หมู่บ้านฮัวซี (Huaxi Village) หมู่บ้านมหาเศรษฐีของจีน
หมู่บ้านที่มีราคาแพงนั้น คนที่อยู่ที่นั่นก็ถูกมองว่าเป็นเศรษฐีไปโดยปริยาย อย่างเช่นหมู่บ้านฮัวซี (Huaxi Village) ตั้งอยู่ในเมืองจางยิน ทางตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 607 ไร่ และได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน หมู่บ้านแห่งนี้มีสมาชิกประมาณ 2,000 คน ซึ่งแต่ละคนมีรายได้เฉลี่ยอย่างน้อยประมาณ 5 ล้านบาทต่อปี และทุกคนมีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ในชีวิตครบทุกอย่าง หมู่บ้านฮัวซีปัจจุบัน ถือเป็นตัวอย่างของหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จที่สุด ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมือปี 1961 จากเดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีแต่ชาวบ้านยากจน ทำการเกษตร
แต่ด้วยการผลักดันของ อู๋เหยินเป่า อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ ที่สร้างแผนพัฒนาอุตสาหกรรม ระบบเก็บเกี่ยวผลผลิตและก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โดยเขาได้นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 และมีชาวบ้านทุกคนเป็นผู้ถือหุ้น ถึงแม้ อู๋เหยินเป่า จะเสียชีวิตลงในปี 2013 แต่เขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การปกครองแบบคอมมินิสต์ก็สามารถทำให้ผู้คนเจริญรุ่งเรืองได้ โดยอุตสาหกรรมไหม เหล็ก และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของหมู่บ้นาฮัวซี สร้างรายได้ถึง 9.6 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 3.36 แสนล้านบาทในปี 2012 ซึ่งแน่นอนว่า ผลกำไรทั้งหมดถูกปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนในหมู่บ้าน ถึงแม้ทุกคนจะมีรายได้มหาศาล แต่ก็ต้องถูกหักภาษีสูงถึง 80% แลกกับการที่พวกเขาจะได้อยู่ในบ้านหรู รถยนต์ใหม่ (โฟล์คหรือซีตรอง)
ศูนย์สุขภาพ สถานศึกษา ร้านอาหารหรูในโรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเมือง ซึ่งทุกอย่างฟรีทั้งหมด รวมไปถึงเงินบำนาญที่จะได้รับเมือผู้หญิงมีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้ชายมีอายุ 55 ปีขึ้นไป แต่สวัสดิการที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ รวมถึงสิทธิ์ในการถือหุ้น มีให้กับลูกหลานของชาวบ้านฮัวซี่ดั้งเดิม ที่มีอยู่ราว 2,000 คันเท่านั้น ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะในพื้นที่ของหมู่บ้านทั้งหมด ยังมีแรงงานจากต่างถิ่นที่อพยพเข้ามาทำงานที่นี่มากว่า 20,300 คน
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นหมู่บ้านที่น่าอยู่ ถึงแม้จะถูกปกครองแบบคอมมิวนิสต์ก็ยอม แต่ช้าก่อน เพราะกฎการอยู่อาศัยของที่นี่ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว เช่น การพนันและยาเสพติดทุกชนิด ถูกห้ามอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ยังห้ามทุกคนพูดหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อใดๆ ก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องของที่นี่อีกด้วย (แสดงว่าต้องเคยมีคนสละสิทธิ์นี้ ถึงได้มีข้อมูลมาให้อ่านกันแบบนี้) และยังต้องมาทำงานตลอด 7 วัน หากใครฝ่าฝืนกฎจะถูกยืดทุกอย่างที่มีทันที และถึงแม้ชาวบ้านทุกคนที่นี่จะดูรวยมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาอะไรมาเป็นทรัพย์สินส่วนตัวได้ และหากมีใครต้องการออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ไป ก็ไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้เลยสักอย่าง . . .
ไม่มีอะไรได้มาแบบฟรีๆหรือง่ายๆ ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง(หรือหลายอย่าง)เสมอ