เจ้าหนี้ต้องรู้ เทรนด์ใหม่ลูกหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ฟ้องเจ้าหนี้ซะเลย
การกู้ยืมเงินเป็นบทบังคับให้บุคคลกระทําตามหน้าที่ที่มีอยู่ ซึ่งในกฎหมายแพ่ง หน้าที่นั้นคือ การชําระหนี้ของลูกหนี้ หากลูกหนี้ไม่ชําระจึงต้องฟ้องเป็นคดีแพ่ง ดังนั้นหากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ เจ้าหนี้ต้องฟ้องเป็นคดีแพ่ง การไปแจ้งความตํารวจเพื่อให้ดําเนินคดีอาญาเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินจึงไม่สามารถทําได้ และตํารวจไม่มีอํานาจไปฟ้องคดีแพ่งแทนผู้เสียหายได้เช่นกัน
แต่ในทางกลับกัน หากเจ้าหนี้ทวงหนี้ เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือทวงหนี้ด้วยวิธีการประจานลูกหนี้ทั้งทางออนไซต์และออนไลน์ อาจถูกลูกหนี้ฟ้องกลับเป็นคดีอาญา เช่น ประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานหมิ่นประมาท พ.ร.บ. ทวงหนี้ พ.ร.บ. การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
ปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ทางสังคมเจ้าหนี้ลูกหนี้ ที่เราจะเห็นได้บ่อยตามข่าว คือ ลูกหนี้ฟ้องคดีอาญาเจ้าหนี้โพสต์ประจาน ยอมจ่ายเงินค่าทนาย ค่าขึ้นศาล เพื่อให้เจ้าหนี้เสี่ยงติดคุก แต่ไม่ยอมชำระหนี้คงค้าง ในขณะที่เจ้าหนี้ทำได้เพียงฟ้องบังคับคดีทางแพ่ง เป็นหนี้ก็ควรจ่าย ไม่ใช่จ้างทนายมาฟ้อง
กลายเป็นว่าทำให้สังคมตั้งคำถามถึงปรากฏการณ์นี้ว่า ทำไมลูกหนี้หัวหมอทำเช่นนี้ แค่ชำระเจ้าหนี้ครบตามสัญญา เจ้าหนี้ก็ไม่เสียเวลาให้เหนื่อย จ้างทนายฟ้องเจ้าหนี้ทำไม เอาเงินที่จ้างทนายไปคืนเจ้าหนี้ดีกว่าไหม ถูกต้องแล้วหรือที่ทำแบบนี้ ทำไมไม่ย้อนนึกเวลาที่ตนเอง
ลำบอกต้องอ้อนวอนขอยืมเงินเจ้าหนี้บ้าง
ปัจจุบัน ภาครัฐมีโครงการมหกรรมแก้หนี้ ไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ เพื่อลดปริมาณคดีที่เกี่ยวพับกับการกู้ยืมขึ้นสู่ศาล ลดปัญหาการทวงหนี้ของเจ้าหนี้ ลดปัญหาลูกหนี้เบี้ยวเจ้าหนี้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ไกล่เกลี่ย ของภาครัฐ คอยให้ความช่วยเหลือดูแลแก้ปัญหาหนี้สินให้ทั้งสองฝ่าย ประชาชนทั่วไปที่มีปัญหาหนี้สิน สามารถขอรับความช่วยเหลือได้
*** ถ้าภาครัฐเข้ามาช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ระบบการเคลียร์หนี้สิน ก็จะดีขึ้น ***
รูปภาพ : เครดิตบนภาพ





















