วิธีกำจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้า

 

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ

หนึ่งในปัญหาของผ้าเหม็นอับ บางครั้งก็เกิดจากเครื่องซักผ้าที่สะสมคราบสกปรก เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกมากมาย จนนำมาสู่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือ การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำและสม่ำเสมอ ด้วยการเปิดฝาเครื่องซักผ้าเพื่อระบายอากาศ หากเป็นเครื่องซักผ้าที่มีโปรแกรมล้างถังซักอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกเปิดใช้งานโปรแกรมดังกล่าวได้ หากเครื่องซักผ้าไม่มีโปรแกรมล้างถังซักมีวิธีในการล้างถังซักได้ดังนี้

วิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

• เปิดเครื่อง และทำการเซ็ตระดับน้ำให้เหมือนกับการซักผ้าปกติ
• เทน้ำร้อนตามลงไป และใส่น้ำส้มสายชู 4 ถ้วยตวง ลงไปในช่องใส่ผงซักฟอก
• กดปุ่มทำงานตามปกติ ประมาณ 5 - 10 นาที เพื่อกำจัดแบคทีเรียและคราบต่าง ๆ

 

น้ำส้มสายชู

หากเป็นเสื้อผ้าปกติให้เทน้ำส้มสายชู ครึ่งถ้วย ถึง 1 ถ้วยลงไป พร้อมกับผงซักฟอกในขั้นตอนการซักผ้าปกติ

ถ้าเป็นผ้าขาวที่มีกลิ่นเหม็นอับ ให้ใช้น้ำส้มสายชู ร่วมกับการใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวแทนได้

แต่สำหรับผ้าที่มีความหนา อย่างเช่น ผ้าเช็ดตัว และผ้ายีนส์ ให้นำไปแช่ในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ต่อ น้ำเปล่า 1 แกลอน ทิ้งไว้ 2 – 3 ชั่วโมง ก่อนนำไปซักตามปกติ ความเป็นกรดของน้ำส้มสายชูจะช่วยขจัดกลิ่นอับให้จางหายไป

นอกจากนี้ น้ำส้มสายชู ยังมีช่วยทำให้ผ้าขนหนูนุ่มฟู ปรับสีผ้าให้สดใสขึ้น และ ขจัดคราบเหลืองบนผ้าขาว

 

 

เลือกใช้เครื่องอบผ้า ตัวช่วยในยามที่ฝนตก

การใช้เครื่องอบผ้า เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้สะดวก และประหยัดเวลา แต่ผ้าบางชนิด อย่างเช่น ผ้าคอตตอน เสื้อผ้าที่มียางยืด หรือผ้าไหม ไม่สามารถนำเข้าเครื่องอบผ้าได้ เพราะจะเป็นการทำลายเส้นใยผ้า ทำให้เสื้อผ้าหด หรือด้ายหลุดลุ่ย จึงควรพิจารณาให้ดีก่อนหยิบเสื้อเข้าเครื่องอบผ้า นอกจากนี้ หากเครื่องอบผ้าไม่ร้อนเพียงพอ ก็อาจส่งผลให้เสื้อผ้าไม่แห้ง และมีกลิ่นอับชื้นได้เช่นเดียวกัน

 

ลองเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า

หันมาใช้สูตรที่ช่วยลดกลิ่นอับ เพราะ มีคุณสมบัติและนวัตกรรรมที่ช่วยแก้ และป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยเฉพาะ เป็นสูตรที่เหมาะกับการตากผ้าในร่ม รวมถึงในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ส่วนเสื้อผ้าตัวไหนมีความหนาเป็นพิเศษ จะมีกลิ่นอับมากกว่าตัวอื่น ๆ ควรแยกออกมาซักในวันที่มีแดดและอากาศปลอดโปร่ง ไม่ควรซักรวมกัน เพราะอาจส่งผลให้เสื้อผ้าตัวอื่น ๆ สะสมกลิ่นตามไปด้วย

 

เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเฉพาะ

เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับตากในที่ร่ม มาใช้ควบคู่กับผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้าสูตรป้องกันกลิ่นอับ จะช่วยลดกลิ่นหมักหมมและอับชื้นได้ ทำให้ผ้านุ่มลื่น ใส่สบาย ต่อให้ตากในวันที่ฝนตกหนัก ก็จะไม่เจอปัญหา เสื้อเหม็นอับ อย่างแน่นอน

 

 

ใช้น้ำมันหอมระเหย เพิ่มความหอมสดชื่นให้กับผ้า

ในกรณีที่ผ้าเหม็นอับจากการเก็บไว้ในตู้นาน ๆ หรือซักแล้วยังมีกลิ่นอับ วิธีแก้คือ ให้เอาน้ำมันหอมระเหยมาฉีดใส่เสื้อผ้า เพื่อให้ผ้ามีกลิ่นหอม แต่ก่อนที่จะใช้น้ำมันหอมระเหย ให้ตรวจเช็กก่อนว่าเป็นสูตรที่ต้องผสมน้ำก่อนนำไปใช้หรือไม่ เพราะบางชนิดก็จะมีความเจือจาง สามารถฉีดใส่เสื้อผ้าได้เลยโดยไม่ต้องผสมน้ำ

 

แช่ผ้าในตู้เย็น

การนำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับไปแช่ในตู้เย็น หรือช่องฟรีซ เพื่อให้ความเย็นฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยจะแช่ไว้ประมาณ 1 คืน หรืออย่างต่ำ 2 ชม. ก่อนนำมาซัก เพียงเท่านี้เสื้อผ้าของคุณก็จะไม่มีกลิ่นเหม็นอับ แต่ก่อนที่จะนำไปแช่ในตู้เย็น ควรเอาเสื้อผ้าที่จะซักใส่ในถุงพลาสติก หรือถุงซักผ้าแบบซิปล็อกก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ความสกปรกจากเสื้อผ้าสัมผัสกับช่องฟรีซ หากใช้กับกางเกง หรือเสื้อยีนส์ ก็จะช่วยถนอมสีไม่ให้ซีดได้ด้วยเช่นกัน

 

ตากเสื้อผ้าให้โดนแดด และมีอากาศถ่ายเทสะดวก

ควรเลือกตากผ้ากลางแจ้งในช่วงเช้า หรือในพื้นที่ที่อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก อย่างเช่น ริมหน้าต่าง หรือริมระเบียง เพราะ แสงแดดและลมที่พัดผ่าน จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ผ้าแห้ง ทั้งยังกำจัดกลิ่นอับได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ควรใช้ไม้แขวนเสื้อ แขวนผ้าแต่ละตัวให้มีระยะห่างกันพอสมควร เพราะ จะทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้าเสื้อผ้าได้ง่าย

 

 

เบกกิ้งโซดา

นำเบกกิ้งโซดามาโรยลงบนเสื้อผ้าที่มีปัญหากลิ่นเหงื่อ หรือกลิ่นเหม็นอับทั้งด้านใน และด้านนอกให้ทั่ว วางทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน จากนั้นให้สะบัด หรือใช้แปรงขนอ่อนปัด เบกกิ้งโซดาที่โรยทิ้งไว้ออกจากเสื้อ ก่อนนำไปซักตามปกติ แต่ไม่ควรใช้ร่วมกับน้ำส้มสายชู เพราะ น้ำส้มสายชูมีสภาพเป็นกรด ส่วนเบกกิ้งโซดามีค่าเป็นด่าง จึงควรเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

 

มะนาวและเกลือ

เสื้อผ้ามีเชื้อราเป็นจุดดำ ๆ เกิดขึ้น จากปัญหาตู้เสื้อผ้าชื้น หรือกองเสื้อผ้าเปียกเหงื่อที่ทิ้งไว้หลายวัน ให้รีบแก้ไขโดยการบีบน้ำมะนาวลงบนคราบเชื้อราให้ชุ่ม แล้วโรยเกลือตามลงไป ใช้นิ้วถูวน ๆ หรือใช้แปรงนำมาขัดตรงเสื้อ โดยเฉพาะบริเวณจุดที่มีกลิ่นอับเป็นพิเศษ จากนั้นนำผ้าไปตากแดดให้น้ำมะนาวและเกลือแห้งสนิท ก่อนนำผ้าไปซักตามปกติ เพื่อให้ความเป็นกรดของมะนาวช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้น และลดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้า

 

วอดก้า

เป็นตัวช่วยดับกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าได้ดีไม่ใช่น้อย โดยเอาวอดก้ามาผสมกับน้ำยาหอมระเหย แล้วเอาฉีดลงบนเสื้อผ้า เพียงเท่านี้ ก็ได้ผ้าที่หอมสดชื่นแถมไม่มีกลิ่นอับแล้ว

 

ใช้ถ่านดูดกลิ่นเหม็นอับ

ถ่านหุงข้าว หรือ ถ่านอัดแท่ง เป็นตัวช่วยชั้นดีในการดูดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน แต่ก่อนที่จะนำไปใช้ ให้เอาถ่านใส่ถุงน่อง หรือผ้าขาวบางก่อน นำไปแขวนหรือวางไว้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เสื้อผ้าเปื้อนรอยดำจากถ่านได้

 

กากกาแฟสด

เป็นตัวช่วยชั้นดีในการดูดกลิ่นต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยนำกากกาแฟไปใส่ถุงแล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือวางไว้ในกล่องที่เก็บผ้าได้เลย เพียงเท่านี้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ก็จะหมดไป