“มันคือเรื่องจัง” คูมิโกะพูดกับชั้นระหว่างที่เราเดินทางกลับบ้าน “ทาคาโอะที่ว่าคือลูกพี่ลูกน้องชั้นเอง ทุกอย่างที่ได้อ่านในอินเตอร์เน็ตคือเรื่องจริง” คูมิโกะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “วันนั้นชั้นเห็นกับตาว่าทาคาโอะกำลังพิมพ์คำสาปแช่งลงไปในอินเตอร์เน็ต สีหน้าของเขาตอนนั้นสูบผอมจากการอดอาหารและทำงานหนัก จนทางพ่อแม่ของทาคาโอะบอกว่าเขาตายทั้งที่ยังพิมพ์คำว่าขอสาปแช่งเด็กที่เรียนเก่งทุกคนให้มันตายโหง” ชั้นกลืนน้ำลายตอนที่คูมิโกะเล่า “ตอนแรกชั้นก็ไม่เชื่อเรื่องคำสาปอะไรนั่นหรอก จนกระทั่งชั้นเห็นเงาของทาคาโอะข้างหลังโยชิดะและเขาก็ฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นก็มินาเสะ ส่วนมิซุกิชั้นมาเห็นก็ตอนที่ทาคาโอะยืนอยู่ที่ศพของเธอที่สนามฟุตบอลแล้ว” คูมิโกะหันมามองชั้น “และตอนนั้นหลังจากที่มินาเสะตายชั้นก็เห็นทาคาโอะที่ข้างหลังเธอ ชั้นที่ชอบมายูมิจังเลยเข้าไปคุยและหาเรื่องให้เธอออกห่างจากการเรียน โชคดีที่เธอหันมาสนใจดลตรีจนมิซุกิได้อันดับเด็กเรียนดีไปแทน” คูมิโกะหันไปทางร้านขายทีวีที่กำลังเปิดข่าวนักเรียนฆ่าตัวตายที่ถูกถ่ายคลิปไว้ได้ แต่สิ่งที่คูมิโกะเห็นนั้นคือร่างของทาคาโอะที่ผลักคนเหล่านั้น ไม่ก็เอามือจับมีดและปาดคอคนๆ นั้น รวมถึงการจับเชือกให้ร่างของนักเรียนที่เรียนเก่งมาแขวนคอตาย กลายเป็นวิญญาณอาฆาตที่ไม่ว่าคูมิโกะจังจะหันไปทางไหนก็เห็นทาคาโอะที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเด็กเหล่านั้นไม่สามารถทำตามความฝันได้เหมือนเขา....จบ