งานเข้าพี่เต้ ป.ป.ช. ชี้มูลผิดจริยธรรม ลาสภาไปดู 4 Kings
เรื่องมันมีอยู่ว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือที่เราคุ้นเคยกันในนาม “พี่เต้” อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ออกไลฟ์สดเฟซบุ๊กแจ้งข่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 6 ต่อ 1 ชี้มูลความผิดด้านจริยธรรมของเขา กรณีที่พี่เต้ลาหยุดประชุมสภาไปพานักศึกษาไปดูหนังเรื่อง “4 Kings อาชีวะ ยุค 90” เมื่อปี 2564
พี่เต้บอกว่า เขาไม่คาดคิดว่าป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดด้านจริยธรรมเพียงเพราะเขาพานักศึกษาไปดูหนัง และถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว พี่เต้ก็เพิ่งทราบข่าวนี้เอง โดยป.ป.ช.จะส่งต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งโทษที่พี่เต้ต้องเจอ คือการตัดสิทธิทางการเมือง
พี่เต้เล่าว่า ที่เขาลาหยุดไปดูหนัง “4 Kings” เพราะตอนนั้นหนังไทยกำลังซบเซา เขาจึงต้องการสนับสนุนหนังไทย โดยซื้อตั๋วฟรีให้นักเรียนนักศึกษาที่ไม่มีเงินจำนวน 100 ใบ และประกาศอย่างชัดเจนบนเฟซบุ๊ก ขอเพียงว่าอย่าไปก่อความรุนแรง ไม่ได้พาไปก่อเหตุอะไรเลย
พี่เต้ยังเล่าอีกว่า การลาราชการปกติเมื่อลาแล้วจะไปทำอะไรก็ได้ และทุกครั้งที่เขาไม่เข้าประชุมก็จะทำหนังสือลาตลอด ต่างจาก ส.ส.เป็นร้อยคนที่ทำตัวเหมือนนักมายากล เซ็นชื่อแล้วก็หายตัวไป ไม่เข้าประชุม ไม่มีหนังสือลา แต่ยังเบิกค่าเครื่องบินมาประชุมที่กทม.
พี่เต้ดูข้อหาของตัวเองและคิดว่าเรื่องนี้อาจเข้าข่ายหมวด 2 หรือหมวด 3 ของมาตรฐานทางจริยธรรม หมวด 2 คือการทำให้เสื่อมเสียต่อตำแหน่ง หมวด 3 คือไม่อุทิศเวลาให้ราชการ แต่พี่เต้ยืนยันว่าเขาไม่เคยขาดประชุมสภาเลย และทุกครั้งที่ไม่เข้าประชุมก็ทำหนังสือลาก่อนเสมอ อย่างกรณีนี้ ภาพยนตร์ฉายเวลา 17.40 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ปิดประชุมสภาแล้ว โดยวันนั้นสภาปิดประชุมเวลา 16.30 น. แต่พี่เต้ทำหนังสือลาตั้งแต่ 14.00 น. เพราะต้องเตรียมตัว อาบน้ำ แต่งตัว ก่อนจะไปดูหนัง
พี่เต้ยังเล่าว่า ปกติเมื่อมีการกล่าวหา คณะอนุฯไต่สวนจะส่งจดหมายแจ้งข้อกล่าวหามาที่บ้าน เหมือนคดีชูสามนิ้วที่พี่เต้ก็ได้รับจดหมาย แต่กรณีไปดูหนัง 4 Kings กลับไม่มีจดหมายแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ดีๆ ป.ป.ช.ก็ชี้มูลมาเลย พี่เต้ก็งงว่ามันลัดขั้นตอนอะไรหรือเปล่า
พี่เต้ยืนยันว่าเขาจะสู้ในทั้งสองศาล แต่จะตรวจสอบขั้นตอนของป.ป.ช.ก่อนว่าครบถ้วนหรือไม่ ถ้าไม่ครบก็จะฟ้องศาลปกครองขอให้เพิกถอนกระบวนการพิจารณาทั้งหมด เนื่องจากไม่ครบขั้นตอน
สุดท้ายนี้ พี่เต้ฝากบอกว่า “จะสู้ให้สุดทาง ไม่ยอมแพ้แน่นอน!”
"เอาจริงๆ นะ ไม่คิดว่าการพาน้องๆ ไปดูหนังจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เลย!"
แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับเรื่องนี้?
ภาพ : x.com

















