ตวล สเลง นรกบนดินที่โหดเหี้ยมเกินกว่าจะจินตนาการ
ถ้าพูดถึงเรื่องราวสุดสยองในประวัติศาสตร์โลก คงหนีไม่พ้น "ตวล สเลง" คุกมรณะในกัมพูชา สมัยเขมรแดงเรืองอำนาจ ที่ความโหดร้ายทารุณเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูด
เดิมที ตวล สเลง เป็นแค่โรงเรียนมัธยมธรรมดาๆ แต่เมื่อเขมรแดงยึดอำนาจ ก็เปลี่ยนมันให้กลายเป็น "S-21" คุกนรกสำหรับกักขังและทรมานผู้เห็นต่างทางการเมือง ใครที่ถูกสงสัยว่าเป็นศัตรูของรัฐ ก็จะโดนจับมาที่นี่ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ ผู้หญิง หรือเด็ก
สิ่งที่เกิดขึ้นภายในตวล สเลง มันโหดเหี้ยมเกินกว่าจะจินตนาการ นักโทษจะถูกทรมานสารพัด ทั้งเฆี่ยนตี ช็อตไฟฟ้า แขวนคอ จนกว่าจะยอมรับสารภาพ บางคนถูกบังคับให้กินอุจจาระ หรือถูกตัดแขนขาอย่างทารุณ และสุดท้าย พวกเขาก็จะถูกนำตัวไป "ทุ่งสังหาร" เพื่อฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม
ที่น่าสลดใจคือ มีคนถูกคุมขังที่ตวล สเลง กว่า 20,000 คน แต่มีผู้รอดชีวิตเพียงหยิบมือ ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการทรมาน หรือถูกฆ่าทิ้งอย่างเลือดเย็น
ทุกวันนี้ ตวล สเลง ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อเตือนใจคนรุ่นหลังถึงความโหดร้ายของสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ภาพถ่ายของนักโทษที่ถูกทรมาน เครื่องมือทรมานที่ยังหลงเหลืออยู่ และเรื่องราวของผู้รอดชีวิต ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ความโหดร้ายที่มนุษย์สามารถกระทำต่อกันได้
ตวล สเลง ไม่ใช่แค่เรื่องราวในอดีต แต่มันคือบทเรียนสำคัญที่เราต้องจดจำ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับตวล สเลง:
- กฎระเบียบสุดโหด: นักโทษต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบสุดเข้มงวด เช่น ห้ามพูดคุยกัน ห้ามขยับตัว แม้แต่การร้องไห้เมื่อถูกทรมานก็ไม่ได้รับอนุญาต
- การบันทึกอย่างละเอียด: เขมรแดงบันทึกข้อมูลนักโทษอย่างละเอียด ทั้งประวัติส่วนตัว รูปถ่าย และคำสารภาพ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ช่วงนั้น
- ผู้บัญชาการโหดเหี้ยม: "Duch" ผู้บัญชาการตวล สเลง เป็นผู้ควบคุมการทรมานและประหารชีวิตนักโทษด้วยตัวเอง เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในปี 2012
ตวล สเลง คือคุกที่โหดเหี้ยมที่สุดในสมัยเขมรแดง ที่ซึ่งนักโทษถูกทรมานและฆ่าอย่างโหดร้าย บทความนี้เน้นย้ำถึงความโหดร้ายของตวล สเลง และความสำคัญของการจดจำประวัติศาสตร์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต