"หมอหมู" เผยผลวิจัยบริโภคคาเฟอีน เพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจได้จริงหรือไม่? มาไขข้อข้องใจกัน
กาแฟสักแก้วในยามเช้า...ใครจะปฏิเสธความหอมกรุ่นที่ช่วยให้เราสดชื่นได้ แต่หลายคนก็กังวลว่าการดื่มกาแฟบ่อยๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจที่เป็นภัยเงียบคุกคามชีวิต
ล่าสุด "หมอหมู" หรือ พญ.วราภรณ์ สมบัติรักษ์ ได้ออกมาเปิดเผยผลวิจัยเกี่ยวกับการบริโภคคาเฟอีนและความเชื่อมโยงกับโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งสร้างความสนใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟเป็นอย่างมาก
คาเฟอีนกับหัวใจ: ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นระบบประสาท ทำให้เรารู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า แต่ในขณะเดียวกันก็มีผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยคาเฟอีนจะไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และหลอดเลือดหดตัว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
แต่ผลวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างคาเฟอีนและโรคหลอดเลือดหัวใจนั้นซับซ้อนกว่าที่คิด โดยมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น
- ปริมาณการบริโภค: การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ (ประมาณ 3-5 แก้วต่อวัน) อาจไม่มีผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ แต่การดื่มมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยง
- สุขภาพโดยรวม: ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรระมัดระวังในการบริโภคคาเฟอีน
- ชนิดของกาแฟ: กาแฟแต่ละชนิดมีปริมาณคาเฟอีนแตกต่างกัน และมีสารประกอบอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพด้วย
- วิธีการชง: การชงกาแฟด้วยวิธีต่างๆ ก็ส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนที่ได้เช่นกัน
หมอหมูให้คำแนะนำอย่างไร?
จากข้อมูลวิจัยที่ได้ศึกษา หมอหมูได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคคาเฟอีน ดังนี้
- ดื่มกาแฟได้ แต่ต้องรู้จักปริมาณ: ควรจำกัดปริมาณการดื่มกาแฟให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- เลือกชนิดกาแฟที่เหมาะสม: เลือกกาแฟที่ผ่านการคั่วแบบปานกลาง หรือกาแฟที่ไม่เติมน้ำตาลและครีม
- สังเกตอาการของร่างกาย: หากดื่มกาแฟแล้วรู้สึกใจสั่น นอนไม่หลับ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรลดปริมาณการดื่มหรือหยุดดื่มชั่วคราว
- ปรึกษาแพทย์: หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดื่มกาแฟ
สรุป
การดื่มกาแฟไม่ได้เลวร้ายเสมอไป แต่เราต้องรู้จักบริโภคอย่างมีสติและเหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ การดูแลสุขภาพโดยรวมควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ก่อนจะดื่มกาแฟสักแก้ว ลองพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง
หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ทัพฟ้าไทย พร้อมรบ 24 ชั่วโมง โชว์ยุทโธปกรณ์สุดล้ำ โจมตีแม่นยำ "ไม่ให้ใครย่ำยี" น่านฟ้าไทย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป