ท่าหมา ท่ารวมรักสุดเก่าของมนุษย์ชาติ
ท่าหมาหรือที่เรียกกันว่า "ด็อกกี้สไตล์" เป็นท่าเพศสัมพันธ์ที่มีการปฏิบัติมานานนับพันปี ประวัติของท่านี้ย้อนไปถึงสมัยโบราณ และมีการกล่าวถึงในงานศิลปะ วรรณกรรม และบันทึกทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่บ่งบอกถึงการปฏิบัติของท่าหมามาจากหลายแหล่งทั่วโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแพร่หลายและการยอมรับในวัฒนธรรมต่าง ๆ
หนึ่งในหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของการมีเพศสัมพันธ์ท่าหมามาจากศิลปะโบราณของอารยธรรมซูเมเรียนและบาบิโลนในเมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันคือตะวันออกกลาง) ภาพสลักและภาพวาดบนหินและสิ่งประดิษฐ์จากสมัยนั้นแสดงให้เห็นถึงการมีเพศสัมพันธ์ในท่านี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและการเจริญพันธุ์
อีกแหล่งที่สำคัญคือภาพจิตรกรรมฝาผนังจากยุคโรมันโบราณ ซึ่งพบในเมืองปอมเปอีและเฮอร์คิวเลเนียมที่ถูกฝังอยู่ใต้เถ้าภูเขาไฟวิสุเวียสเมื่อปี ค.ศ. 79 ภาพวาดและประติมากรรมในบ้านเรือนและสถานที่สาธารณะในเมืองเหล่านี้แสดงถึงท่าเพศสัมพันธ์หลากหลาย รวมถึงท่าหมา ซึ่งสะท้อนถึงความเปิดเผยและการยอมรับเรื่องเพศในสังคมโรมันโบราณ
ในเอเชีย หลักฐานที่เด่นชัดคือภาพวาดและประติมากรรมจากวัฒนธรรมอินเดียโบราณ โดยเฉพาะในศิลปะทางเพศที่พบในวัดและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เช่น วัดขาชูราฮันจิในรัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ซึ่งมีภาพสลักหินแสดงถึงท่าทางการมีเพศสัมพันธ์ที่หลากหลาย รวมถึงท่าหมา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกทางศาสนาและการเจริญพันธุ์ในยุคนั้น
วรรณกรรมทางเพศจากยุคโบราณ เช่น กามสูตร (Kama Sutra) ซึ่งเป็นตำราทางเพศที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่เขียนโดยนักปรัชญาอินเดียชื่อวาสยะยนะ (Vatsyayana) ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ยังได้บรรยายถึงท่าทางการมีเพศสัมพันธ์หลากหลายแบบ รวมถึงท่าหมา ซึ่งแสดงถึงความรู้และความเข้าใจในเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของคนในยุคนั้น
ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ท่าหมามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีการบันทึกในงานศิลปะและวรรณกรรมจากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก การที่มีการพบหลักฐานเหล่านี้สะท้อนถึงความแพร่หลายและการยอมรับในสังคมโบราณ ทั้งในเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และศาสนา