แพทย์สหรัฐฯพบปรสิต พยาธิตัวตืดหมู แพร่กระจายอยู่ทั่วตัวของคนไข้ ซึ่งเคสแบบนี้พบเห็นได้บ่อยในบ้านเรา
เรื่องนี้เป็นการเตือนภัยเกี่ยวกับสุขภาพจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่คุ้นเคยมากในบ้านเรา หลังจาก ดร.แซม กาลี แพทย์ฉุกเฉินจากมหาวิทยาลัยฟลอริด้าในสหรัฐอเมริกา ได้แชร์ภาพเตือนเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ซีสติเซอร์โคซิส (Cysticercosis) จากการกินหมูที่สุกไม่เต็มที่ เมื่อทำการสแกนซีทีพบว่าร่างกายของเขามีปรสิตเต็มไปหมด โดยซีสต์ที่เกิดจากพยาธิที่ตายแล้วกลายเป็นแคลเซียม ดร.กาลี บอกว่านี่เป็นหนึ่งในภาพสแกนซีทีที่แปลกประหลาดที่สุดที่เขาเคยเห็น ซิสติเซอร์โคซิสเกิดจาก พยาธิตัวตืดหมู ซึ่งไข่จะซ่อนอยู่ในหมูที่สุกไม่เต็มที่ เมื่อมนุษย์กินเข้าไป ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนในลำไส้ จากนั้นตัวอ่อนจะเจาะเข้าสู่ผนังลำไส้ กระจายไปในกระแสเลือดและไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำลายพยาธิและมันกลายเป็นแคลเซียม จะปรากฏเป็นจุดขาวรูปไข่บนภาพสแกน นอกจากการรับประทานไข่พยาธิจากหมูสุกไม่เต็มที่แล้ว โรคนี้ยังสามารถแพร่กระจายผ่านการถ่ายอุจจาระ ซึ่งมักเกิดจากการที่ผู้ติดเชื้อไม่ล้างมือให้สะอาดหลังจากใช้ห้องน้ำ หรือปนเปื้อนแหล่งน้ำดร.กาลีกล่าวว่า ส่วนใหญ่การติดเชื้อซีสติเซอร์โคซิส อาการไม่รุนแรงนัก แต่บางกรณีอาจถึงขั้นเสียชีวิต มีคนติดเชื้อทั่วโลกประมาณ 50 ล้านคนในแต่ละปี และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50,000 คน เขาขอแนะนำให้ทุกคนรักษาความสะอาด ล้างมือบ่อยๆ และ หลีกเลี่ยงการกินหมูดิบหรือหมูที่สุกไม่เต็มที่ โดยคำเตือนดังกล่าว สอดคล้องกับคำเตือนที่ กรมควบคุมโรค รวมถึงแพทย์ในไทยหลายคนออกมาเตือนอยู่เสมอ ว่า หากเรากินหมูไม่สุก หรือแม้แต่การใช้ตะเกียบที่คีบหมูดิบมาคีบอาหารเข้าปาก ก็อาจเปิดโอกาสให้ร่างกายได้รับพยาธิตัวตืดหมู ที่ทำให้มีอาการผิดปกติ เช่น ท้องอืด ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ท้องร่วงเรื้อรัง หรือมีรอยบวมแดงบนผิวหนังที่เคลื่อนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ จากการชอนไชของพยาธิ หรืออาการคันก้น เนื่องจากพยาธิจะออกมาวางไข่รอบ ๆ ทวารหนักตอนกลางคืน ซึ่งใครพบอาการดังที่กล่าวมาควรไปพบแพทย์ตรวจวินิจฉัย และรักษาด้วยยาถ่ายพยาธิที่เหมาะสมกับชนิดพยาธิที่ได้รับ เพราะในกรณีที่รุนแรง พยาธิอาจขึ้นสมองจนเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว