กลยุทธจัดการกับคนหลงตัวเอง Narcissism
มนุษย์อยู่กันเป็นสังคม ผู้คนหลากหลายนิสัยพฤติกรรม หนึ่งในความหลากหลายนั้นคือ มีลักษณะนิสัย Toxic แบบหลงตัวเองหรือที่เรียกว่า Narcissistic Personality Disorder มาดูกันว่าอาการของนิสัยสายนี้เป็นแบบไหน คุณจะได้บริหารจัดการสถานการณ์อารมณ์ความรู้สึกของเขาของคุณได้ถูก ตามกลยุทธที่ว่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี!
ลักษณะนิสัยเหล่านี้ เรียกว่า Narcissism หรือ คนหลงตัวเอง
- ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง: คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น คนอื่นต้องหมุนรอบตัวเขา ไม่ใช่เขาไปหมุนรอบตัวคนอื่น ต้องว่าตามฉัน ฉันคือ กฎ ฉันคือ เจ้านาย ฉันคือ ผู้สร้างโลก !
- ขาดความเห็นอกเห็นใจคนอื่น: ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดหรือรู้สึกอย่างไรกับการกระทำของตัวเอง เพราะเมื่อพวกเขาเป็นศูนย์กลางแล้ว นั่นหมายความว่า ก็โลกนั่นแหล่ะที่ต้องปฏิบัติให้ถูกใจฉัน
ไม่ใช่ธุระของฉันที่จะต้องไปทำอะไรให้โลกหรือให้ใคร
คือ จะเอาอย่างเดียว อะไรที่เป็นผลประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อพวกพรรคตัวเอง ก็จะมีเหตุผลที่ชอบธรรมว่าตัวเอง/พรรคพวกควรได้ ต้องได้ แต่อะไรที่จะให้คนอื่น เป็นประโยชน์เอื้อเฟื้อต่อคนอื่น พวกเขาก็จะมีเหตุผล มีกฎมาอ้างว่า ทำไมคนอื่นจึงไม่ควรได้ ทำไมพวกเขาให้ไม่ได้! และดูเป็นกฎ เป็นกติกาที่ฝ่าฝืนไม่ได้แม้แต่ในสถานการณ์ที่ควรมีมนุษยธรรม ด้วยนะ!
- ต้องเป็นที่สนใจและจดจำจากคนอื่น:
ถามว่าคุณธรรม ความดีงาม ผลงาน คุณภาภคุณค่าของตัวเองมีเพียงพอที่ควรได้รับมันไม่ ไม่เลย! แต่ต้องการคำชมเชย ยกย่อง สรรเสริญ การยอมรับนับถือเกรงอกเกรงใจ ที่โดยเนื้อแท้แต่ตัวพวกเขาเองก็ธรรมดาเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้พิเศษแตกต่างอะไร หรืออาจจะอ่อนด้อยกว่าคนทั่วไป แต่คนเหล่านี้ต้องการความสำคัญ ในระดับที่อยากให้โลกจดจำพวกเขา ไม่ว่านั่นจะเรียกว่าหลอกหรือปลอมก็ตาม - รู้สึกมีสิทธิพิเศษ:
พวกเขาจะคิดว่าตัวเองสมควรได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าคนอื่น เอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจกฎระเบียบ และยิ่งอยู่ในตำแหน่ง อำนาจ หรือหน้าที่ที่เอื้อต่อการได้รับสิทธิหรือได้รับสิ่งใดที่มากกว่าคนอื่น ความรู้สึกว่าตัวเองพิเศษ ก็จะยิ่งพองโตมากยิ่งขึ้น และยิ่งส่งเสริมพฤติกรรมของการเอาแต่ใจ ไม่สนใจกฎระเบียบ เพราะความเชื่อของพวกเขาเกี่ยวกับตัวตนของตัวเอง คือเหนือกฎระเบียบไปแล้ว
- ใช้ประโยชน์จากผู้อื่น:
มองคนอื่นเป็นเครื่องมือเพื่อสนองความต้องการของตน การขาดความเห็นใจผู้อื่น เป็นนิสัยไม่พึงประสงค์ที่นำไปสู่นิสัยด้านลบอื่นๆอีกมากที่รวมความไว้ในวงของความไม่จริงใจทั้งปวง! ทุกอย่างตั้งอยู่บนผลประโยชน์ นิสัยเจ้าเล่ห์ หน้าไหว้หลังหลอก และอีกสารพัดพฤติกรรม ที่พวกเขาถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่พวกเขาจะทำมันได้อย่างง่ายๆ และไม่รู้สึกผิดกับมัน ตรงกันข้าม...พวกเขาจะคิดว่าเป็นจุดแข็ง เป็นความเฉลียวฉลาด เป็นความเหนือชั้นไปอีกต่างหาก - ขาดความรับผิดชอบ:
ความกล้าหาญของพวกเขาไม่ได้มีไว้เพื่อรับผิดชอบสิ่งใด แต่เพื่อใช้ในการโยนความผิด ให้กับคนอื่น(บางกรณี คุณอาจสามารถใช้คำว่า อย่างหน้าด้านๆได้เลย) เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นเป็นต้องโทษคนอื่นไว้ก่อน โดยอัตโนมัติ แม้แต่ความผิดพลาดล้มเหลวของตัวพวกเขาเอง ที่พวกเขากระทำมันเอง พวกเขาก็สามารถมอง และสร้างตรรกะว่าเป็นความผิดของคนอื่นได้ และพวกเขาเชื่อมันจริงจังด้วยว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ! - อิจฉาริษยาผู้อื่น:
รู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จ เพราะความพอใจของพวกเขาคือ ฉันต้องเป็นศูนย์กลาง ของจักรวาล ใครจะเด่นจะดีกว่าฉันไม่ได้ ใครจะได้มากกว่าฉัน จะสำเร็จเกินฉันไม่ได้! ไม่ว่าที่หนึ่ง อยู่ตรงไหน แสงไหน Sceneไหน ต้องเป็นฉันที่ยืนอยู่ตรงนั้น! ฉันจึงจะมีความสุข ฉะนั้น เมื่อเป็นคนอื่นขึ้นมา คนเหล่านี้...เป็นทุกข์ขึ้นมาทันที ถ้าจิตแข็งหน่อยก็อาจระงับอาการไว้ได้ แต่ถ้าจิตอ่อนก็จะแสดงพฤติกรรมที่ทำให้ผู้คนรอบข้างได้กลิ่นได้เห็นได้รับรู้ทันทีว่า มีคนขี้อิจฉาริษยาอยู่แถวนี้! - มีความภาคภูมิใจในตนเองสูงเกินไป:
มนุษย์ทุกคนย่อมมีความรู้สึกนี้ เป็นธรรมดามนุษย์ย่อมรู้คุณค่าตัวเอง ภาคภูมิใจในความดี ความรู้ ความสามารถ ความสำเร็จ ความเป็นตัวเอง แต่เหล่า Narcissism จะมากกว่าปกติธรรมดา จนกลายเป็นโอ้อวดความสามารถ หรือความสำเร็จของตน และพฤติกรรมทำตัวสูงส่ง ที่ผู้คนทั้งหลายยากที่จะพบ ยากที่จะติดต่อสื่อสาร ที่จะเข้าหา ยากที่จะได้รับการยอมรับจากพวกเขา พวกเขาเป็นอะไรที่เกินเอื้อม!
- มองโลกในแง่ลบ:
นิสัยที่ไม่เคยทำดีต่อคนอื่น กลายเป็นฐานความคิดที่ว่า คนอื่นก็คงจะเหมือนตัวเองคือ ไม่เคยคิดดี ทำดี ต่อใคร ฉะนั้นสิ่งที่คนเหล่านี้คิดคือ...คิดว่าคนอื่นกำลังนินทา หรือคิดร้ายต่อตน การมองโลกในแง่ลบ ชอบจับผิด หวาดระแวง ไว้ใจคนยาก(หรือไม่ไว้ใจใครเลย) ทำให้การวิเคราะห์ การตัดสินใจของพวกเขาเป็นไปในทางลบ และนั่นมันก็ยิ่งพาพวกเขาดำดิ่งลงไปสู่สิ่งที่ลบหนักเข้าไปอีก .. - กลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์:
แท้จริงแล้วพวกเขาเปราะบาง ไม่กล้ารับฟังความจริง ความถูกต้อง (เพราะนิสัยที่พวกเขาเป็น คือ เอาความถูกใจเป็นใหญ่) ไม่กล้ายอมรับตรรกะที่เป็นธรรม เพราะพฤติกรรม(ดังที่กล่าวมา)ผิดทางมาตั้งแต่ต้น เพราะฉันเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งอย่าง ฉันจะผิดไม่ได้ ฉันต้องถูกต้อง ฉันต้องดีงามเท่านั้น!
