เรื่องสั้นหลอนหักมุม ตอน ชายหนุ่มที่บนอัฒจันทร์
คุณเคยเจอเรื่องแปลกประหลาดบ้างไม๊ ชั้นหมายถึงเรื่องแปลกประหลาดที่แปลกจริงๆ แบบประมาณว่ามันหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ และความแปลกนั้นมันก็ช่างดูปกติที่ไม่มีใครสังเกตเห็นแต่ชั้นกลับไปเห็นมันเข้า จนชั้นพยายามหาคำตอบจากสิ่งนั้น ซึ่งชั้นเรียกมันว่าชายหนุ่มที่อัฒจันทร์
“เราเลิกกันเถอะรินะจัง ผมเจอคนใหม่ที่ดีกว่าคุณแล้ว” เสียงของโชตะคุงที่บอกเลิกกับชั้นทางโทรศัพท์ หลังจากที่เราตกลงคบกันเป็นแฟนได้ไม่ถึงเดือน หมอนั่นก็ไปเจอผู้หญิงคนใหม่จึงโทรมาบอกเลิกชั้น ทั้งที่ตอนขอเป็นแฟนก็ลงทุนมาถึงที่ชั้นเรียนต่อหน้าเพื่อนๆ แต่พอบอกเลิกกับทำได้แค่โทรศัพท์มาพูดสั้นๆ แล้วก็หาย หลังจากวันนั้นชั้นที่อับอายเพื่อนๆ จึงเป็นฝ่ายหลบหน้าโชตะคุงแทน จนบางครั้งชั้นก็แกล้งไม่สบายเพื่อหาเรื่องโดดเรียน เพราะเมื่อคิดถึงสายตาเพื่อนๆ ที่มองมาทางชั้นมันก็ทำให้ชั้นรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก และบางวันที่ชั้นไม่ได้ไปโรงเรียนก็จะนอนอยู่แบบนั้นในห้องทั้งวัน จนบางทีกลางคืนชั้นก็นอนไม่กลับอย่างในคืนนี้ที่ชั้นต้องออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนแถวบ้าน เพราะคืนนี้พระจันทร์สวยมากๆ จนชั้นอยากเดินมารับแสงจันทร์เพื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้นถ้าได้สูดอากาศ และระหว่างที่ชั้นกำลังเดินอยู่แถวบ้านที่เป็นสนามฟุตบอลขนาดเล็กแถวที่รกร้าง ที่กลางวันก็มักจะมีคนมาเล่นแตะบอลกัน แต่กลางคืนที่นี่ก็จะเปิดไฟทิ้งไว้อย่างนั้น เพราะบางทีก็มีคนมาเล่นฟุตบอลหรือทำกิจกรรมที่นี่ จึงมีการเปิดไฟเอาไว้และชั้นก็ชอบมาเดินเล่นแถวนี้เพราะมันทั้งกว้างและรู้สึกปลอดภัย ที่ได้อยู่คนเดียวในที่กว้างๆ แบบนี้ แต่ถึงยังไงมันก็ทำให้ชั้นไม่รู้สึกดีขึ้นมาเลย “เฮ้อ” ชั้นถอนหายใจแรงๆ เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะร้องไห้ออกมา นี่มันรักครั้งแรกของสาวน้อยเลยนะเว้ย ไหนจะจูบแรกอีกถึงเราจะไม่เคยมีอะไรกันก็ตาม แต่หมอนั่นก็เคยจับหน้าอกชั้นแล้วแม้จะปัดทันก็เถอะ แบบนี้ก็ถือว่าชั้นเสียพรหมจรรย์ทางอ้อมไปแล้ว
และในระหว่างที่ชั้นกำลังรู้สึกเสียใจตอนนั้นเองชั้นก็เห็นเด็กผู้ชายคนนึงนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ ชั้นรู้สึกอายมากๆ ที่ต้องมาร้องไห้ให้ใครก็ไม่รู้เห็น แต่เมื่อชั้นรีบเดินกลับสายตาของชั้นก็แอบมองไปที่ชายคนนั้น แต่หมอนั่นกลับไม่ได้สนใจมองมาทางชั้นเลย สายตาของเขานั้นมองไปข้างหน้าด้วยตาที่ไม่กระพริบจนชั้นสงสัยว่านายคนนี้คือใคร
หลังจากวันนั้นที่ชั้นก็เจอกับชายคนนั้นอีกที่เดิม ขณะที่คนอื่นๆ ก็นั่งเล่นฟุตบอลกันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่มีใครสนใจหมอนั่นเลย แต่ชุดที่เขาสวมก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่แปลกคือแม้ในวันฝนตกหมอนั่นก็ยังนั่งอยู่ แต่ในตอนกลางวันเขาจะไม่อยู่ตรงนั้น เมื่อสอบถามคนแถวนั้นก็ได้ความว่า หมอนั่นเป็นใครก็ไม่รู้ทุกวันจะมานั่งที่อัฒจันทร์จุดเดิม พอไปชวนเล่นบอลก็ไม่สนใจ เข้าจะมาในช่วงหกโมงตรงทุกวันเหมือนกำลังนั่งรออะไรอยู่ ชั้นที่ตอนนี้เลิกสนใจโชตะคุงไปแล้วเพราะความสนใจของชั้นมาอยู่ที่ชายปริศนาบนอัฒจันทร์แทน เพื่อพยายามตามดูว่าเขาจะเลิกนั่งถึงกี่โมง ชั้นพยายามแอบดูอยู่ตรงนั้นจนถึงเวลาตีสามหมอนั่นก็จะลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ชั้นที่แอบตามไปถึงบ้านที่หมอนั่นอยู่ที่เป็นห้องเล็กๆ เขาเข้าห้องปิดไฟและไม่ออกมาอีก ส่วนในเวลากลางวันหมอนั่นแทบไม่ออกมาจากห้องเลย จะมีเพียงผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งเข้าออกที่ห้องนั้นเหมือนเอาน้ำกับอาหารมาให้
ชั้นที่ตอนนี้หมกมุ่นกับสิ่งที่เห็นจนเพื่อนๆ เริ่มเป็นห่วงว่าชั้นเป็นอะไร เพราะในบางวันชั้นก็หยุดเรียนหรือบางทีก็โดดเรียนเองเพื่อไปแอบดูหมอนั่นว่าเขาใช้ชีวิตยังไง ซึ่งในบางครั้งชั้นก็ไปสอบถามคนแถวนั้นว่าชายคนนี้คือใคร โดยบอกไปว่าชั้นคือเพื่อนไม่ก็เป็นญาติเพื่อหลอกถามเพื่อหาข้อมูล ซึ่งทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชายคนนี้ชื่อทาเครุ เป็นพนักงานเงินเดือนธรรมดา แต่วันนึงเขาตกงานจนแฟนทิ้งแถมยังโดนใส่ร้ายในคดียักยอกที่ไม่ได้ทำ แต่เจ้าตัวก็พ้นคดีมาได้แต่ก็ยังตกงาน จนวันนึงเขาก็หยุดทำงานแล้วเดินออกไปนั่งที่อัฒจันทร์ทุกคืน พอเช้าก็กลับมานอน ส่วนผู้หญิงที่เข้าออกในบ้านคือแม่ของเขา จากข้อมูลบอกว่าแม่ของทาเครุพยายามพาไปหาหมอทั้งแบบปัจจุบันไปจนถึงหมอผีก็รักษาอาการนี้ไม่ได้ จนสุดท้ายแม่ของทาเครุก็ยอมให้ลูกชายทำแบบนี้มาเดือนนึงแล้ว ซึ่งเมื่อสอบถามแม่ของทาเครุเขาก็ไม่รู้ว่าลูกชายเป็นอะไร แต่เมื่อถามว่าทำไมถึงไปนั่งตรงนั้น เขาก็ตอบว่าเขามีความสุขเมื่อไปนั่งตรงนั้น
ถ้าคุณเป็นชั้นแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้คุณจะสงสัยไม๊ว่าที่ตรงนั้นมันคืออะไร และในช่วงกลางวันชั้นพยายามมาตรวจสอบที่อัฒจันทร์นั้นว่าอะไรผิดปกติไม๊ ซึ่งมันก็ดูไม่มีอะไรที่แปลกไปกว่าที่นั่งทั่วไป จนเมื่อชั้นลองนั่งดูสิ่งที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อตอนนั้นเองจิตของชั้นก็ล่องลอยไปไกลเหมือนวิญญาณถูกดึงออกมาจากร่าง เหมือนตัวเองอยู่ในความฝันที่ตอนนี้ชั้นกำลังอยู่ในอีกโลกนึงที่มีแต่ความสวยงามและความอบอุ่นของดอกไม้กับเหล่าดาราที่ชั้นชอบทั้งไทยและต่างประเทศมารายล้อม นี่มันคือสถานที่ในฝันของชั้นชัดๆ มันแบบช่างมีความสุขมากมายอะไรขนาดนี้
“ออกไป” และในระหว่างที่ชั้นกำลังมีความสุขกับความฝัน ชั้นก็ถูกทาเครุมาผลักอย่างแรกจนหลุดออกมาจากเก้าอี้นั้น “ตรงนี้คือของชั้นแกห้ามมายุ่ง” ทาเครุจ้องมาทางชั้นด้วยความไม่พอใจ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชั้นเห็นหน้าเขาชัดๆ ตัวของทาเครุผอมซูบหนังหุ้มกระดูกเหมือนเขาจะมีความสุขกับฝันนั้นจนไม่สนใจโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งหลังจากวันนั้นชั้นก็พยายามปัดอารมณ์ความรู้สึกอยากนั่งที่ตรงนั้นออกไปจากหัวไม่ได้ ในความฝันนั้นมันช่างอบอุ่นและมีความสุขมากๆ แต่เมื่อถึงสายตาของทาเครุที่จ้องมาแบบจะกินเลือดกินเนื้อ ชั้นก็พยายามจะมานั่งในช่วงเย็นๆ และจะปลุกตัวเองให้ตื่นก่อนที่ทาเครุจะมา ซึ่งมันก็เป็นไปได้ด้วยดีที่ชั้นกับทาเครุจะมาสลับกันนั่งตรงนั้น แต่ปัญหามันมาหลังจากนั้น เพราะเริ่มมีคนสงสัยในสิ่งที่เราสองคนทำจนมีคนมาลองนั่งตรงนั้นบ้าง และได้เข้าไปในความฝันแบบที่ชั้นกับทาเครุเป็น ซึ่งมันก็กลายเป็นเรื่องเมื่อผู้คนเริ่มมาลองนั่งและพูดกันไปปากต่อปากถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตรงอัฒจันทร์นั้น จนชั้นไม่สามารถไปนั่งตรงนั้นได้เลย ขณะที่ทาเครุก็โวยวายและไล่ทุกคนที่มานั่นตรงนั้น จนบางครั้งเขาก็ถูกกลุ่มคนที่เป็นนักเลงที่อยากนั่งตรงนั้นรุมทำร้ายจนบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล และด้วยเหตุนี้จึงมีการเอาอัฒจันทร์นั้นออกไปจนชั้นเองก็ไม่รู้ว่าอัฒจันทร์ไปอยู่ที่ไหน ขณะที่ทาเครุก็เหมือนคนเสียสติเขาร้องและพยายามจะไปที่อัฒจันทร์นั่น มันเหมือนที่นั่นจะทำให้เขามีความสุข ซึ่งชั้นเองที่นั่งตรงนั้นก็พอจะเข้าใจ ว่าถ้าเราที่เจอเรื่องแย่ๆ มาพอมีที่ให้หนีจากโลกแห่งความจริงแบบนี้ใครก็ไป แต่ไม่นานมันก็กลับมาอยู่ที่เดิม ชั้นเดาว่าคงจะมีคนมาขโมยไปเพื่อจะไปนั่งคนเดียว แต่มันกลับไม่ส่งผลอะไรนอกจากที่นี่ เมื่ออัฒจันทร์กลับมาทุกคนต่างก็ไปแย่งกันนั่ง ซึ่งแน่นอนว่าเทเครุก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่คราวนี้เขาไม่พลาดรอบสอง เพราะเขาเตรียมมีดมาด้วยและฆ่าทุกคนที่พยายามมาแย่งที่นั่งตรงนั้น
“พวกแกมาแย่งความสุขชั้นไปไม่ได้หรอก มันเป็นของชั้นคนเดียว” ทาเครุตะโกนด้วยความบ้าคลั่งท่ามกลางซากศพและคนบาดเจ็บที่อัฒจันทร์ ขณะที่ชั้นได้แต่ยืนดูภาพตรงนั้นท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่คนอื่นที่ไม่ยอมแพ้ต่างก็มาแย่งและทำร้ายทาเครุจนสุดท้ายเขาก็ถูกฆ่าตายที่ตรงนั้นเหมือนคนอื่นๆ ส่วนชั้นที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ทำได้แค่ถอนหายใจก่อนจะเดินจากไปเพราะไม่อยากไปแย่งกับคนอื่น ที่ตอนนี้มันเริ่มบานปลายจนกลายเป็นสงครามขนาดย่อมของคนที่อยากนั่งอัฒจันทร์ตรงนั้น และดูท่ามันจะไม่จบง่ายๆ เพราะใครๆ ก็อยากหนีโลกแห่งความจริงไปอยู่ในความฝันทั้งนั้น.... จบ