สาเกญี่ปุ่น
สาเก เป็นคำเรียกของคำว่า "สุรา" ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถหมายถึงเหล้าได้หลายชนิด โดยทั่วไป สาเก จะหมายถึง เหล้าที่ทำมาจากข้าว ในขณะที่บางท้องที่ จะหมายถึง เหล้าที่กลั่นจากมันสำปะหลังหรืออ้อย ในบางครั้ง จะหมายถึง โชจู หรือที่รู้จักในชื่อ "วอดกาญี่ปุ่น" ต้นกำเนิดของสาเก มีกล่าวไว้หลายทฤษฎี ได้แก่ นำเข้าจากจากประเทศจีนสู่ประเทศญี่ปุ่น หรืออีกทฤษฎีว่า มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นเอง คำว่า สาเก ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษมักจะเรียกผิดเป็น "สากี"
วิธีดื่มสาเกอย่างมีความสุข
สาเกเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดพิเศษ คือ สามารถดื่มได้อย่างมีรสชาติ ทั้งในขณะร้อนหรือเย็น หรือสุดแต่อุณหภูมิในห้อง มีขอบเขตการดื่มที่กว้างมากกว่าสุราชนิดอื่น ๆ คือ ตั้งแต่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ไปจนถึงนำมาอุ่นร้อนที่ 56 องศาเซลเซียส
โดยทั่วไป สาเกจะมีอยู่ 4 ประเภท คือ 1. รสชาติหวาน 2. รสอ่อนนุ่ม 3. รสจัด 4. สาเกเก่าแก่ ทั้ง 4 ประเภทนี้ให้ความสุขสมกับผู้ดื่มที่แตกต่างกันออกไป
สาเก เสิร์ฟได้ในถ้วยแก้วทั่ว ๆ ไป จนถึงถ้วยดินเผา เครื่องเคลือบ หรือถ้วยไม้เคลือบแลคเกอร์ รูปร่างของถ้วยและวัสดุที่ใช้ผลิตถ้วยสาเกนั้น จะช่วยเสริมรสชาติสาเกให้โดดเด่นขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกถ้วยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ประกอบกับอุณหภูมิจะช่วยให้สาเกนั้นมีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น
การที่สาเกมีหลากหลายชนิดและหลากหลายกลิ่น และนำมาเสิร์ฟได้ในหลาย ๆ รูปแบบ จึงทำให้การดื่มสาเกนั้นรื่นรมย์ขึ้นไปอีก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาล และอาหารที่ต้องจัดมาให้เข้ากัน
นอกจากนั้น ด้วยกลิ่นหอมหลายรูปแบบของสาเก สาเกยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมเครื่องดื่มแบบค็อกเทลได้ด้วย
สาเก สามารถดื่มควบคู่ไปกับอาหารทุกชนิดทั่วโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นประเภทใด หรือปรุงแบบใด เพราะสาเกจะช่วยให้รสชาติอาหารนั้นอร่อยยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดกลิ่นรุนแรงของเนื้อ และอาหารทะเลลงได้ สาเกจึงมีเสิร์ฟทั้งในร้านอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่งเศส อาหารอิตาเลียน หรือภัตตาคารอาหารตะวันตกทั้งหลาย
อ้างอิงจาก: พิน.(1-10 สิงหาคม 2559).สาเกเครื่องดื่มของชาวซามูไร. คู่สร้างคู่สม, 37,หน้า 4
https://th.m.wikipedia.org/wiki/สาเก_(%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2)?fbclid=IwY2xjawETDj5leHRuA2FlbQIxMAABHWALGdEAYpbYC0HXkTZjfjUB5-X_703C_DzyThwIIrkQmB9GVnmBkWukSg_aem_vdzD_cB3vKD1LGjttdkJ4g