และทุกคนต้องรับรู้และยอมรับพวกเขาในแบบนั้น แต่ความจริงสิ่งที่พวกเขาเป็นคือ ความคับแคบ เห็นแก่ตัว ขี้ขลาด และเลวร้าย!
ฉะนั้น พวกเขาไม่สามารถยอมรับความจริงใดๆได้ ข้อวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ทำให้พวกเขาได้หยุดคิด สำรวจตัวเอง หรือเพื่อแก้ไขใดๆ
มันเพียงแต่ทำให้พวกเขารู้สึกอับอาย และโกรธแค้นคนที่วิพากษ์วิจารณ์พวกเขาเท่านั้น
นิสัยและพฤติกรรม หลงตัวเอง ดังกล่าวสุดท้าย ก็เป็นไปตามกฎแห่งการกระทำ คือ ผลลัพธ์ในทางลบจะย้อนกลับไปหาตัวพวกเขาเอง นั่นคือ
- การใช้ชีวิตของพวกเขาไม่มีความสุข เพราะมักเต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งภายในตัวเอง และกับผู้คน สังคมภายนอก
- มีปัญหาในความสัมพันธ์
เกิดปัญหาความสัมพันธ์ในทุกด้านการทะเลาะกับคนรัก ขัดแย้งกับเพื่อนสนิท มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ไร้ความสงบสุข ไม่มีความกลมเกลียว เป็นความสัมพันธ์ที่แห้งแล้ง นั้นคือสภาพภายในที่เป็นผลมาจากตัวตนของพวกเขาเอง
นิสัยพฤติกรรมแบบ Narcissism มาจาก 3 สาเหตุใหญ่ๆ คือ
-จากพันธุกรรม
-จากการเลี้ยงดู: พวกเขาอาจเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ที่มีนิสัยลักษณะดังกล่าว หรือถูกกดดันจากพ่อแม่ จากคนรอบข้างว่าพวกเขาต้องให้ประสบความสำเร็จ ต้องเก่งกว่าคนอื่น ต้องดีกว่าคนอื่น ต้องชนะคนอื่น และสุดท้ายแรงกดดันเหล่านั้นกลายเป็นเสมือนเนื้อร้ายก่อร่างเป็นตัวตนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา
ประสบการณ์ในวัยเด็ก: เช่น เคยถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ หรือถูกกีดกัน หรือประสบการณ์เลวร้ายในลักษณะอื่นๆ ที่ฝั่งในจิตใจของพวกเขาและกลายเป็นปมที่ก่อเกิดกลายเป็นนิสัยพฤติกรรมด้านลบติดตัวเติบโตมากับพวกเขา
จะทำอย่างไร ? หากต้องใช้ชีวิตกับคนเหล่านี้ !
- ยอมรับว่าคุณเปลี่ยนแปลงพวกเขาไม่ได้การจะเปลี่ยนตัวเองยังเป็นเรื่องยาก การจะเปลี่ยนคนอื่นนั้นก็ยิ่งยากกว่า ฉะนั้น คุณไม่ต้องหงุดหงิด หรือโทษตัวเอง โทษสังคม แค่ยอมรับรู้ความจริงตรงหน้าว่า คุณเปลี่ยนแปลงเขาไม่ได้
- กำหนดขอบเขตของคุณ: สิ่งที่คุณทำได้คือ ดูแลปกป้องตัวคุณเอง ในพื้นที่ ในสิทธิของคุณ สื่อสารหรือทกให้พวกเขารู้ว่าแค่ไหนคุณรับได้ แบบไหนคุณยอมไม่ได้ มีจุดยืนของคุณ และอย่าจ่ายเวลาในการโต้เถียงกับพวกเขา หากคุณทำได้…จงเดินออกไปจากสถานการณ์นั้นซะ
- เข้าใจตัวเอง ดูแลตัวเอง: การศึกษาผู้คนและตนเอง จะทำให้คุณเข้าใจความเป็นมนุษย์ คุณจะรู้คุณค่าของตัวเอง ของผู้อื่น คุณจะรู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไรในท่ามกลางความหลากหลาย และต้องดูแลตัวเองอย่างไรในฐานะที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในรูปแบบความสัมพันธ์ต่างๆ
- สุขภาพกาย สุขภาพใจของคุณ: สุขภาพดี คือ ต้นทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรบการใช้ชีวิตทุกด้าน ความแข็งแรงทั้งร่างกายจิตใจจะทำให้คุณพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์โลกและผู้คนข้างนอก
- อย่าปล่อยให้พวกเขา Manipulate คุณ โกงคุณ หลอกใช้คุณเป็นเครื่องมือ อย่าปล่อยให้พวกเขาเป็นผู้กำกับ หรือจัดการเหตุการณ์ คุณจำเป็นต้องรู้ให้ทันพวกเขา และรับมือแก้ไขสถานการณ์ให้เป็นไปทิศทางที่ควรจะเป็น คือ ถูกต้อง เป็นธรรม ( อย่างที่กล่าวไว้ พวกเขาคือศูนย์กลาง ไม่สนความถูกต้อง แต่จะเอาแค่ถูกใจ )
- มีเพื่อนนิสัยดีๆ หาแรงบันดาลใจดีๆ ปัญหามาจากคน ก็ต้องแก้ด้วยคนเช่นกัน รักษาคนนิสัยดีพฤติกรรมสร้างสรรค์เอาไว้ในชีวิตคุณให้มาก พวกเขาคือแหล่งพลังใจ และแรงบันดาลใจที่ดี
ส่วนคนที่นิสัยไม่ดี...คุณต้องกล้าจัดการแก้ไข เช่น วางพวกเขาไว้ในระยะที่คุณปลอดภัย หรือตัดออกจากชีวิตคุณ
- รู้คุณค่าในตัวเอง มั่นคงในจุดยืนของคุณ นับถือตัวเอง เคารพตัวเอง และคุณเองก็ต้องได้รับการเคารพจากคนอื่น และได้สิทธิในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกันกับทุกๆคน
- การสื่อสารของคุณกับพวกเขาต้องชัดเจน(หากมีสถานการณ์ขัดแย้งกัน) การสื่อสารที่ชัดเจนสำคัญ ภาษาพูด ภาษากาย ประเด็นของเรื่องหรือเหตุการณ์คุณต้องสื่อสารให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงการกล่าวหา และย้ำข้อที่ 7 เคารพตัวเอง มั่นคงในจุดยืนของคุณ
- รู้จักถอยออกมา และมองหาความช่วยเหลือ ตามข้อแรก คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพวกเขาได้ ฉะนั้นการใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาไม่ว่าในสถานการณ์ใด หรือฐานะใดก็แล้วแต่
หากคุณรู้สึกเครียด เป็นทุกข์ รู้สึกถึงการถูกบั่นทอน รู้สึกถึงวิกฤตทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ .. ที่มากเกินรับไว้ การยอมรับความจริง และการถอยออกมาจากคนเหล่านั้น จากสถานการณ์นั้นๆ จะช่วยให้คุณรอด! จำไว้ว่าการถอยหรือการเดินออกมาหมายถึงการจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่า แต่การดันทุรังด้วยทิฐิเพื่อเอาชนะในสนามแห่งความ Toxic นั่นอันตรายเกินกว่าที่คุณจะเอาชีวิตไปเสี่ยง!
- มองหาความช่วยเหลือ อย่าเก็บกดเรื่องราวเลวร้ายใดๆก็แล้วแต่ไว้กับตัวคุณเองเพียงคนเดียว คุณจำเป็นต้อง Detox หาวิธีจัดการเอาสารพิษนั้นออกจากชีวิตของคุณ อาจเป็นคนที่คุณไว้ใจที่ยินดีรับฟังคุณ เข้าใจคุณ ให้คำปรึกษาคำแนะนำ ให้กำลังใจคุณ ช่วยให้คุณมีกำลังใจขึ้นมาและกลับมามีชีวิตที่เป็นสุขตามปกติที่ควรจะเป็น
- เรียนรู้ ทำความเข้าใจกับตัวเอง กับผู้คน ด้วยการศึกษาธรรมะ ฝึกจิตใจให้สามารถนิ่งสงบ มั่งคงได้ในสถานการณ์ที่ไม่ราบรื่น ระลึกไว้เสมอว่า ทุกสถานการณ์ที่ไม่สวยงามที่คุณต้องเผชิญ พลังที่คุณต้องใช้คือ สติ และปัญญา ไม่ใช่ดราม่าหรืออารมณ์ ( ถ้าจะใช้อารมณ์ จงใช้อารมณ์ดีๆ )
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งนี้เป็นเป็นประโยชน์ต่อคุณ และคนที่คุณห่วงใย