One china x New voter ไต้หวัน ผงาดรอวันกลับไปเป็นจีนเดียว ผ่านวาทะศิลป์ชาตินิยม
จากผลการสำรวจข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้งไต้หวัน “นิวโหวตเตอร์” อาจส่งผลต่อทิศทางผลเลือกตั้ง กล่าวคือ จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไต้หวัน 19.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (New voter) อายุระหว่าง 20-23 ปี กว่า 1.02 ล้านคน แม้ว่าคนรุ่นใหม่ไต้หวันจะมีความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นของจีนต่อไต้หวัน แต่ปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ค่าแรงตกต่ำและปัญหาที่อยู่อาศัยราคาสูงลิ่วจนเข้าถึงไม่ได้ กลับเป็นความกังวลที่ใหญ่กว่า พวกเขาจึงมีความต้องการที่ดำรงชีพเฉกเช่นประชากรในประเทศที่เจริญแล้วและเป็นมหาอำนาจอย่างจีน ประกอบกับคนจีนมีการปลูกฝังค่านิยมกตัญญู ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน แล้วจึงจะได้ดี จีนแผ่นดินใหญ่จึงเปรียบเสมือนแผ่นดินแม่ ดินแดนของบรรพบุรุษ ที่สร้างความยิ่งใหญ่มาจนปัจจุบัน
พลเมืองจีนและไต้หวันรุ่นใหม่ร่ำเรียนวิชาประวัติศาสตร์จีน จากการศึกษาพบว่าในอดีตประเทศจีน เกิดการรวมประเทศ แตกแยก แล้วกลับมารวมกันใหม่ หลายต่อหลายครั้ง ในหลายยุคสมัย บางช่วงแห่งการแตกแยก ก็กินเวลายาวนานถึง 600 ปี เช่น ยุคสามก๊ก ยุคราชวงศ์เหนือใต้
ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร ยุคแมนจูกัว และยุคสาธารณรัฐจีน เป็นต้น พูดง่าย ๆ ก็คือชาวจีนจำนวนมากไม่กลัวการรวมชาติ เพราะบรรพชนจีนผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาแล้วหลายต่อหลายรุ่น
ผู้นำจีน “สีจิ้นผิง” และ อดีตแคนดิเดตผู้นำไต้หวัน “โหวโหย่วอี๋”กับ “เค่อเหวินเจ๋อ” ต่างก็มีแนวคิดที่สอดคล้องกันว่าการรวมชาติจีนกับไต้หวันเป็น ‘สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้’ คนไต้หวัน คนฮ่องกง คนมาเก๊าและคนจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นพี่น้องและเพื่อนร่วมชาติ การร่วมมือกันของจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวันนั้น จะส่งผลดีต่อทั้งสอง และต่อโลกมากกว่าด้วยเหตุนี้ “จีนเดียว” จึงควรจะได้รับการสนับสนุนอย่างสันติและปราศจากความรุนแรง
ดังนั้น ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามีความเป็นไปได้สูงว่าการรวมชาติของจีนและไต้หวันอย่างสันติอาจจะประสบความสำเร็จ ด้วยวิธีการใช้วาทะศิลป์ชาตินิยมเข้าไปแทรกซึมในใจคนไต้หวัน ผ่านกุศโลบาย “ผสานความต่าง รวมใจเป็นหนึ่ง” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความรุ่งโรจน์แห่งช่วงเวลาการฟื้นฟูชาติจีน
รูปภาพ : เครดิตบนภาพ















