หลงรักคนมีเจ้าของต้องตกนรกไหม ?
ถาม: ความรู้สึกรักที่เกิดกับคนมีเจ้าของ ผิดศีลไหม?
ตอบ: ไม่ผิด
การผิดศีลแบบขาดทะลุเกิดขึ้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์กัน
นับแต่โอษฐกามไปจนถึงเพศสังวาส
ถาม: ต้องเจอหน้าบ่อยๆ
หักห้ามความรู้สึกไม่ได้
จินตนาการเรื่องราวเชิงชู้สาวมากมาย
ถือเป็นบาปไหม?
ตอบ: ไม่บาป
ถ้าไม่แสดงออกให้เจ้าตัวเกิดการรับรู้
แต่เป็นมลทินทางจิตตนเอง
เห็นได้จากความทรมานใจ หรือรู้สึกผิด
และถ้ามากเกิน ก็ไปต่อกับคนอื่นไม่ถูก
เพราะการมีสองใจ
จะเหมือนมีชนักปักอกอยู่ตลอด
ถาม: เคยตั้งใจคิดลงมือเอาจริง
ไม่ใช่แค่จินตนาการหรือฝันไป
แต่ทำไม่สำเร็จเมื่ออีกฝ่ายบ่ายเบี่ยง
อย่างนี้ต้องได้รับโทษสถานใด?
ตอบ: แม้ตั้งใจเอาจริง
แต่ยังไม่สำเร็จผล
ก็นับว่าศีลแค่ด่างพร้อย
ยังไม่ขาดทะลุ
ยังไม่มีเงาบาปเงากรรม
ข้อกาเมสุมิจฉาก่อรูปขึ้นตามตัวสำเร็จ
แต่ความเฉียดได้เฉียดเสียนั้น
ก็ชักนำเข้าสู่วงการแล้ว
ปีศาจกาเมสุมิจฉาเห็นหน้าแล้ว
และวางแผนล่อลวงให้มีแนวโน้มเกิดเรื่องอีก
ต้องคุมใจหนักกว่าคนไม่เคยคิดสองเท่า
หรืออาจเป็นสิบเท่า
ถาม: ฝันว่ามีอะไรกับคนมีเจ้าของ ศีลขาดไหม?
ตอบ: ศีลนั้น
นับเอากายและวาจาของจริงเป็นหลัก
ใจจะคิด หรือกระทั่งเก็บไปฝันอย่างไร
ก็ไม่ทำให้ผิดศีลไปได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้าฝันนั้นเกิดขึ้นเอง
ไม่ได้หมกมุ่นครุ่นคิดเอาจริง
ถาม: คิดว่าไม่เจอนานๆเดี๋ยวก็ลืม
แต่ในทางปฏิบัติ
ทำไมกี่ปีก็ไม่ลืมเสียที?
ตอบ: ในทางธรรมชาติของสังสารวัฏ
ถ้าเคยมีสัมพันธ์พิศวาส
ครองคู่ชู้ชื่นกันมาในปางก่อน
ก็เป็นไปได้ที่จะเกิดใจปฏิพัทธ์ตลอดชีวิต
หวนไปคิดถึงอยู่เรื่อยๆ
แต่ขอให้สังเกตว่าจะมาเป็นแค่ช่วงๆ
ไม่มีทางเกิดขึ้นตลอดเวลาเหมือนอยู่ตรงหน้ากัน
นั่นเพราะอะไรๆไม่เที่ยง
แม้แต่ความปรุงแต่งจิตพิศวาสคู่แท้หมื่นชาติ
ถาม: ถ้าแน่ใจว่า
เคยเป็นสามีภรรยากันในชาติก่อน
จะถือว่ามีสิทธิ์สักนิดสักหน่อยได้ไหม?
ตอบ: อย่าว่าแต่เคยเป็นสามีภรรยาในชาติก่อน
แม้แต่เพิ่งเป็นสามีภรรยาในชาตินี้แล้วหย่าขาดกัน
ก็ไม่มีสิทธิ์ในกายของกันและกัน
เสมอเจ้าของคนปัจจุบันแล้ว
ขอให้เข้าใจว่า หากเป็นผู้ที่ระลึกชาติได้จริง
รู้ว่าเคยชื่อแซ่อะไร รู้ว่าเคยอยู่กินกับใครกี่ปี
รู้ว่าเคยปรองดองหรือทะเลาะเบาะแว้งท่าไหน
ก็จะทราบว่า ชาติก่อนก็เหมือนๆชาตินี้นี่แหละ
เคยเป็นคนแปลกหน้า
เคยอยู่ในช่วงคบหาดูใจ
เคยตกลงปลงใจร่วมหอ
เคยกระสับกระส่ายอยากมีคนอื่น
เคยสองจิตสองใจอยากเลิก
เคยงอนเล็กๆ
เคยโกรธไม่อยากเผาผี
เคยจากเป็น
เคยจากตาย
ไม่มีหรอกชาติก่อนชนิดที่เป็นตราประทับ
รับรองตายตัวว่า
ฉันมีเอกสิทธิ์ในสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา
จึงอ้างสิทธิ์ ‘ขอหน่อย’ ในชาตินี้
เทียบเสมอกับเจ้าของหน้าใหม่
ที่ใจเราเข้าข้างตัวเองว่า
คนใหม่เป็นแค่ของชั่วคราว
ดอกไม้ริมดง ขี้หมาริมทาง
ถาม: อยากตัดใจจากคนมีเจ้าของ
ขออุบายที่ได้ผล
ตอบ: ทุกความรู้สึกที่เป็นจริงเป็นจัง
เกิดจากการกระทบทางหูตา
เมื่อเห็น เมื่อได้ยิน เมื่อรู้สึก
จะสั่งลบไม่ได้
แกล้งคิดให้รู้สึกเป็นอื่นไม่ได้
ฉะนั้น เอาคำแนะนำแบบพระพุทธเจ้า
คือ ไม่เห็นกันเลยดีที่สุด
แต่ถ้าต้องเห็น ต้องพบเจอ ก็อย่าพูดกันเลยดีที่สุด
แต่ถ้าต้องพูด ก็ให้พูดเท่าที่จำเป็นให้กระชับสั้นที่สุด
อย่าหยอกล้อ อย่าเผลอยั่วแหย่หวังเสียงหัวเราะ
เพราะใจไม่มีทางแกล้งคิดว่า
จะหัวเราะเพียงเพื่อกระชับไมตรี
มีแต่หัวเราะแล้วเผลอเปิดประตู
ปล่อยให้ใจพุ่งออกไปผูก
เมื่อผูกแล้วก็ไม่อยากแก้เท่านั้น
ถาม: อดคุย อดหยอกไม่ได้อยู่ดี
ขออุบายให้ตัดใจได้ทีเถอะ!
ตอบ: ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน
อะไรๆเกิดจากใจ ถ้าใจอ่อน
ขอข้อยกเว้นนิด
ขอหอมปากหอมคอหน่อย
นั่นแปลว่า กำลังอยู่ในท่ายักแย่ยักยัน
เท้าข้างหนึ่งเหมือนปักหลักนิ่งอยู่บนแผ่นดินดี
แต่เท้าอีกข้างเหมือนแหย่ยื่นเตรียมขึ้นต้นงิ้วแล้ว
ขอให้รู้เถอะว่า ต้นงิ้วมักเล่นตลกกับคนสองจิตสองใจ
ด้วยการยื่นหนามลงมาเรี่ยพื้น
จัดโอกาสเหมาะมาให้ถึงที่
จะเรียกว่าเป็น ‘วันซวยทางธรรม’ ก็ได้
ถ้าใจอ่อนๆ
ไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันให้เข้มแข็งรอต้านไว้ก่อน
ส่วนใหญ่ก็พลาดไป แล้วมาเสียใจกันทีหลังทั้งนั้น!